15. ไม่ได้อยากมีน้อง

1759 คำ
จินผิงยังคงอึ้งกับสิ่งที่เห็นในตอนนี้ โจเยว่กำลังยิ้มถึงแม้จะไม่ใช่ยิ้มกว้างเหมือนคนที่มีความสุขมาก แต่มันก็ดีกว่าหน้าปกติที่เขาชอบทำ ซึ่งมันสะกดให้เธอเอาแต่จ้องจนอีกฝ่ายโน้มหน้าลงมาใกล้ยังไม่รู้ตัว “จินผิงฉันเก็บเสร็จแล้วนะ เดี๋ยวเข้าไปช่วย” เสียงจากด้านนอก ทำให้ร่างเล็กได้สติ รีบผลักคนตัวโตออกทันที พร้อมกับหมุนตัวหันหลังให้เขา รีบทำทีเป็นเก็บของอย่างลุกลี้ลุกลน “อ้าว! คุณชายมู่ก็อยู่เหรอคะ” เจียวหมี่ยิ้มแห้งเมื่อเห็นคนที่ไม่น่าจะมาช่วยมากที่สุดอยู่ในนี้ด้วย “เลิกเรียกฉันว่าคุุณชายมู่เสียที เรียกผู้กอง ไม่ก็เรียกเหมือนที่เรียกสามคนนี้ก็ได้ ฉันไม่ถือ” บอกแล้วก็ทำหน้านิ่งเหมือนเดิม ลูกน้องที่ยืนอยู่หน้าประตูถึงกับเลิกคิ้วตาโต จู่ ๆ เจ้านายก็ให้เรียกตำแหน่งที่น้อยคนจะรู้ ยิ่งไปกว่านั้นคือเรียกพี่เหมือนที่พวกเธอใช้เรียกพวกเขาก็ได้ ซึ่งข้อนี้มันสำคัญมาก เพราะตั้งแต่โจเยว่มีน้องสาว ก็ไม่เคยให้ใครเรียกตัวเองว่าพี่อีกเลย คำนี้เก็บไว้ให้มู่หนานจิ่งน้องสาวเขาคนเดียว ใครมาเรียกพี่โจเยว่ เป็นต้องถูกดุทุกราย ทว่าตอนนี้กลับเสนอให้เอง “มันไม่ดีหรอกค่ะ พวกเราก็แค่แม่ค้าจน ๆ ที่เรียกคนของคุณได้ก็เพราะฐานะพอกัน ต่างจากคุณที่เป็นถึงลูกนายพล บรรพบุรุษมีหน้ามีตามาหลายร้อยปี ไม่ใช่ตาสีตาสาอย่างพวกเรา แค่เรื่องที่คุณยื่นมือมาช่วยอยู่ทุกวันนี้มันก็มากพอแล้ว อย่าให้ถึงกับตีสนิททำเหมือนเป็นญาติกันเลยค่ะ เรารับความกดดันในวันหน้าไม่ไหว” จินผิงหันมาบอกเขา สีหน้าเธอดูเรียบเฉยมาก ทว่าในใจกลับรู้สึกต่างออกไป มันแย่จนกลัวจะเผลอซ่อนไว้ไม่ได้ เธอไม่อยากให้เขาเข้าใกล้มากไปกว่านี้ มันจริงอย่างที่เธอพูด ฐานะทางสังคมทั้งพวกเธอต่างจากเขามาก ถ้าเกิดเผลอใจไปชอบเขา มีแต่เธอนี่แหละที่จะเจ็บ โจเยว่เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเธอ และมันก็ทำให้ทุกคนที่มองอยู่ต่างก็ลุ้นระทึกตามไปด้วย สีหน้าเจ้านายดูไม่พอใจมาก เขาคงไม่โกรธจนปล่อยทิ้งให้เธอต้องเผชิญชะตากรรมอย่างโดดเดี่ยวหรอกนะ ใคร ๆ ก็รู้ว่ามู่โจเยว่เด็ดขาดแค่ไหน ถ้าได้ชังขี้หน้าเขาไม่มีทางสนใจแน่ ถึงจะถูกทำร้ายต่อหน้าก็ตาม ชายหนุ่มยื่นมือออกมาจับไหล่จินผิงทั้งสองข้างพร้อมกับโน้มหน้าลงมาหา “บอกเธอให้ก็ได้ว่าฉันไม่ได้อยากมีน้องสาว ที่ให้เรียกแบบนี้ก็เพราะ” จู่ ๆ เขาก็เว้นช่วง ซึ่งมันทำให้ทุกคนถึงกับกลั้นหายใจตามด้วยความอยากรู้ “เพราะอะไรก็พูดมาสิ” เป็นจินผิงที่อดถามไม่ได้ “เพราะฉันชอบเธอเข้าแล้วน่ะสิ ที่ให้เรียกพี่ไม่ใช่หมายถึงพี่ชาย แต่เป็นพี่ที่หมายถึงที่รัก” คำตอบเขามันทำให้ทุกคนอึ้ง โดยเฉพาะคนที่ถูกสารภาพ เธอกำลังยืนตัวแข็งทื่อพูดไม่ออก ที่ช็อคไปกว่านั้นก็คืออีตาคุณชายนี่ขโมยจูบเธอไปแล้ว ต่อหน้าต่อตาทุกคนด้วย ทำไมเขาถึงได้หน้ามึนขนาดนี้เนี่ยะ โจเยว่ขยับยืนตัวตรง มือก็ปล่อยออกจากบ่าคนตัวเล็กแล้ว เขามองเธอที่มีท่าทางตื่น ทำตาโตเท่าไข่ห่าน ยกมือสองข้างขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ หายใจแรงเหมือนคนวิ่งมาหลายรอบ พลันยิ้มชอบใจจากใบหน้านิ่งก็เผยออกมา “คน คนฉวยโอกาส” นิ้วขาวยกขึ้นชี้หน้าเขา แก้มเธอแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงเสียอีก จนเจียวหมี่ต้องรีบเข้ามาปลอบ “คุณไม่ควรทำแบบนี้” เธอตำหนิอีกฝ่ายทันที และมันก็เป็นครั้งแรกที่เจียวหมี่พูด ปกติเธอจะไม่ค่อยว่าใคร “ฉันจริงจัง และจะไม่ยอมปล่อยมือด้วย จินผิงเองก็ชอบฉัน เธอแค่ปิดกั้นตัวเองเท่านั้น ก็แค่ฐานะที่ต่างกัน ทำไมต้องเอามันมาตั้งเป็นกำแพงกั้นความรู้สึกที่มี คนเราถ้ามันไม่ใช่ ต่อให้ร่ำรวยเหมือนกันถ้ามันไม่ใช่ก็เลิกลากันอยู่ดี ฉันแค่อยากอยู่กับคนที่ทำให้สบายใจ ยิ้มได้ในทุก ๆ วันก็เท่านั้น” จินผิงนิ่งไปอีกรอบไม่ต่างจากคนอื่นที่ได้ยิน นึกไม่ถึงว่าคุณชายหน้านิ่งจะมีความคิดอะไรแบบนี้ เพราะตั้งแต่เกิดมา มู่โจเยว่ไม่เคยจีบใคร และไม่เคยมีท่าทีอ่อนโยนกับผู้หญิงคนไหนเลย นอกจากแม่และน้องสาวที่ตายไปแล้วเท่านั้น หลังจากได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย จินผิงก็นึกถึงตัวเองในโลกที่จากมา เธอเองก็คิดไม่ต่างจากเขาเลย อยากมีคนที่ทำให้ยิ้มได้ในทุก ๆ วัน อยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องร่ำรวยเหมือนกันก็ได้ ขอแค่คนคนนั้นรักและซื่อสัตย์ไม่ทิ้งขว้างให้อยู่โดดเดี่ยวก็พอ มีปัญหาก็ช่วยกันแก้ไขและอยู่ข้างกันตลอด หนักแน่นและเติบโตไปด้วยกัน นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ “เราอย่าพึ่งมาพูดเรื่องนี้กันเลยค่ะ คุณกับฉันพบกันยังไม่ถึงสิบครั้งด้วยซ้ำ จะมาบอกว่าชอบได้ยังไง อีกอย่างฉันก็ยังเด็กไม่อยากคิดเรื่องนี้ ชีวิตในแต่ละวันก็ไม่ปลอดภัย อย่าพึ่งเอาเรื่องพวกนี้มาใส่หัวฉันเลย” เธอบอกเขาโดยไม่มองหน้า พร้อมกับขยับถอยห่างออกมาด้วย อยู่ใกล้แล้วใจมันสั่นยังไงไม่รู้ เขาพูดถูก เธอเองก็ชอบเขาแต่ก็พยายามปิดกั้นมันเอาไว้ โจเยว่เผยยิ้มที่มุมปากอีกแล้ว พร้อมกับก้าวเข้ามาหา “ไม่เป็นไรฉันเข้าใจเธอต้องการเวลา แต่รู้อะไรไหมจินผิงถ้าเธอกระโดดตะครุบฉันเมื่อกี๊ ไม่แน่ฉันอาจเลิกล้มความตั้งใจก็ได้ ทว่าพอเห็นแบบนี้แล้วฉันยิ่งไม่อยากปล่อยเธอไป ฉันจะรอจนเธอโตและพร้อมจะเป็นเจ้าสาวของฉันแล้วกัน แต่อย่ามาบอกให้ฉันอยู่ห่าง ๆ เด็ดขาด เพราะเธอไม่มีทางสมหวังแน่” ไม่รู้มันเป็นคำบอกเล่าหรือขู่ ทว่าหลายคนที่ฟังต่างก็ยิ้มตามแล้ว “เจ้านายเอาจริงใช่ไหม” จ้าวเหว่ยหันมากระซิบถามเพื่อน “ขนาดนี้ไม่เอาจริงได้ไง แกเคยเห็นคุณชายยิ้มให้ใครไหมล่ะ” เจียหยางพูดขึ้น เขาเองก็แทบไม่เชื่อสายตาเหมือนกันนึกไม่ถึงว่าเจ้านายจะกล้าสารภาพต่อหน้าคนอื่นด้วย “เรารีบเก็บของขึ้นรถเถอะ” ต่วนหลี่รีบบอก ทั้งสามเลยแยกย้ายกันยกของ เจียวหมี่เองก็ดึงเพื่อนออกห่างโจเยว่ เพราะตอนนี้จินผิงดูไม่ค่อยมีสติเอาซะเลย หน้าก็แดงจนลามมาถึงหู ผิดกับอีกคนที่หน้าระรื่นจนน่าหมั่นไส้ ครึ่งชั่วโมงต่อมา ข้าวของก็ถูกเก็บขึ้นรถเรียบร้อย เพราะมีแค่เสื้อผ้าของใช้นิดหน่อยกับเครื่องครัวเท่านั้น “เธอไปกับฉัน” มือใหญ่คว้าขวับเข้าให้ “ไปไหน” ร้องท้วงเสียงหลง เพราะเจียวหมี่ขึ้นรถกะบะที่ขนของแล้ว แต่โจเยว่กลับรั้งเธอให้เดินตามมาที่รถเขา “คุณจะให้ฉันไปด้วยเหรอ ไหนบอกว่าไม่ให้ผู้หญิงขึ้น” ถามในสิ่งที่รู้มา แต่พอได้ยินคำตอบก็ทำเอาอึ้งไปอีก “ก็ใช่ไง ไม่ให้ผู้หญิงคนไหนขึ้น นอกจากแม่ของลูก” พูดจบเขาก็ปิดประตูให้ พร้อมกับดันไหล่เธอเข้าไปด้วย เจียงหยางก็ได้แต่ยิ้มเอ็นดูเจ้านาย รุกหนักขนาดนี้จินผิงจะทนได้ถึงสามวันไหม “คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองหน้ามึนขนาดนี้” เธอหันมาถามเขา ซึ่งคำตอบมันไม่ใช่เสียงพูดแต่เป็นการกระทำ เพราะโจเยว่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำท่าจะหอมเธอซะงั้น มือขาวเลยต้องยกขึ้นมาดันหน้าอีกฝ่ายไว้ โดยมีเจียหยางนั่งหัวเราะชอบใจอยู่ “ฉันจะไม่พูดกับคุณอีกแล้ว” คนตัวเล็กแหวใส่ลั่นรถ “เรียกพี่โจเยว่” เขาจับมือเธอออกจากหน้าแล้ววางลงบนตักตัวเอง จินผิงเลยใช้อีกข้างดันไหล่เขาไว้ “อย่ามาบังคับนะ” แหวใส่อีกรอบ “ไม่ได้บังคับ แต่ถ้าไม่ทำ พี่จะหอมแก้มลงโทษนะ” ฟังเขาพูดเข้า ไหนบอกจะเว้นระยะห่างรอให้เธอโตกว่านี้ก่อน แล้วการกระทำนี้มันอะไรกัน คิดแต่จะติดเล็กตอดน้อยเอาเปรียบอยู่ได้ “ถะ…ถอยออกไปนะคนหื่น ถ้าไม่หยุดฉันจะโกรธจริง ๆ แล้วนะมู่โจเยว่” ตวาดลั่นรถจนคนขับยังตกใจ คนถูกดุถึงกับหน้าเสีย รีบปล่อยมือขยับนั่งตัวตรงทันที ทว่าใบหน้าก็ยังหันมาทางเธออยู่ มองจินผิงตาละห้อยเชียว “ไม่ทำแล้วครับ” บอกเสียงอ่อยเหมือนลูกแมว “คุณมันบ้า” ไม่รู้จะด่าอะไร เพราะอีกฝ่ายมึนเหลือเกิน “พี่ก็เป็นกับเธอคนเดียว” ดูเอาเถอะ เธอไม่ยอมเรียกเขา ชายหนุ่มก็แทนตัวเองในแบบที่เขาต้องการเองเสียเลย ในขณะที่เธอกำลังถกเถียงอยู่กับโจเยว่ในรถ ซึ่งด้านนอกไม่มีใครได้ยินอยู่แล้ว ทำให้คนที่ยืนอยู่หน้าบ้านได้แต่ยืนขบกรามแน่น มองท่าทางสนิทสนมของทั้งคู่อย่างแค้นใจ “ที่ปฎิเสธฉันก็เพราะมีคนรวยมาจีบสินะ” หย่งชุนรู้สึกเหมือนตัวเองถูกทรยศยังไงไม่รู้ เขาอุตส่าห์ดีกับเธอมาตลอด ไม่ว่าอยากจะได้อะไรก็พยายามหาให้ ทั้งที่เขาก็หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน ในหัวชายหนุ่มตอนนี้กำลังคิดหาทางเอาคืน เขาเลยปั่นจักรยานตามไปดูว่าพวกเธอย้ายไปอยู่ที่ไหนกัน #อีผีประจำซอยเบา ๆ หน่อย ลูกสาวฉันตกใจ 55 ​​​​​​
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม