หึงพี่รึNC

1245 คำ
ตอนที่ 7 หึงพี่รึNC . “เรียบร้อยรึไม่?” เสียงเข้มของ พ่อครูไกรศร เอ่ยขึ้นอยู่หน้าเรือนหลังใหญ่ หลังจากที่รถกะบะขับเข้ามาแล้วจอดสนิท และลูกน้องทั้งสองเดินลงจากรถแล้ว “เรียบร้อยจ้ะพ่อครู ฉันทำตามที่พ่อครูบอกทุกอย่างเลย” ไอ้กล้า เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม หันไปสบตากับ ไอ้เข่ง ว่าควรจะบอกพ่อครูดีมั้ยที่พวกตนพบกับไอ้แหยม ลูกน้องทรยศที่มันมาขอร่วมในการลอยอัฐอังคารด้วย แต่ทั้งสองขยิบตากันเล็กน้อย คิดว่าไม่เอ่ยไม่พูดจะดีกว่า ด้วยไม่อยากให้พ่อครูไม่สบายใจ และเห็นไอ้แหยมมันก็บอกจะข้ามฝั่งไปเขมรแล้ว ท่าทางคงจะไม่มีโอกาสได้เจอะเจอกันอีกเป็นแน่แท้ คงจะไม่สำคัญอะไรแล้ว เรื่องบางอย่างเราไม่เอ่ยถึงจะดีกว่า “ดีแล้ว ข้าจะได้สบายใจเพราะตลอดสามปีที่ผ่านมา ข้าบำเพ็ญภาวนากับอัฐมันมาตลอด การลอยอังคารมันในวันนี้จะเป็นการปลดปล่อยมันสู่ภพภูมิที่ดี ไม่มีเวรกรรมที่ต้องห่วงกันอีกต่อไปแล้ว” ไกรศร ถอดถอนลมหายใจ ดวงตาคู่สีนิลหลุบต่ำลงเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา และได้คิดว่าตนได้ตั้งจิตอโหสิกรรมต่อคนรักเก่าแล้ว ต่อแต่นี้คงไม่มีสิ่งใดจะต้องติดค้างในใจต่อกันแต่อย่างใด “แล้วคุณภพ เป็นเช่นไรบ้างพ่อครู ดีขึ้นรึไม่?” ไอ้เข่ง เอ่ยถามอย่างกังวล เมื่อเหลือบไปเห็น จำปี ถือถาดสำรับลงมาจากเรือนใหญ่ คาดว่าคงจะเป็นถาดสำรับที่ยกไปให้กับ ภพ แน่นอน “ทานไปเยอะพอควรจ้ะ ต้มไก่ใบมะขามอ่อนพร่องถ้วยเลย” จำปี เอ่ยอย่างลิงโลด และยื่นถาดให้ทั้งสามดู “ตอนนี้เหมือนจะหลับไปแล้วจ้ะ ฉันเอาจานไปล้างก่อนนะ พวกพี่ทั้งสองกินอะไรมารึยังจ้ะ?” “กินข้าวเหนียวที่สร้อยห่อให้นั่นแหละ มีอะไรเหลือในครัวบ้าง ต้มไก่ยังพอมีให้ซดมั้ย” ไอ้กล้าถามอย่างหิวโหย ก่อนจะเดินตามจำปา ไปยังลานครัวที่คาดว่าสร้อยน่าจะยังอยู่ตรงนั้น “มีจ้ะ พี่สร้อยเตรียมไว้ให้แล้ว” ไกรศร มองทั้งสามเดินจากไป ก่อนจะสาวเท้าเดินขึ้นเรือน เพื่อไปบริกรรมบำเพ็ญสวดให้กับ ภพ ต่อ แต่เมื่อเดินขึ้นยังชานเรือนด้านบน เห็นว่าห้องนอนใหญ่ของตัวเองเปิดแง้มไว้ คาดว่า จำปา เมียของตนน่าจะขึ้นมาหลังจากเก็บหม่อนเตรียมสาวเรียบร้อยแล้ว พลัน! เสียงหนึ่งดังแว่วแผ่วเบาลอยมาแสนไกล “ฮึกๆ พ่อครูช่วยฉันด้วย!” เสียงนั้นทำให้เท้าของ ไกรศร ชะงัก คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันอย่างฉงน ริมผีปากหยักได้รูปพึมพำเบาๆ “เสียงแก้วนี่นา” “มีอะไรเหรอจ้ะพี่ไกร?” จำปา เอ่ยทักจากด้านในห้องนอน หน้าสวยชะโงกหน้าออกมา เมื่อเห็นพ่อครูไกรศร ยืนนิ่งถอนหายใจอยู่หน้าห้องและจ้องมองไปยังชานระเบียงด้านนอกอย่างเหม่อลอย “เปล่าดอก ข้าแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น” หน้าคมเข้มของชายหนุ่มหันกลับมามองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน ก่อนจะเดินตามเมียคนสวยเข้ามาในห้อง ด้วยไม่อยากจะเล่ารายละเอียดที่เริ่มกังวลในใจให้เธอฟังมากนัก รึว่าบางทีเขาอาจจะแค่หูแว่วไปเองเท่านั้น . “วันนี้เมื่อตอนบ่ายวิไลมาที่นี่ด้วย น่าจะมาตามคุณภพ” จำปา เอ่ยบอกเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้อง ไกรศร เดินเข้าประชิดด้านหลังเธอ และสวมกอดจากด้านหลังในขณะที่หญิงสาวกำลังก้มๆเงยๆอยู่กับการกับปูผ้าบนฟูกนอน “มันก็แค่มาแต่ทำอันใดในเขตเรือนนี้ไม่ได้ดอก อย่ากังวลไปเลย” เขาก้มหน้าวางคางหนาลงยังไหล่ลาดของเธอ และสูดดมกลิ่นเรือนผมหอมผสานกับดอกมะลิที่ทัดข้างหูอย่างชื่นใจ “พี่คิดว่าวิไลเป็นปอบเชื้อจริงๆใช่มั้ย?” จำปา อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ “ก็คิดแต่เราต้องมีหลักฐานหลายอย่างมัดตัว ตอนนี้จะกระโตกกระตากไม่ได้ พี่ไม่อยากให้วิไลมันไหวตัว” แม้จะเอ่ยเช่นนั้น แต่ลึกๆแล้ว พ่อครูก็ยังมีความกังวลใจอยู่พอควร ด้วยตระหนักดีว่า ไสยเวทย์ดำที่ยายสาย สืบทอดมาหลายชั่วอายุคนนั้นหยั่งรากลึกในเชื้อสายนี้ และยิ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้ง เมื่อมีการส่งต่อทางสายเลือด โดยที่ วิไล อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีเชื้อที่รุนแรงมากมายตามติดอยู่ในตัวของตน เขาคาดว่าตอนนี้ วิไล แค่อยากจะลองของบางอย่างจากไสยเวทย์เพื่อใช้ประโยชน์เล็กๆน้อยๆเท่านั้น และคงยังไม่ใส่ใจถึงผลกระทบมากมายที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น ...นั่นคือสิ่งที่พ่อครูเป็นกังวล “เห็นว่าวิไลเขาหลงรักพ่อครูมาตั้งแต่เด็ก” จำปา เอ่ยกระเซ้าผัวของตน เมื่อนึกถึงคำพูดของ เปีย ที่เคยเล่าให้ฟังเมื่อตอนมาหาที่เรือน และเธอเองก็เขียนมันไว้เล็กน้อยในนิยายของตัวเอง “หือ ก็ช่างเขาประไร เอ็งหึงพี่รึยังไง?” เขากระซิบตอบเสียงแหบพร่า จมูกโด่งกดไล่ยังซอกคอระหงและขบเม้มเนื้ออ่อนเบาๆ จนขนอ่อนในกายของเธอเริ่มจะลุกชูชัน “ป่านนี้แล้ว ยังจะหึงอีกรึเมียจ๋า” “ไม่หึงผัวแล้วจะให้ฉันไปหึงใครละจ้ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานออดอ้อน เมื่อมือหนาถลกผ้าถุงขึ้นและลูบไล้ยังโคนขาอ่อนและเนินเนื้อด้านใน ร่างหนาของเขาบดเบียดแนบชิด จนเธอสัมผัสได้ถึงท่อนเอ็นแข็งร้อนที่เบียดเสียดอยู่กับสะโพกงามงอน ไม่ว่ากี่ครั้งเธอก็อ่อนระทวยกับสัมผัสของเขาเสมอ “ก็อ้อนเก่งแบบนี้ไง พี่จะไปไหนรอดละทูนหัว” มือหนาดันร่างบางให้หันกลับมา ท่อนแขนแข็งแรงรอบเอวเธอให้แน่นเข้า ร่างกำยำบดเบียดแนบชิด ท่อนขาเรียวสวยเธอแยกออกกว้าง เขาดันร่างของเธอให้เอนยังฟูกนุ่ม ดึงสะโพกงามงอนขึ้นมา จำปารู้สึกได้ถึงท่อนเอ็นร้อนสากด้วยเส้นเอ็นปูดโปนเสียดสีเข้ากับด้านในขาอ่อน “มะ..ไม่ไปห้องพระ หาคุณภพหรือจ้ะ” เธอกระซิบถามเสียงสั่นระริก เมื่อส่วนหัวอวบใหญ่ล่วงล้ำเข้ามาในกาย และโพรงเนื้อนุ่มของเธอก็ตอบรับด้วยการโอบรัดเขาอย่างกระตือรือร้น นั่นทำให้หน้าหล่อเหลาของ ไกรศร บิดเหยเกด้วยความเสียวซ่าน “เดี๋ยวค่อยไป ขอชื่นใจกับเมียเสียหน่อย” ไกรศร ตอบเบาๆข้างใบหูเล็ก ก่อนจะคำรามต่ำในลำคอ เมื่อขยับสะโพกบดเบียดเข้าหาร่างบางอย่างหนักหน่วง ริมผีปากร้อนดูดเม้มครอบครองยอดทรวงสลับไปมาทั้งสองข้าง ในขณะที่เอวสอบกระแทกกระทั้นถี่ระรัว ปึกๆๆ สวบๆๆ “อื้อ อ๊าย” จำปาครางเสียงหวาน ปลดปล่อยใจและกายให้จมกับสัมผัสที่ท่อนเนื้อร้อนที่สอดสวมเข้าออก และกรีดร้องอย่างสุขสมเมื่อเขาส่งเธอถึงฝั่งฝัน ....ครั้งแล้วครั้งเล่า *****************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม