ตอนที่ 8
ชายเดียวในดวงใจ
รุ่งอรุณของทุกวันในหมู่บ้านตาดแดด หมู่บ้านเล็กๆในชนบท ยังคงดำเนินวิถีชีวิตปกติดั่งเช่นทุกวัน ที่ผู้คนต้องตื่นแต่เช้ามืดมาหุงหาอาหาร เสียงไก่ เป็ดในเล้า ร้องดังระงม วัวควายถูกต้อนออกจากคอก เพื่อเตรียมตัวไปทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของมันคือ การทำงานรับใช้มนุษย์
บ้านผู้ใหญ่ทัศน์ มีวัวควายหลายตัวไม่ต่างจาก เรือนใหญ่ของพ่อครูไกรศร โดยตอนนี้หน้าที่ดูแลวัวควายในบ้านจะมีลูกเขยขาพิการคือ ทิดผัน ที่ตอนนี้ได้ขาเทียมจากกรมอนามัยเรียบร้อยแล้ว ว่ากันว่าการทำหน้าที่ของทิดผันนั้นไม่มีขาดตกบกพร่อง แต่ผู้ใหญ่ทัศน์ก็ยังคงให้ลูกสาวและลูกเขต อาศัยอยู่ยังเรือนเล็กท้ายบ้าน ที่อยู่ไม่ห่างจากคอกวัวควายนัก
“ไม่น่าเชื่อนะเปีย สวยๆอย่างมึง ต้องมาทำงานงกๆ รับใช้ผัวพิการแบบนี้ เป็นกูไม่เอาด้วยหรอก”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง ขณะที่ เปีย กำลังสาละวนอยู่กับเตาฟืนร้อน เพื่อเตรียมหุงหาสำรับในมื้อเช้าเตรียมให้กับครอบครัวและทิดผัน ที่ตอนนี้ต้อนวัวควายไปกินหญ้ายังท้องทุ่งให้อิ่มหนำสำราญ
“มาแต่เช้าเลยสวย มีอะไรกับกูรึ?”
เปีย เงยหน้ามาเอ่ยถามเมื่อเห็น ร่างระหงของ สวย เดินมานั่งยังแคร่ไม้ไผ่ด้านหลัง และไม่ใส่ใจกับคำพูดกระแหนะกระแหนของเจ้าหล่อนเท่าใดนัก
“กูเบื่อมาก ตั้งแต่พี่เกิดบวชจะเตรียมแต่งงาน บวชอะไรหนักหนาสามเดือนกว่าแล้วยังไม่ยอมสึกเสียที ถ้าเดือนหน้ายังไม่สึกนะ กูจะหาผัวใหม่แล้วนะเปียกูรำคาญละ”
สวย กระแทกเสียงอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะยกเท้าขึ้นมาวางบนแคร่ และปัดมือไปมาไล่ควันไฟที่ลอยมากระทบหน้าด้วยความหงุดหงิดใจ
ตั้งแต่ บุญเกิด บวช ตามคำร้องขอของบิดามารดา ก่อนจะเตรียมแต่งงาน เขาก็อยู่ในร่มกาสาวมิภักดิ์อย่างเคร่งครัด ไม่แม้แต่จะพูดคุยกับหล่อนเลยแม้แต่น้อย และคล้ายจะไม่มีทีท่าว่าอยากจะสึกออกมาแต่งงานกับหล่อนเลยเมื่อเวลาผ่านไป
ยิ่งคิด สวย ก็ยิ่งหงุดหงิด
“มึงใจเย็นก่อนได้มั้ยสวย พระเกิดท่านกำลังบำเพ็ญธรรมตามความตั้งใจ ดีเสียอีกไม่ได้ไปเหลวไหลที่ไหน มึงน่าจะส่งจิตภาวนาไปพร้อมกับท่านนะ”
เปีย บอกอย่างใจเย็น เร่งมือพัดไฟในเตาให้แรงขึ้น เพื่อให้น้ำในหม้อดินเดือด นั่นทำให้สวยหงุดหงิดยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“ดีกะผีอะไรละ กูพูดจริงนะเปียกูจะหาผัวใหม่ เห็นว่าจะมีครูคนใหม่เป็นหนุ่มหล่อจากบางกอกมาสอนที่โรงเรียนบ้านเรา ถ้ากูได้ผัวเป็นครูรับราชการ กูคงจะสบายไปทั้งชาติแน่นอน”
สวยเหยียดกายลุกขึ้น ด้วยเริ่มรำคาญและเหม็นกลิ่นควันไฟที่ฟุ้งไปมาอยู่รอบตัว นั่นทำให้มือขาวของ เปีย ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ามามองลูกพี่ลูกน้องของตน
เปียรู้มาตลอดว่า สวยเป็นคนทะเยอทะยาน และจะไม่ยอมหยุดอยู่ที่พี่เกิดแน่นอน
“มึงจะทำแบบนั้นได้อย่างไร ไม่สงสารพระเกิดรึ ไหนวันก่อนพระจะบวชมึงบอกมึงท้องกับพระเกิดไง แล้วลูกในท้องมึงจะทำเช่นไร”
เปีย หันมาถามด้วยแววตาตระหนก นั่นทำให้ สวย เบี่ยงหน้าหันไปมองอีกทาง
“ยังไม่มีใครรู้เสียหน่อยว่ากูท้อง แค่ไม่กี่เดือนเดี๋ยวให้ยายผันเอาออกก็ได้” สวยยักไหล่อย่างไม่ยีหระ
“อีสวย!! มึงอย่าทำอย่างนั้นเด็ดขาดเชียว”
เปีย อุทานลั่น ตาคู่สวยเบิกโพลงอย่างตระหนก ด้วยไม่คาดว่าลูกพี่ลูกน้องของตนจะจิตใจเย็นชาเช่นนี้
“เรื่องท้องกูบอกมึงแค่คนเดียวนะเปีย อย่าได้ไปบอกใครเชียว นี่มันเรื่องส่วนตัวของกู และหากครูประทินครูใหม่รู้เรื่องเข้าเขาจะมองกูไม่ดี กูต้องใสซื่อไว้ ดังนั้นมึงห้ามบอกใครเด็ดขาด”
สวย เขยิบเข้ามาใกล้และจับบ่าบางของ เปีย ไว้แน่น แววตาของหล่อนแข็งกร้าวคล้ายเป็นคำขู่
“สวย กูไม่นึกเลยว่ามึงจะคิดได้ขนาดนี้ขอร้องอย่าทำเลย ถ้ามึงไม่อยากเลี้ยง เดี๋ยวกูกับพี่ผันเลี้ยงเองก็ได้” เปีย เอ่ยเสียงอ่อน เมื่อเหลือบมองดูท้องของสวย ที่เริ่มจะนูนออกมาเล็กน้อย
“ไม่! กูไม่เก็บไว้ดอก แค่จะมาบอกมึงไว้”
สวยสะบัดหน้า และเดินหันหลังเตรียมจะกลับ แต่ยังไม่วายหันกลับมาถาม “มึงพอจะมีเงินให้กูยืมสักหน่อยมั้ย ถ้าเอาเด็กออกแล้ว กูว่าจะข้ามไปฝั่งเขมรเสียหน่อยเห็นว่าบ่อนที่นั่นเปิดใหม่เยอะ ได้เงินแล้วกูจะเอามาคืน”
“สวย! มึงยังเล่นอยู่อีกรึ ครูใหญ่รู้รึไม่?”
เปีย อุทานตาโต ไม่รู้ว่าควรตระหนกกับเรื่องอันใดก่อนดี ระหว่างสวยจะไปเอาเด็กออก หรือเรื่องจะข้ามไปเล่นพนันที่ฝั่งปอยเปต
“ไม่รู้ กูขี้เกียจฟังพ่อบ่นรำคาญหู มีให้กูยืมมั้ย”
“กูไม่มีดอก เงินเก็บของพี่ผันก็ใช้ในงานแต่งหมดแล้ว ข้าวปีนี้ก็ยังรอขายอยู่ ตอนนี้กูก็ใช้อย่างประหยัดไม่อยากรบกวนพ่อ” เปียเอ่ยบอกตามจริง นั่นทำให้สวยสะบัดหน้าอย่างหงุดหงิดใจ
“เสียเวลาจริง เดี๋ยวกูไปหาวิไลก็ได้! เอาเป็นว่าอย่าบอกเรื่องของกูกับใครละกัน ไม่งั้นกูไม่ปราณีมึงแน่เปีย”
เอ่ยเสร็จ สวย ก็กระทืบเท้าเดินจากไปโดยทันที ทิ้งให้ เปีย ยืนมองตามจนลับสายตา ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ....ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหน
สวย ก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย
.
.
“มาแต่เช้าเลย มีอะไรกับกูรึ?”
วิไล เอ่ยถามอย่างหัวเสีย เมื่อต้องเดินลงเปิดประตูหน้าบ้าน หลังจากได้ยินเสียงเคาะดังลั่นตั้งแต่เช้า และเห็น สวย ยืนหน้าบึ้งด้วยความหงุดหงิด
“กูรู้นะวิไลว่ามึงรับของและเชื้อจากยายสาย”
คำบอกตรงๆนั้น ทำให้คิ้วเรียวของ วิไล ขมวดขึ้นเล็กน้อย ความจริงเรื่องนี้อาจมีหลายคนในหมู่บ้านระแคะระคาย แต่ไม่มีใครกล้าจะเอ่ยแบบนี้กับหล่อนตรงๆเลยสักคน แต่อีสวย ลูกพี่ลูกน้องนี้มันชั่งกล้าเอ่ยแบบไม่กลัวเกรงเสียเลย
อาจเพราะก่อนหน้านั้น สวย มาใช้บริการคุณไสย์กับ ยายสาย อยู่บ่อยๆ ด้วยจำนวนเงินที่สูงลิ่วจากการได้มาจากบ่อนพนันฝั่งปอยเปต นั่นทำให้สวยเป็นลูกค้ากระเป๋าหนักของบ้านนี้
“มึงไม่กลัวกูรึไง ใครก็บอกกูเป็นปอบเชื้อ”
วิไล แค่นยิ้มเล็กน้อย แต่ยอมเบี่ยงกายให้ สวย เดินเข้าในบ้านแต่โดยดี เขาว่ากันว่า ผีเห็นผีย่อมจะไม่กลัวเกรงกัน อีสวยก็คงจะเป็นเช่นนั้น
จิตใจของมันก็ไสมม ไม่ต่างจากผีเท่าใด
“กูรู้ว่ามึงไม่ทำอะไรพร่ำเพรื่อ อย่างน้อยมึงก็ต้องใช้ร่างและของไปคู่กัน แล้วร่างของมนุษย์ปถุชนปัจจัยสำคัญที่สุดในชีวิตก็คือเงิน ของดำของมึงจะทำเงินให้มึงได้มหาศาล”
มันก็พูดถูก ..อะไรจะสำคัญกว่า เงิน
สิ่งที่มนุษย์ไขว่คว้าอยากได้อยากมี จนต้องพึ่งคาถาอาคมนั้น ล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น และสิ่งเหล่านี้มันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสนองกิเลสตัณหาของคนได้
“มึงต้องการอะไร?”
เมื่อสวย เอ่ยมาตรงๆ วิไล ก็ตามกลับไปตรงๆเช่นกัน ไม่มีเหตุอันใดที่ต้องอ้อมค้อมอีกต่อไป
“กูอยากได้ของเสน่ห์ที่ยายสายเคยให้ตอนเอาไปใส่พี่เกิดตอนนั้น” สวยเอ่ยตามตรง นั่นทำให้ วิไล หัวเราะร่วนคล้ายขำเสียเต็มประดา
“ฮ่าๆๆ ความจริงมึงก็ทำของใส่พระเกิดดอกรึ มิน่าพอท่านบวชแล้ว สติถึงได้เริ่มกลับมาจนไม่อยากจะสึก เพราะรู้ว่าใจตัวเองนั้นไม่ได้มีมึงอยู่ในใจเลย”
คำบอกนั้น ทำให้ สวย หงุดหงิดใจยิ่งกว่าเดิม
“มึงก็ทำของใส่คุณภพเหมือนกัน เป็นไงละตอนนี้พ่อครูทำพิธีถอนออกอยู่ เดี๋ยวเขาก็มองมึงเหมือนหมูเหมือนหมาไม่ต่างกันดอก” สวย สวนกลับทันควัน
วิไล อึ้งไปสักพัก
“ช่างแม่ง! กูไม่สนคุณภพละ เรื่องมากรำคาญพ่อกับแม่มันเต็มทน อยากจะทำของใส่ทั้งบ้านแต่ขึ้เกียจวุ่นวาย อีกอย่างยังไงใจกูก็อยู่กับพ่อครู”
เป็น สวยที่กลับมาตาเบิกโพลงเสียเอง
“อีวิไลมึงยังจะหวังพ่อครูอีกรึ แกรักอีจำปาขนาดนั้น มึงเห็นแววตาที่มองเมียของแกมั้ย กูว่าอย่าเสียเวลาดีกว่า ไปหาผัวใหม่เยอะแยะพวกครูหรือข้าราชการดีกว่า”
สวยแนะนำอย่างที่ตัวเองคิด นั่นทำให้ วิไล ส่ายหน้า
“กูมีผัวมาหลายคนจนเบื่อละ ตอนนี้กูต้องการคนที่กูรักเท่านั้น ตำแหน่งหรือยศไม่ได้มีความสำคัญกับกูดอก กูต้องการพ่อครูเท่านั้น”
ตั้งแต่เด็กๆแล้ว ที่วิไล ได้แต่เฝ้ามอง ไกรศร ชายที่แสนอบอุ่นและฝังอยู่ในความรู้สึกมาเนิ่นนาน ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปเท่าใด เขาก็คือชายคนเดียวในดวงใจของวิไลเสมอ
...พ่อครูไกรศร