ตอนที่ 10
หมอตำแยเถื่อน
.....หารู้ไม่ว่าผู้หญิงที่ว่านั้นอาจจะมีลูกสาวของตนรวมอยู่ด้วย และ สวย กำลังจะไปทำแท้งกับหมอตำแยเถื่อน
“เดี๋ยวพี่ไปบ้านครูใหญ่แปปนึง ไปดูอาการของครูคนใหม่เสียหน่อย หากเป็นอะไรไปเด็กหมู่บ้านเราจะแย่ นานๆจะได้ครูที่มีความรู้จากบางกอกมาประจำที่หมู่บ้านเรา”
ไกรศร หันมาเอ่ยบอกเมีย ที่กำลังก้มหน้าทอไหมมัดหมี่อย่างตั้งใจ ใจนึงจำปา อยากจะตามไปยิ่งนัก ด้วยรู้ดีว่า ครูประทิน เป็นตัวละครสำคัญที่จะมีบทบาทต่อชีวิตของ สวย พอสมควร แต่ไม่ทันจะอ้าปากพ่อครูก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“อยู่ที่เรือนนี่แหละ เดี๋ยวพี่ไปกับไอ้กล้า ไม่นานก็กลับมาแล้ว อย่างไงอย่าลืมเตรียมสำรับเย็นไว้ด้วยนะ” หน้าหล่อเหลาโน้มลงมากระซิบใกล้ปรางแก้มเนียนของหญิงสาว นั่นทำให้ สร้อย กับจำปีแทบจะเบี่ยงหน้าหันไปอีกทาง
“ก็ได้จ้ะพี่ไกรรีบกลับมากินมื้อเย็นนะ วันนี้ฉันจะทำน้ำพริกปลาช่อนกับผักลวกไว้ให้”
จำปา เอ่ยเสียงหวาน นั่นทำให้หน้าคมพยักหน้า ก่อนจะสาวเท้าเดินตามครูใหญ่เกรียง และมีไอ้กล้าเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
จำปา ได้แต่มองตามก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา
“ไปก็ไม่มีประโยชน์อันใดดอกพี่จำปา”
จำปีเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าที่กังวลใจของลูกพี่ลูกน้อง และเธอคาดการณ์ไว้ว่าใจของ จำปา ต้องการไปขัดขวางความสัมพันธ์ของครูประทินที่กำลังจะเกิดขึ้นกับสวย แน่นอน นั่นทำให้มือขาวที่กำลังทอไหมของ จำปาชะงัก
“หมายความเช่นไร?”
“ไม่มีใครฝืนชะตาได้ ยังไงทั้งสองก็ต้องลงเอยกันแน่นอน” จำปี เอ่ยเสียงราบเรียบ ก้มลงสาวเส้นไหมต่ออย่างใจเย็น ปล่อยให้สร้อยและจำปา ได้แต่มองตากันปริบๆ
ไม่อาจฝืนชะตาได้เช่นนั้นรึ?
แม้ที่ผ่านมาเธอจะพยายามทำมาหลายอย่างทุกวิถีทาง แต่เหมือนเส้นของตัวละครในนิยายก็ดำเนินไปตามที่นิยายวางไว้ แทบจะไม่มีผิดเพี้ยน
...นี่คงเป็นชะตาของตัวละครของเธอเป็นแน่
หลังจากพ่อครูไกรศร ขับรถออกจากเรือนไปได้สักพัก รถอีแต๋นคันเล็กก็มาจอดหน้าบ้าน ก่อนที่ เปีย จะตะโกนเรียกจากรถเสียงดังลั่น
“พ่อครูอยู่มั้ยจ้ะ? พ่อครู”
“ไม่อยู่ดอกไปบ้านครูใหญ่ เห็นว่าครูประทินโดนผีหลอกจับใข้หัวโกร๋น เอ็งมีอะไรกับพ่อครูรึเปียบอกข้าไว้ก็ได้”
ไอ้เข่ง รีบปราดไปใกล้ เมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของลูกสาวผู้ใหญ่ทัศน์ที่อุตสาห์ขับรถอีแต๋นมาถึงเรือนด้วยความเร่งรีบ
“เช่นนั้นเอ็งไปบ้านโนนจานกับข้าได้หรือไม่ พอดีพี่ผันต้องดูแลคอกวัวให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ข้าร้อนใจอยากไปบ้านยายผัน เห็นอีสวยมันไปวันนี้”
“บ้านยายผัน ที่เป็นหมอตำแยนั่นรึ?”
ไอ้เข่งทวนคำเสียงสูง นั่นทำให้ จำปารีบลุกจากแป้นทอผ้า เดินมายังรถอีแต๋นของ เปีย แทบจะทันที ด้วยตระหนักแก่ใจว่า สวยน่าจะใช้ช่วงชุลมุนที่บ้านปลีกตัวไปเพื่อทำแท้งเถื่อนที่บ้านยายผันแน่นอน
“งั้นให้ฉันไปด้วยนะเปีย”
จำปา รีบกระโดดขึ้นรถแทบจะทันที ไม่สนใจสายตาของจำปีและสร้อย ที่มองอย่างทัดทานคล้ายไม่เห็นด้วยเท่าที่ควร เพราะพ่อครูสั่งไว้ว่าไม่ให้เธออออกจากเรือนไปไหนในช่วงที่ไม่อยู่
“ไม่ต้องดอกจำปา ข้าไปกับเปียเอง เอ็งอยู่ทำสำรับเย็นรอพ่อครูดีกว่า เดี๋ยวกลับมาไม่เจอพวกข้าได้โดนดุแน่นอน”
กระนั้น ไอ้เข่งก็เอ่ยบอกอย่างไม่เห็นด้วยเท่าใด
“บ้านโนนจานอยู่เลยเนินโคกไปแค่นี้ไม่ใช่รึ พวกเราไปแปปเดียวแล้วค่อยกลับมาก็ยังน่าจะทัน” จำปาเอ่ยเสียงอ่อน พร้อมกระโดดขึ้นนั่งที่ข้างๆเปีย อย่างรวดเร็ว
“งั้นฉันไปด้วย” จำปีเอ่ยบอก ก่อนจะปีนขึ้นนั่งยังด้านหลัง ไอ้เข่งนั้นเมื่อเห็นว่าไม่อาจจะทัดทานทั้งสองได้ก็จำต้องปล่อยเลยตามเลย
“ตามใจละกัน เดี๋ยวรีบไปรีบกลับ เปียเอ็งขยับไปนั่งข้างๆจำปาละกัน เดี๋ยวข้าขับอีแต๋นให้เอง จะได้ไม่ชักช้าเสียเวลา”
กล่าวเสร็จรถอีแต๋นก็เคลื่อนตัวออกจากเรือนทิ้งฝุ่นตลบไว้ด้านหน้า ให้สร้อยและคนงานอีกสองสามคนมองตามจนลับตา
จุดมุ่งหมายคือบ้านโนนจาน บ้านของหมอตำแยเถื่อน
.
.
บ้านไม้หลังหนึ่งในหมู่บ้านโนนจาน ห่างไปอีกเกือบสิบกิโลเมตร เป็นที่พำนักของ ยายผัน หมอตำแยที่รับทำคลอด ทั้งแบบธรรมดาและแบบพิเศษ มีลูกค้าหญิงสาวตั้งแต่วัยรุ่นอายุสิบสองต้นๆ จนถึงวัยสามสิบปลายๆ เลยทีเดียว
ฝีมือการทำคลอดของแกนั้น ว่ากันว่า ถ้าแบบคลอดธรรมดาแกรับแค่เพียงข้าวสารหนึ่งกระสอบ
แต่หากเป็นคลอดแบบพิเศษต้องเป็นแบงค์สีแดงหรือม่วงเท่านั้น แต่ก็มีสาวน้อยใหญ่แวะเวียนมาใช้บริการแกไม่ขาดสาย บางคนมาจากอีกจังหวัดไกลๆ เพื่อทำแบบพิเศษเลยทีเดียว
บ้างก็ว่า ศพเด็กที่แกทำแท้งนั้น บางส่วนถูกขายให้พวก หมอผีเขมร ที่ข้ามมาอีกฝั่งในราคาที่สูงลิ่ว ถึงขนาดว่า เท่ากับราคาควายงามๆ ตัวหนึ่ง หรือบางศพสูงถึงขนาดซื้อที่นาผืนงามได้เลยทีเดียว
ธุรกิจบาปที่แสนเฟื่องฟูนี้ เป็นที่รู้กันในหมู่คนอำมหิตและเป็นสถานที่ ที่ สวย ไม่อยากจะย่างกรายเข้ามาในสถานที่แห่งนี้เลย หากว่าท้องของเธอไม่โตขึ้นทุกวันอย่างนี้
“จักเดือนแล้วหล่า” (กี่เดือนแล้วน้อง)
ยายผัน ถาม เมื่อ สวยอุ้มท้องเดินเข้าไปในบ้าน ที่มีโต๊ะไม้มะขามตัวยาว วางเรียงกันอยู่ประมาณ สามสี่ตัว มีธูปเทียน และรูปปั้นเด็ก วางบนชั้นไม่ห่างออกไป
“สี่ห้าเดือนแล้วจ้ะ”
สวยตอบเบาๆ มือลูบคลำท้องที่โตอย่างลังเลใจ
“ห้าสิบ” ยายไลยกนิ้วขึ้นบอกราคาค่าทำ หมายถึงจำนวนห้าหันบาท (ห้าพันบาทในสมัยนั้นถือเป็นจำนวนเงินที่เยอะถ้าเทียบกับสมัยนี้)
“ข่อยมีบ่ถึงดอกยาย คือซิบ่ได้เฮ็ด” หญิงสาวลังเล หลังเปิดถุงผ้าที่เหน็บข้างชายผ้าถุงที่มีเงินไม่ถึงห้าสิบบาท เป็นเงินที่เธอหยิบยืมมาจาก วิไล เมื่อสองวันก่อน
ยายผัน หมอตำแย ผู้มีร่างท้วม ผิวสีกร้าน แววตาอำมหิต มองเงินในมือและสำรวจร่างตรงหน้า ท้องไม่ใหญ่มาก อาจเป็นท้องสาวแรก และอายุครรถ์เกือบห้าเดือนนี้ อาจจะสามารถทำเงินให้แกได้หลายเท่าจากราคาที่เรียกไป
“กูเอาซ่ำนิก็ได้ หลีโตน ถือว่าซ่อยๆ มึงเด้อ” (กูเอาเท่านี้ก็ได้ สงสาร ถือว่าช่วยมึงนะ)
มือที่เหี่ยวย่น ดึงถุงผ้าในมือของหญิงสาวไปทันที เพราะกลัวสวยจะเปลี่ยนใจ ก่อนจัดแจงหาชุดผ้าถุงสีครามเข้มมาให้สวยเปลี่ยน จากนั้น ยายผัน เอาน้ำต้มอุ่นสีแดง ที่กลิ่นเหม็นหืนเหมือนรากไม้ชวนอาเจียน มาให้เธอดื่ม และกำชับว่าให้กินให้หมด รสชาติที่ชวนสะอิดสะเอียนนั้นชั่งฝาดคอ แต่สวยก็พยายามกินจนหมด
“ขึ้นไปนอนบนเตียงเลย แล้วอ้าขายกไว้บนไม้” หมอตำแยสั่ง ก่อนเอาใบไม้มาขยี้ให้มีครีมเหนียวๆ หนืดๆ มาทาที่เนินกลีบเนื้อของเธอ
“อะ เจ็บ” หญิงสาวคราง หลังนิ้วของหมอตำแยล้วงเข้าไป
“ถ่าก่อนเด้อ ให้ยามันออกฤทธิ์ก่อน ซาๆ มึงซิบ่อเจ็บ” (คอยสักพักก่อน ให้ยาออกฤทธิ์จะได้ไม่เจ็บ)
สวยพยักหน้า ก่อนหันไปมอง เห็น ยายผัน จุดธูปเทียน สวดบทอะไรสักอย่างที่ฟังไม่ออก ถามได้ความว่า เพื่อขออนุญาตและไม่ให้ศพ กลับมาป้วนเปี้ยนกวนใจ
สักพัก หญิงสาว รู้สึกเริ่มชาในส่วนที่ หมอตำแย ทาไว้ และเหมือนโดนอะไรสักอย่าง กระทุ้งล้วงเข้าไปในส่วนล่าง ลึกไปจนถึงช่องคลอด
พลัน! เสียงหนึ่งดังขึ้นอยู่หน้าประตูบ้าน
“สวยอยู่ในนั้นมั้ย ยายผันเปิดประตูหน่อยเปิดประตูก่อนอย่าเพิ่งทำอะไรเลย ค่าเสียเวลาพวกฉันจะจ่ายให้เอง”
เสียงของ เปีย ตะโกนดังลั่น พร้อมทุบประตูไม้มะขามเสียงดังเพื่อให้กลอนประตูหลุด นั่นทำให้ ยายผัน ชะงักมือเล็กน้อย เพราะการทำแท้งเถื่อนหากมีคนมารบกวนย่อมไม่ใช่วิธีทางที่ดีเท่าใดนัก
รวมถึงหากพวกตำรวจหรือข้าราชการรู้อาจจะโดนจับได้ แม้ที่ผ่านมา ยายผัน จะปิดปากพวกนั้นด้วยเงินก้อนโตก็ตามที
“ซิให้เฮ็ดต่อบ่”(จะให้ทำต่อหรือไม่?)
ยายผันถามอย่างลังเล เงยหน้าขึ้นมาสบตากับสวย ที่นอนกัดฟันแน่น และมองไปทางประตูอย่างหัวเสีย
อีเปีย!!! มึงมายุ่งวุ่นวายอะไรกับชีวิตกูนักหนา
“ทำต่อเลยจ้ะยาย ทำให้จบเอาออกเลย..ไม่ต้องสนใจ”
******************