bc

นัยเนตรมนตรา

book_age18+
482
ติดตาม
3.6K
อ่าน
รักต้องห้าม
จบสุข
ใช้กำลัง
คำสาป
เศรษฐีนี
ชายจีบหญิง
ฉลาด
โลกอื่น
ล่ำๆ หมีๆ
bodyguard
like
intro-logo
คำนิยม

ฝันร้ายที่แสนประหลาด นำมาซึ่งความสูญเสียในชีวิตจริง เมื่อจู่ ๆ มินตราก็เริ่มสายตาพร่าเบลอ และมองไม่เห็นโดยไม่ทราบสาเหตุ การรักษาอย่างยาวนานแรมปีไม่ได้ช่วยให้ดวงตาของเธอกลับมามองเห็นได้ปกติ ซ้ำร้ายยังมีแต่จะมืดบอด

แต่แล้ววันหนึ่งสวรรค์ก็เมตตา นำพาให้เธอมาพบกับหมอธรรมที่เลื่องชื่อแถบภาคอีสาน และมีแววว่าดวงตาที่ใกล้จะมืดดับของเธอ อาจจะกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง...

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ปฐมบท
ค่ำคืนมืดฟ้ามัวฝน ลมกระโชกแรงพัดพาเอาเศษกิ่งไม้ใบหญ้าลอยว่อนขึ้นมาบนอากาศ เสียงสายฟ้าฟาดดังสนั่นจนพื้นสะเทือน ปลุกหญิงสาวที่นอนหลับใหลให้สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ปัง ฟิ้วว... หน้าต่างที่ปิดสนิทถูกกระชากออกด้วยแรงลม ส่งผลให้พายุที่โหมกระหน่ำอยู่ด้านนอกสาดพัดเข้ามาภายในห้องนอนที่เงียบสงบ “ตายจริง” มินตราที่กำลังงัวเงียเบิกตาโพลงทันที เธอรีบควานมือเปิดโคมไฟบนหัวเตียงแล้วลุกเดินออกไปปิดหน้าต่าง ในใจแอบตั้งข้อสงสัยว่ามันถูกกระชากออกได้อย่างไรกัน เพราะก่อนที่เธอจะเข้านอน ได้สำรวจความเรียบร้อยไปแล้ว แต่ความงัวเงียที่ยังสลัดไม่หลุดก็ทำให้เธอละทิ้งข้อสงสัยนี้ รีบเอื้อมมือฝ่ากระแสลมที่โหมพัดพลางกระชากหน้าต่างกลับเข้ามา ก่อนจะทำการล็อกหน้าต่างเอาไว้จนสนิท เมื่อมั่นใจแล้วว่ามันจะไม่ถูกกระชากออกด้วยแรงลมอีก เธอถึงหันหลังเตรียมจะกลับเข้ามานอนตามเดิม ทว่าสิ่งที่เธอไม่อาจหาคำตอบได้ก็เกิดขึ้นซ้ำเป็นรอบที่สอง ปัง! ร่างเล็กสะดุ้งโหยงรีบหันกลับไปมองที่ด้านหลัง ก่อนจะพบว่าหน้าต่างที่เพิ่งล็อกไปเมื่อครู่ได้ถูกกระชากออกด้วยแรงลมอีกครั้ง เป็นผลให้หยาดฝนและความเย็นยะเยือกสาดกระทบเข้าหน้าเธอจัง ๆ “ปะ เป็นไปได้ยังไง” บัดนี้เธอไม่หลงเหลือความงัวเงียอยู่ในกายแล้ว หัวใจที่เต้นในจังหวะช้าเนิบเพราะกำลังผ่อนคลายในช่วงที่ร่างกายได้พักผ่อน ตอนนี้เริ่มเต้นโครมครามราวกับมันต้องการจะกระโจนออกมานอกอก และยังไม่ทันที่ความกังวลจะสร่าง โคมไฟที่หัวเตียงก็กะพริบถี่ ๆ ก่อนจะดับพึ่บลงในที่สุด นาทีนี้หญิงสาวไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เธอกำลังลังเลว่าควรเดินไปปิดหน้าต่างอีกครั้ง หรือหันหลังแล้วกลับเข้าที่นอนดี แต่ยังไม่ทันที่จะได้ข้อสรุป เธอก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังคืบคลานออกมาจากมุมมืดที่อยู่ด้านหลัง มือเล็กที่สั่นเทาเลื่อนเข้ามากุมกันไว้แน่นที่ด้านหน้า ปลายหางตาค่อย ๆ หันกลับไปจ้องมองเงามืดที่ขยับเข้ามาใกล้ ก่อนที่สัมผัสเย็น ๆ จะเคลื่อนเข้ามาชิด พลางแตะสัมผัสลงที่หัวไหล่อย่างบางเบา นาทีนี้เธอไม่ต้องพิจารณาความเป็นไปได้แล้ว แค่นี้มันก็ชัดเจนมากพอว่าสิ่งที่เธอกำลังประสบพบเจอ ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาทั่วไป “ฮึก!” มินตราหลับตาปี๋ด้วยความกลัว พร้อมกับเริ่มตั้งจิตสวดมนต์อย่างผิด ๆ ถูก ๆ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล ซ้ำร้ายสิ่งปริศนาที่เข้ามาคุกคามยังหัวเราะเย้ยหยันให้กับท่าทีของเธออีกด้วย “ฮอดเวลาที่กูสิเอาคืนมึงแล้ว!” (ถึงเวลาที่กูจะเอาคืนมึงแล้ว) มือเย็น ๆ ไล่สัมผัสทั่วข้างแก้มจากทางด้านหลัง เสียงกระซิบที่แหบพร่าดังอยู่ข้างหูด้วยภาษาอีสาน ทำเอามินตราแทบกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทว่าเธอกลับไม่สามารถทำมันได้ ไม่แม้แต่จะก้าวขาหรืออ้าปาก ร่างกายมันแข็งทื่อไร้การควบคุมไปทุกระบบ ทำได้เพียงสะอื้นร้องไห้ในลำคอ ยามปลายเล็บยาว ๆ เริ่มเลื่อนขึ้นมาแตะสัมผัสที่ดวงตาทั้งสองข้าง “แล้วมึงสิได้ทรมาน คือจังที่กูเป็น!” (แล้วมึงจะได้ทรมาน เหมือนอย่างที่กูเป็น) สิ้นประโยคที่แข็งกร้าว เล็บเรียวยาวก็จิกเข้าดวงตาทั้งสองอย่างไม่ทันตั้งตัว ส่งผลให้มินตรากรีดร้องเสียงดังสนั่น ความเจ็บปวดแสนสาหัสแล่นขึ้นมาจนไม่อาจหาอะไรมาเปรียบได้ “หึ ๆ ฮ่า ๆ ๆ” เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความสาแก่ใจดังสนั่นคับห้องเคล้ากับเสียงสายฟ้าฟาด มินตราพยายามดิ้นหนีสุดชีวิต แต่กลับไม่อาจลืมตาขึ้นได้อีก คล้ายกับว่าตอนนี้ดวงตาคู่สวยได้ถูกควักออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว... เฮือก!! ร่างที่สั่นเทาลุกพรวดขึ้นมาบนที่นอนท่ามกลางความมืดมิด หัวใจยังคงเต้นระรัวด้วยความกลัวจับใจ หยาดเหงื่อไหลอาบเต็มลำคอยาวระหงจนเปียกปอน ทันทีที่รู้ตัวว่าเป็นแค่ฝันร้าย เธอก็รีบยกมือขึ้นมาแตะสัมผัสที่ดวงตา โชคดีที่มันยังอยู่ครบทั้งสองข้าง ทว่า... หน้าต่างกลับถูกเปิดกระชากออกด้วยแรงลมเฉกเช่นในฝันร้ายไม่มีผิดเพี้ยน เธอรีบหันขวับไปเปิดโคมไฟบนหัวเตียง ก่อนจะกวาดมองไปรอบข้างอย่างขลาดกลัว สิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่นะ ทำไมถึงได้เสมือนจริงขนาดนี้ ก๊อก ก๊อก! “มินตรา” คนตัวเล็กสะดุ้งจนตัวโยนซ้ำอีกรอบเพราะยังใจหายไม่สร่าง พลางหันไปจ้องมองบานประตูที่มีเสียงแม่ของเธอเรียกอยู่อีกฝั่งของแผ่นไม้นั้น ก่อนที่ประตูจะถูกผลักเข้ามา เผยให้เห็นสีหน้าตื่นตกใจของผู้เป็นนายหญิงของบ้านหลังนี้ “เกิดอะไรขึ้นลูก แม่ได้ยินเสียงกรี๊ด” หญิงวัยกลางคนที่อยู่ในชุดนอนรีบตรงเข้ามาโอบกอดผู้เป็นลูกสาว ก่อนจะหันไปมองบานหน้าต่างที่กำลังเปิดอ้า “หนูฝันร้ายค่ะ” มินตรารีบโอบกอดผู้เป็นแม่ไว้แน่น รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง คุณหญิงสุดาเองก็เริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เพราะตอนที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง เธอได้ยินเสียงหัวเราะดังแว่วมาตามสายลมด้วย “ขวัญเอ๊ยขวัญมา” มือเรียวลูบเส้นผมลูกสาวที่เป็นดังแก้วตาดวงใจ ก่อนจะปลอบประโลมจนอีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น “ให้แม่นอนเฝ้าไหม” “ไม่เป็นไรค่ะ อีกหน่อยก็เช้าแล้ว” มินตรารีบเก็บซ่อนความอ่อนแอ เพราะไม่อยากให้แม่ต้องนึกห่วง แต่สิ่งเดียวที่เธออยากอ้อนวอนขอ คือให้ผู้เป็นแม่ช่วยปิดหน้าต่างให้เธอที “เอ่อ... แม่ปิดหน้าต่างให้หนูหน่อยได้ไหมคะ มันน่าจะถูกลมพัดออกไป” “ได้สิ” สุดารีบดันตัวขึ้นแล้วเดินไปปิดหน้าต่างให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับมาถามย้ำกับลูกสาวอีกครั้งอย่างรู้สึกห่วงไม่หาย “มั่นใจนะว่านอนคนเดียวได้” “ได้ค่ะ แม่กลับไปนอนเถอะ” รอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของมินตราช่วยคลายความกังวลของสุดาได้บ้าง ในที่สุดเธอจึงยอมเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง แล้วปล่อยให้มินตราได้พักผ่อนอีกครั้ง ทว่าแทนที่เธอจะได้นอนพัก เธอกลับไม่อาจข่มเปลือกตาให้หลับได้ ในหัวมันเอาแต่คิดวนซ้ำ ๆ ว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงได้เหมือนจริงขนาดนี้...

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.3K
bc

พะยอมอธิษฐาน

read
2.3K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
15.7K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.3K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1.9K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook