พายุพาม่านไหมเข้ามาจอดรถที่หน้าบ้านพักแห่งหนึ่ง เสียงคลื่นซัดซาดเป็นระลอกเบาๆท่ามกลางความมืดมิดของท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่ดวงตาของหญิงสาวสุกสกาวยิ่งกว่าดาวบนท้องฟ้า
เธอเคยฝันว่าอยากมาทะเล และความฝันที่ยิ่งกว่า คือการได้มากับเขา คนที่เธอรัก
"พายุ ทะเลใช่มั้ย" น้ำเสียงตื่นเต้นของหญิงสาวตรงหน้า บวกกับสีหน้าท่าทาง ทำให้รู้ว่าคนตัวเล็กกำลังดีใจสุดๆ
"ไหมเดินไปใกล้ๆได้มั้ย ไหมอยากเล่นน้ำทะเล"
"จะเล่นได้ยังไง เธอว่ายน้ำเป็นเหรอ มืดก็มืด ค่อยมาพรุ่งนี้เช้า"
แม้ปลายเสียงจะมีความรำคาญเล็กน้อย แต่ม่านไหมก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เพราะการที่เขาพามาทะเลมันก็ทำให้เธอมีความสุขมากๆ
"พรุ่งนี้ พายุพาไหมมาเล่นน้ำใช่มั้ย เราไม่ต้องรีบกลับกรุงเทพเหรอ"
"โดดเรียนสักวัน คงไม่เป็นไรหรอกใช่มั้ย" ร่างสูงเลิกคิ้วถามพร้อมหยิบบุหรี่มาจุดสูบ
" เย้ ! ไหมทักไปลางานก่อนนะ"
ร่างบางกุลี้กุจอขึ้นมาหยิบโทรศัพท์กดเข้าไลร์กลุ่มเพื่อแจ้งลาป่วยทันที แน่นอนว่าอากรเมื่อเห็นข้อความในกลุ่มก็รีบทักไลน์ส่วนตัวมาด้วยความเป็นห่วง แต่ม่านไหมก็รีบปัดข้อความทิ้ง แม้จะนึกรู้สึกผิดในใจแต่เธอขอความเจ้าความสุขตรงหน้านี้ไว้ก่อนนะ ก่อนจะเลิกให้ความสนใจกับโทรศัพท์แต่เปลี่ยนมาเป็นมองวิวข้างหน้าอย่างเงียบๆพร้อมกับพายุที่พ่นควันบุหรี่ออกจากปากอย่างสบายอารมณ์
จนร่างสูงสูบบุหรี่จนหมด ก็กระตุกแขนม่านไหมเบาๆ ให้เดินตามเข้าบ้านพัก
คนตัวเล็กหมุนตัวมองไปรอบๆ ที่นี้สวยมากบ้านดูใหม่กริบราวกับมีคนดูแลทำความสะอาดอยู่ตลอด
ม่านไหมก็ไม่รู้ว่าคนด้านหน้าเธออยู่ในอารมณ์ไหน ที่อยู่ดีๆก็พาเธอโผล่มาที่นี้ แต่ก็สงบปากสงบคำ ไม่อยากจะพูดหรือถามอะไรมากมายให้เสียบรรยากาศ เธอชอบที่นี้ ที่ที่ห่างไกลจากผู้คนที่รู้จัก ไม่ต้องระแวงว่าจะมีใครมาเจอ เธอสามารถส่งสายตาปลดเปลื้องทุกความรู้สึกได้เต็มที่โดยไม่ต้องฝืน
สายตาที่มองผู้ชายตรงหน้า ด้วยความรักใคร่ หลงใหล เทิดทูน บูชา...แบหมดหน้าตักทุกความรู้สึก
ร่างสูงเปิดตู้ไวน์ก่อนจะหยิบออกมาหนึ่งขวดแล้วใช้อุปกรณ์แกะงัดอย่างชำนาญ เขาชี้ไปที่แก้วไวน์ก่อนจะสั่งให้เธอหยิบออกมาสองใบ คนตัวเล็กรีบทำตามคำสั่งทันที
เขารินไวน์ออกเทลงสองแก้วในปริมาณที่เท่ากัน ก่อนจะยื่นมันให้เธอ ม่านไหมรับมันมาอย่างไม่ลังเล ถึงเธอจะไม่เคยดื่ม แต่ถ้าพายุส่งอะไรให้ แม้จะเป็นยาพิษคนตัวเล็กก็รับมันมาอย่างไม่หวาดหวั่น
เสียงแก้วกระทบกันเคล้าคลอกับเสียงคลื่นลมเบาๆ
พายุมองใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาวตรงหน้า พอแฮลกอฮอล์เข้าไปอยู่ในกระแสเลือด ร่างเล็กที่เขาเคยคิดว่า เธอเรียบร้อยพูดน้อย กำลังนั่งพร่ำบรรยายเป็นต่อยหอย แถมยังกระดกไวน์ที่เขาเป็นคนเปิดจนแทบจะหมดขวดคนเดียว
"ไหมรักยุ ร้กมานานแล้ว รักก่อนคุณมุกดาคู่หมั้นยุอีก ไหมมาก่อนเขา ถ้าใครสักคนที่จะถอยไป มันควรเป็นเขามากกว่าไหม"
ร่างบางพูดเสียงยาน เธอรู้ดี ว่าเธอพูดอะไรออกไป เพียงแต่สมองส่วนที่จะยับยั้งชั่งใจ มันหายไป
"ยุล่ะ รักไหมบ้างมั้ย รักบ้างมั้ย"
ร่างสูงไม่ตอบ กลับสบตาเธอนิ่ง คนตัวเล็กเห็นดังนั้น เธอค่อยๆพยุงตัวเองเดินโซซัดโซเซเข้าไปนั่งแหมะบนตักของชายหนุ่มอย่างไม่กลัวเกรง สองมือเรียวสวยคล้องเขาอย่างถือวิสาสะ ดวงตาสองข้างฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
"ว่าไงค่ะ รักไหมบ้างไหม ไหมรักยุ รักมาก รักๆๆ รักที่สุด ไหมไม่อยากจบความสัมพันธ์กับยุเลย แต่ไหมก็ไม่อยากเป็นเมียน้อย"
ม่านไหมน้ำตาไหลพราก เมื่อพูดคำนั้นจบ คนตัวเล็กอิงแอบซบที่อกของเขา แม้พายุจะไม่ได้กอดเธอตอบ แต่เขาก็ไม่ได้ผลักไส กลับปล่อยให้เธอยึดอกแกร่งของเขาเป็นที่พึ่งอยู่แบบนั้นจนเนิ่นนาน
"หรือจริงๆแล้ว เราไม่เหมาะกันหรอก ไหมคู่ควรกับผู้ชายธรรมดาๆมากกว่า พายุคงสูงเกินเอื้อมสำหรับไหม"
คำถามนั้น ทำเอาพายุหัวร้อน กระชากคนตัวเล็กมาสบตากับสายตาวาวโรจน์
"พูดแบบนี้ แปลว่าคิดอะไรอยู่ เธอคิดหรือ ว่าเธอจะทำใจรักใครได้ นอกจากฉัน"
เสียงเข้มกระซิบลอดไรฟันอย่างแค้นเคือง ถ้าเป็นม่านไหมในยามปกติเธอคงกลัวจนตัวสั่น แต่ในเวลานี้ ร่างเล็กกลับส่งยิ้มอย่างดีใจ
"ยุหวงไหมใช่มั้ยล๊าาา"
"ฉันบอกแล้ว ถ้าฉันยังไม่เบื่อ หมาตัวไหนก็ไม่มีสิทธิ์"
"หวง พูดออกมาสิ ว่ายุหวงไหม เหมือนที่ไหมเองแทบบ้าเวลายุอยู่กับมัน"
"ห้ามเรียกผู้หญิงฉันว่ามัน เขากับเธอมันคนละระดับกัน"
คำตอบเรียบๆของพายุ แต่แทบจะทำให้ม่านไหมสร่างเมา จากใบหน้าแดงก่ำ มันกลับเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดเผือด เขาโคตรใจร้ายเลย ในยามนี้ แทนทีจะลืมผู้หญิงคนนั้น แต่ทุกลมหายใจเข้าออกของเขามีแค่มุกดาจริงๆ
น้ำตารื้นชื้นในดวงตาคู่สวยทันที เธอไม่ได้ไร้สติขนาดจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร หัวใจเจ็บราวกับใคร้ามีดปลายแหลมมาทิ่มแทง ครั้งแล้วครั้งเล่า ได้แต่หวังและภาวนาว่า เธอจะเจ็บจนตัดขาดเขาได้สะที
"ไหมไปอาบน้ำนอนแล้ว"
"มีเสื้อผ้ารึไง"
"ใส่ชุดเดิมก็ได้ ไหมง่วงแล้ว"
"ม่านไหม เธอไม่มีสิทธิ์งอน เพราะฉันไม่ง้อ อย่างี่เง่า"
"ไหมรู้ดี ไหมแค่...อยากให้เวลานี้ พายุลืมเขาไปก่อนได้มั้ย ให้เวลานี้ มีแค่เราสองคนได้มั้ย"
เสียงสั่นสะท้านของคนตรงหน้า บวกกับสายตาที่ปวดร้าว ทำให้ความรู้สึกผิดตรงเข้าเล่นงานพายุ หัวใจแกร่งแกว่งไปเล็กน้อยเมื่อความน้อยใจของเธอทอดผ่านเข้ามา ทั้งที่เคยบอกว่า ความรู้สึกใคร คนนั้นต้องจัดการเอาเอง แต่พอเอาเข้าจริง การที่อยู่ด้วยกันนานๆ คำหวานว่ารักที่เธอบอกพร่ำบอก
วูบหนึ่งสมองมันเลยสั่งการ ว่าให้เขาใจดีกับเธอบ้าง สักนิดก็ยังดี