บทที่ 6 ต้องจูบบ่อยๆ

1514 คำ
บทที่ 6 ต้องจูบบ่อยๆ “…พี่เฟรเดอริก” “มาอยู่นี่เอง พี่ตามหาตั้งนาน” …พะ พี่เหรอ?... “อ้าว คุณมิลเลอร์นี่เอง รู้จักกันเหรอครับ?” “ท่านสส. ขอโทษด้วยครับ ผมไม่ทันได้สังเกต พอดีเอาแต่ตามหาตัวเล็ก” “ตัวเล็ก?” “อ่า” เฟรเดอริกโอบไหล่อากาเนะ ก่อนจะแนะนำอย่างเป็นทางการ “ผู้หญิงคนนี้เป็นคู่หมั้นของผมเองครับ” “ที่เขาว่าคุณมิลเลอร์มีคู่หมั้นแล้ว เป็นเรื่องจริงเหรอเนี่ย?” “ครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่พาเธอมาโดยที่ยังไม่พร้อม…” ขาจงใจเอ่ยเน้นคำว่า ‘ยังไม่พร้อม’ เพราะมีหลายคนที่พาคู่หมั้นมาเพื่อส่งให้กับสส.คนนี้อยู่เหมือนกัน “พอดีเซเลียอยากเจอสส.มาก ผมก็เลยมากับเธอ ส่วนตัวเล็กก็ให้มากับเพื่อนน่ะครับ เธอเพิ่งมาจากต่างจังหวัด ผมไม่อยากปล่อยเธอไว้คนเดียว” “อ่า งั้นเหรอ… แต่ถึงจะเด็ก ฉันก็ไม่คิดมากหรอกนะ” เฟรเดอริกไม่ตอบอะไร ไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ตอบรับ ทว่าแขนแกร่งโอบไหล่คนตัวเล็กเอาไว้ไม่ยอมปล่อยก็เป็นคำตอบภาษากายได้ดี “ก็ได้ ถ้าโตกว่านี้… ก็มาหาฉันล่ะ ลัดคิวมาได้เลย” พูดจบสส.คนนั้นก็เดินจากไปอย่างเสียดาย โชคดีที่เขาไม่ใช่คนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ เขารู้จักที่จะปล่อยมือจากสิ่งที่ยังเอามาไม่ได้หากไม่ถึงเวลา แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ เพราะแบบนั้นเขาถึงไต่เต้าขึ้นมาเป็นถึงสส.ในตอนนี้ คว้าโอกาสในตอนที่มีโอกาส รู้จักปล่อยเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมากกว่ายึดติดจนเสียทุกอย่าง หลังจากนั้นพายและอากาเนะก็ถอนหายใจ “ขอโทษนะ เกือบแย่เลย” “ไม่เป็นไร ไม่แย่สักหน่อย” “ไม่แย่เหรอ?” แต่แล้วเสียงเย็นยะเยือกของเฟรเดอริกก็ทำลายบรรยากาศ รอยยิ้มเมื่อครู่ราวกับถูกแช่แข็งจนมันดูน่าตลกไปเลย ชายหนุ่มกดสายตามองคนตัวเล็กที่ค่อยๆ หันหน้าไปหาเขา เมื่อสบตากันอากาเนะก็รีบหลบสายตาทันที เฟรเดอริกย้ายสายตาไปมองพายก่อนจะเอ่ย “ไปที่ระเบียง” แล้วเฟรเดอริกก็โอบคนตัวเล็กไปที่ระเบียงโดยมีพายเดินตามมาด้วย “อธิบายมา” ชายหนุ่มกดเสียงต่ำมองดูชายหญิงทั้งสอง คนที่ควรจะอยู่ที่คอนโด ทำไมตอนนี้มาอยู่ที่งานเลี้ยงกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ นั่นคือสิ่งที่เขาอยากจะถามออกไปจริงๆ แต่กลับไม่ยอมพูดออกไป จากนั้นพายก็เป็นสุภาพบุรุษในการยอมรับความผิดทั้งหมด เฟรเดอริกถอนหายใจก่อนจะไล่เขา ตอนนี้จึงเหลือแค่ตัวเขาและอากาเนะแค่เพียงสองคน โดยมีดีนและชานนท์ผู้เป็นเลขาเฝ้าอยู่ด้านหน้า “จะมาที่นี่ทำไมไม่บอก?” “หนูบอกแล้วนะคะ หนูบอกว่าจะกลับดึกเพราะไปเที่ยวกับเพื่อน” “บอก? บอกตอนไหน?” “กับพี่ดีนค่ะ ปกติหนูก็บอกผ่านพี่ดีนตลอด” ...ไอ้ดีน... “คราวหน้าคราวหลังจะกลับบ้านดึก หรือจะไปไหนดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ โดยเฉพาะกับงานสังคมจะต้องบอกฉันก่อน เบอร์ก็มีโทรมาเลยก็ได้” “ไม่มีค่ะ...” “ฮะ?” “หนูไม่มีเบอร์พี่สักหน่อย” “เอาโทรศัพท์มา” เธอทำตามอย่างว่าง่าย ยื่นโทรศัพท์ให้เขา ชายหนุ่มจัดการเมมเบอร์ของตัวเองก่อนจะยื่นกลับมาให้เธอ “คราวหลังให้โทรบอกฉัน ไม่ต้องบอกผ่านดีนแล้ว เข้าใจมั้ย?” “ค่ะ...” หลังจากนั้นทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ ลมเย็นๆ พัดผ่านกระทบผิวกาย แต่ไม่ส่งผลให้อากาเนะรู้สึกหนาวเลยสักนิด แม้เธอจะอยู่ในชุดราตรีเปิดไหล่ก็ตาม เพราะผู้ชายเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้ อากาศหนาวใดๆ ก็ไม่น่าจะหนาวเย็นเท่าเขา ควับ ทว่าเสื้อสูทสีดำสนิทก็ถูกเฟรเดอริกตวัดเข้าคลุมร่างบอบบางเอาไว้ หญิงสาวเผลอตัวช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายกับความหวังดีที่ไม่รู้จุดประสงค์แน่ชัด เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย จนอากาเนะเริ่มไม่รู้แล้วว่าควรรับมือกับเฟรเดอริกอย่างไร ก่อนหน้านี้แค่อยู่เงียบๆ อยู่อย่างสงบเสงี่ยม แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็เหมือนจะโดนดุไปหมดเลย... ...หรือจะขอร้องให้พี่เขาส่งกลับบ้านดีนะ... “คือว่าถ้าต่อไปหนูทำอะไรผิด พี่เฟรเดอริก...” เสียงหวานหยุดลงกะทันหันเมื่อมือหนาสัมผัสที่ข้างแก้มของเธออย่างแผ่วเบา ประคองให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา “พูดต่อสิ” “เอ่อ” คนตัวเล็กหลบสายตาด้วยความประหม่า นัยน์ตาดำที่ดูดุดัน วันนี้กลับมีบางอย่างที่แปลกไป มันพาให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหวเหลือเกิน “...ถ้าหนูทำอะไรผิด ต่อไปพี่เฟรเดอริกช่วยบอกหนูตรงๆ ได้มั้ยคะ?” “อย่างแรก...” คราวนี้มือหนาทั้งสองประกบสองข้างแก้มใส แล้วประคองให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา แต่ถึงจะเงยหน้าขึ้นนัยน์ตากลมก็หลบหลีกได้อยู่ดี เธอไม่กล้าสบตากับเขาเลย “เวลาพูดให้สบตากับคนพูด มันเป็นมารยาท ไม่รู้เหรอ?” “ขอโทษค่ะ ต่อไปหนูจะพยายาม” แม้จะพูดแบบนั้นแต่อากาเนะก็ยังไม่ดึงดวงตาขึ้นมองคนตัวสูงอยู่ดี จึงไม่รู้ว่าตอนนี้บนใบหน้าคมคายประดับไปด้วยรอยยิ้ม โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ...น่าจูบชะมัด... ไม่รู้เป็นเพราะบรรยากาศหรือเพราะอะไร แต่ท่าทางของเธอทำให้เขารู้สึกอยากจูบเหลือเกิน เขาอยากเห็นพวงแก้มแดงๆ อยากเห็นริมฝีปากบวมเจ่อเพราะเขา อยาก... ตักตวงความหอมหวานจากริมฝีปากนั่น “เป็นคู่หมั้นต้องจูบบ่อยๆ รู้มั้ย?” “คะ? แต่ว่าพี่เฟรเดอริกเป็นคนบอกเองว่า...” “ไม่มีหลักฐาน” “อื้อ!” จบถ้อยคำนั้นชายหนุ่มก็กดริมฝีปากบดเคล้ากลีบปากอวบอิ่มแนบแน่น ยังคงไม่ยอมรับการ ‘ขีดเส้น’ ตั้งแต่แรกเจอที่เขาเป็นคนพูดเอาไว้เอง เรียวลิ้นสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากหวานฉ่ำอย่างง่ายดายโดยอาศัยช่วงที่อากาเนะตกใจ ดูดดื่มเรียวลิ้นเล็กๆ เข้าสู่โพรงปากของตัวเอง ตักตวงความหอมหวานอย่างที่ต้องการ ประคองสองข้างแก้มให้อากาเนะแหงนหน้าขึ้นรับจูบอย่างดูดดื่ม ปลายลิ้นรับรสขมและหวานนิดๆ ของไวน์ราคาแพง อากาเนะเข้าไม่ถึงกับรสชาติของเครื่องดื่มราคาแพงเลยสักนิด เธอว่ามันขมและพาให้มึนหัวไปหมด มือเล็กจิกอกเสื้อของชายหนุ่มและออกแรงดันแผงอกกว้างเต็มแรงทั้งหมดที่มี แม้จะรู้ว่ามันเปล่าประโยชน์ก็ตาม เธอถูกเขาผลักติดชิดกับระเบียงจนกลัวว่าจะตกลงไปข้างล่าง ในขณะที่กำลังหวาดหวั่นว่าจะมีคนมาเห็นและกลัวตกไปข้างล่างอยู่นั้น เฟรเดอริกก็อุ้มคนตัวเล็กให้นั่งอยู่บนระเบียง ทำเอาเธอรีบโอบกอดรอบลำคอของเขาเพราะกลัวตก กลายเป็นว่าพวกเขาทั้งสองแนบชิดกันมากกว่าเดิม อาศัยช่วงเวลาที่สาวเจ้าตัวไม่ทันระวังดูดดื่ม ตักตวงอย่างคนฉวยโอกาส จูบเร่าร้อนไม่ยอมจบลงโดยง่ายแม้ว่าอีกฝ่ายจะเริ่มหายใจติดขัด เขาใจดีถอนริมฝีปากออกแค่เพียงหนึ่งวินาทีเท่านั้น แล้วเอียงองศาใบหน้าเพื่อจูบเธอให้ลึกซึ้งมากกว่าเดิม มือหน้าที่ประคองสองข้างแก้มเปลี่ยนเป็นโอบเอวบางเพื่อกันไม่ให้เธอตกจากระเบียง และกดท้ายทอยเล็กให้ก้มหน้าลงมาจูบกับเขาอย่างไม่ขาดตอน เรียวลิ้นพลิกไปพลิกมาเพื่อสำรวจด้านในอย่างอยากรู้อยากเห็น ดูดดื่มอย่างคนหื่นกระหายจนเกิดเสียงน่าอายดังให้ได้ยิน เสียงของเซเลียที่อยู่ด้านนอกดังเข้ามาด้านใน ทำให้เฟรเดอริกรู้สึกไม่พอใจเอาเสียเลย แต่เขาก็ยังไม่ยอมถอนจูบออก ยิ่งขยับริมฝีปากบดเคล้าจูบอย่างดูดดื่มมากขึ้น ส่วนอากาเนะเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีคนจะเข้ามาเธอก็ยิ่งดิ้น แต่พื้นที่ของเธอมีจำกัด หากดิ้นมากเข้าอาจจะหงายหลังตกระเบียงก็เป็นได้ จึงคิดจะใช้แผนเดิมนั่นก็คือการกัดริมฝีปากของอีกฝ่าย ทว่า... งับ! “อ๊ะ!?” เฟรเดอริกรู้ทัน เขาดึงปากของตัวเองออกมาก่อนที่อากาเนะจะได้กัด แล้วงับกลีบปากล่างของเธอแทน เมื่อเธอพยายามจะดึงหน้าหนีเขากยิ่งกัดแรงไม่ยอมปล่อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม