บทที่ 5
กลืนน้ำลายตัวเอง
“ท่านประธาน...!” เสียงของเลขาส่วนตัวพร้อมกับการเปิดประตูเข้ามากะทันหันทำให้อากาเนะใจเต้นระรัว ก่อนที่ประตูจะถูกปิดลง ส่วนเฟรเดอริกก็ไม่ยอมถอนจูบออกเสียทีจนเธอพยายามที่จะกัดปากของเขา
กึด!
“...!?”
ชายหนุ่มรีบถอนจูบออกทันทีที่โดนกัด กลิ่นคาวเลือดในปากของเขาเป็นหลักฐานอย่างดี
“เธอ... กัดฉัน?”
“ก็พี่จูบหนูก่อน...!”
“เธอเป็นคู่หมั้นฉันไม่ใช่เหรอ แค่จูบเองจะหวงอะไร มากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว” เขาเอ่ยขณะแลบลิ้นเลียคราบเลือบนริมฝีปากของตัวเอง
“กะ ก็แค่ในนามนี่คะ อีกอย่างพี่เฟรเดอริกเป็นคนพูดเองนี่คะ...”
เมื่อถูกอีกฝ่ายอ้างขึ้นมาแบบนี้ เฟรเดอริกก็เค้นหัวเราะและเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันที่เขาได้กลืนน้ำลายตัวเองแบบนี้
แต่... น้ำลายของคนตัวเล็กเขาก็กลืนมาแล้ว นับประสาอะไรกับการกลืนน้ำลายตัวเอง เขาเพิ่งมารู้ก็ตอนนี้ว่าอากาเนะเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจ เขาด่วนตัดสินเธอที่ภายนอกไปเอง อากาเนะไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอ เธอเพียงแค่ดูเป็นแบบนั้นเฉยๆ
อีกอย่าง... ไม่รู้ทำไมหลังจากค่ำคืนนั้นเขาจึงลบภาพใบหน้าหวานที่กำลังดื่มด่ำกับบทรักของเขาไม่ได้ อีกทั้งเสียงครางหวานๆ ก็ดังอยู่ภายในหัวของเขาตลอดเวลา เฟรเดอริกไม่ชอบอะไรที่ค้างคาใจเสียด้วยสิ
เขาลองหาผู้หญิงบริสุทธิ์มาแล้ว แต่แค่เริ่มเท่านั้นเท่านั้นเสียงหวานๆ และใบหน้าของอากาเนะก็ผุดขึ้นมาทำให้เขาไปจนสุดไม่ได้ สุดท้ายก็ได้ส่งเด็กคนนั้นกลับ
“แล้วมีหลักฐานเหรอว่าแนพูด?”
“คะ?”
“มีหลักฐานหรือไงว่าฉันพูดแบบนั้น?”
อากาเนะถึงกับไปไม่ถูก ใบหน้าหวานบึ้งตึงทันทีที่เขาพูดออกมาแบบนั้น เฟรเดอริกเห็นแล้วก็อดยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ไม่ได้ แม้ภายนอกจะดูเรียบร้อย แต่แววตาดูดื้อรั้นไม่ใช่เล่น
ขวับ!
“ว้าย!”
เฟรเดอริกช้อนคนตัวเล็กขึ้นสู้อ้อมแขน ไม่สนใจเสียงร้องโวยวายก่อนจะพาไปนั่งที่โซฟา โดยจัดท่าทางให้คนตัวเล็กนั่งคร่อมเขา แขนแกร่งเพียงข้างเดียวโอบเอวบางกระชับเอาไว้จนร่างกายแนบชิดสนิท ส่วนมืออีกข้างยกขึ้นคว้าคางเรียวเล็ก
“ร้องสิ คนด้านนอกจะได้รู้ว่าเราทำอะไรกัน”
เมื่อโดนข่มขู่แบบนั้น อากาเนะก็เงียบปากลง ดวงตากลมกรอกไปมาอย่างหาหนทางรอด
ทว่า... ไม่น่ารอด
งับ!
ริมฝีปากอวบอิ่มถูกคนตรงหน้าครอบครองอีกครั้ง คราวนี้มันจาบจ้วงยิ่งกว่าเมื่อครู่ เพราะมือแกร่งดั่งคีมเหล็กที่บีบคางเล็กบังคับให้เธอเปิดริมฝีปากออก อากาเนะพยายามหุบปากลงแต่ก็ทำไม่ได้ พยายามที่จะกัดปากเขาแต่ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน ฝ่ามือเล็กทั้งทุบแผงอกกว้าง ทั้งจิกอกเสื้อจนมันยับยู่ยี่ แต่เจ้าตัวก็ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
เสียงจูบดังให้ได้ยินจนอากาเนะหน้าแดงก่ำด้วยความอาย เขาถอนริมฝีปากออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อดูดเรียวลิ้นคนตัวเล็กให้ออกมาด้านนอก แล้วเปิดโอกาสให้เธอได้หายใจ เขาดูดดื่มเรียวลิ้นจนเกิดเสียงน่าอาย เธอดึงลิ้นกลับคืนแต่ก็ถูกชายหนุ่มรั้งท้ายทอยขยับหน้าเข้ามาใกล้จนริมฝีปากแนบชิดกันอีกครั้ง
ของแข็งๆ บางอย่างดุนดันอยู่ที่สะโพกของคนตัวเล็ก เธอพยายามขยับหนีด้วยความตื่นกลัว หารู้ไม่ว่ายิ่งขยับกลับยิ่งเป็นการเสียดสีให้มันตื่นตัวยิ่งกว่าเดิม
...จงใจยั่วหรือไงวะ?...
ก๊อก ก๊อก
“เสร็จหรือยัง?”
เสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งทำให้เฟรเดอริกจำเป็นต้องถอนจูบออก
ทั้งสองหันไปมองผู้มาใหม่พร้อมกัน อากาเนะตาเบิกกว้างหน้าแดงก่ำ ส่วนเฟรเดอริกปรายตามองอย่างไม่พอใจที่มีคนเข้ามาขัดจังหวะตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม
หญิงสาวก้มหน้างุดซบแผงอกกว้างด้วยความอับอาย ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาโดยที่เจ้าของห้องยังไม่อนุญาตด้วยซ้ำ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งด้านข้างของเฟรเดอริก แล้วส่งยิ้มให้กับอากาเนะที่เหลือบสายตาขึ้นสบตากับเธอเข้าพอดี อากาเนะรับรู้โดยสัญชาตญาณว่าสองคนนี้ความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาแน่ๆ เธอจึงรีบลงจากตักของชายหนุ่มแล้วรีบวิ่งออกไป
“เดี๋ยว...!” ไม่ทันเสียแล้ว อากาเนะรีบวิ่งออกไปทั้งอย่างนั้น เขาส่งสายตาเป็นสัญญาณให้ดีนตามอากาเนะออกไป ก่อนจะหันมาสนใจกับหญิงสาวเสียมารยาทคนนี้ “คิดว่าที่นี่เป็นบ้านของเธอหรือไง?”
“ได้ด้วยเหรอ?”
“เซเลีย!”
“โอเคๆ ขอโทษด้วยแล้วกัน ฉันมารอตั้งนานแล้ว เลขาของนายมาเรียกก็ไม่ยอมออกมา ฉันรอไม่ไหวก็เลยเข้ามา ไม่คิดว่ากำลังทำอะไรกับเด็กน้อยแบบนั้นอยู่ เดี๋ยวนี้เปลี่ยนรสนิยมแล้วเหรอ?”
“ไม่เกี่ยวกับเธอ มาที่นี่มีธุระอะไร?” ชายหนุ่มลุกขึ้นแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง ก่อนจะจ้องมองเซเลียอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก
ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขามีค่ำคืนซ้ำๆ กับเธอ เพราะอีกฝ่ายเองก็รักสนุก เมื่อจบค่ำคืนหนึ่งก็ไม่คิดเกาะแกะเขา วันไหนที่นึกอยากแค่โทรหาก็เข้าห้องได้เลย เป็นเพียงเพื่อนทางธุรกิจที่มีอะไรกันได้เรื่อยๆ ตามโอกาส
“ก็งานเลี้ยงวันพรุ่งนี้ไง ไม่เห็นนายติดต่อมาสักที ฉันก็เลยต้องมาหาถึงที่นี่”
...อ่า งานเลี้ยง ลืมไปสนิทเลย เพราะมัวแต่คิดถึงเด็กคนนั้นจนไม่เป็นอันทำงานทำการ น่ารำคาญจริงๆ...
งานเลี้ยงที่จำเป็นต้องพาคู่ควงไปด้วย และที่ผ่านมาก็มีแค่เซเลียเท่านั้นที่เขายอมควงออกงาน และครั้งนี้ก็คงจะเป็นแบบนั้น เฟรเดอริกไม่คิดดึงอากาเนะที่ไม่ประสาไปงานเลี้ยงธุรกิจที่คนเขาจ้องจะหาผลประโยชน์ และไม่รอช้าที่จะเหยียบหากมีคนล้ม
“ไปเจอกันที่งาน”
“โอเค ว่าแต่ช่วงนี้ไม่ค่อยเรียกเลย” หญิงสาวเดินนวยนาดเข้าไปหาชายหนุ่ม ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อของตัวเองเผยทรวงอกอวบอิ่มที่มีขนาดใหญ่กว่าของอากาเนะ ทว่ากลิ่นน้ำหอมยั่วยวนทำให้เขารู้สึกฉุนเหลือเกิน แทนที่จะมีอารมณ์หลังจากได้เห็น เขากลับขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจแทน “ให้ฉันช่วยทำต่อจากเด็กคนนั้นมั้ย? รับรอง ถึงใจกว่าแน่”
“ไปไกลๆ”
“น่า วันนี้ฉันของขาด”
“ฉันให้ยืมห้องแล้วกัน อยากไปทำอะไรกับใครก็เชิญ”
เฟรเดอริกว่าพลางลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไป ไม่สนเสียงร้องเรียกของเซเลีย ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่กระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิดใจ
“เด็กคนเมื่อกี้เป็นใครกัน?”
ณ งานเลี้ยง
งานเลี้ยงธุรกิจเต็มไปด้วยผู้ทรงอิทธิพลในยุคนั้น เจ้าภาพงานเลี้ยงแห่งนี้คือสส.ท่านหนึ่ง สส.ผู้นี้ชื่นชอบหญิงสาว โดยไม่สนว่ามีเจ้าของหรือไม่ ขอแค่ยอมอ้าขาให้เขา ทุกอย่างที่ต้องการจะมาประเคนให้ถึงปลายเท้าแน่นอน คู่ควงที่นักธุรกิจควงมาในวันนี้ก็เพื่อให้ถูกตาต้องใจสส.ผู้นี้ เพื่อสานสัมพันธไมตรีในอนาคต
เซเลียเคยนอนกับสส.และได้เป็นนางแบบตัวท็อป หลังจากนั้นก็เป็นคู่ควงให้กับเฟรเดอริกมาตลอด เผื่อจะได้โอกาสดีๆ อีกสักครั้ง แต่นับจากวันนั้นก็ยังไม่ได้
ในขณะที่กำลังคุยธุรกิจกันอยู่นั้นเซเลียก็เห็นสายตาของสส.กำลังจ้องมองผู้หญิงคนหนึ่ง
…เดี๋ยวนะ นั่นมันเด็กที่เคยอยู่กับเฟรเดอริกนี่!...
“เฟรเดอริก ขอเวลาสักเดี๋ยวสิ”
“ถ้าเบื่อก็ไปหาอะไรกินรอก่อน” เฟรเดอริกรู้สึกไม่ชอบใจเลยที่ช่วงนี้มีแต่คนมาขัดจังหวะช่วงที่เขากำลังได้ดีอยู่ตลอด จึงกดเสียงต่ำแต่ยังปั้นหน้ายิ้มให้กับเซเลีย
เซเลียหน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง ในขณะเดียวกันนั้นอากาเนะกำลังได้รับความลำบาก เพราะสส.คนนี้กำลังหมายมั่นที่จะเอาเธอให้ได้ พายรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนคนนี้เหลือเกิน เขาไม่รู้จะปฏิเสธสส.คนนี้อย่างไร แต่จะไม่ปฏิเสธก็ไม่ได้อีก เพราะเขาขอร้องให้อากาเนะมาเป็นเพื่อนเพราะสนิทกับเธอที่สุดแล้ว เขาอยากมางานนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะเป็นงานที่ปิดเงียบ แทบไม่มีการลงสื่อ จึงขโมยบัตรเชิญจากพ่อของเขาแล้วมางานนี้แทน
“ยังเป็นนักเรียนอยู่ใช่มั้ย กำลังเรียนอยู่ปีไหนล่ะ?”
“เอ่อ ปีหนึ่งค่ะ”
“ยังเด็กอยู่เลย เรียนยากมั้ย?”
แม้คำถามจะเป็นคำถามทั่วไป แต่อากาเนะกลับรู้สึกอึดอัดเพราะสายตาที่ราวกับกำลังโลมเลียเธออยู่ ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้แตะต้องเธอเลยแม้แต่ปลายนิ้ว พายส่งสายตาขอโทษอากาเนะเพราะเขาเองก็ไม่รู้จะช่วยเธออย่างไร
“เนเน่”
แต่แล้วเสียงหนึ่งที่ไม่ต่างจากเสียงสวรรค์ช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ก็ดังขึ้นเหนือหัว พร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มคุ้นเคย
“…พี่เฟรเดอริก”