บทที่ 4 หนูทำผิดอะไรหรือเปล่าคะ?

1642 คำ
บทที่ 4 หนูทำผิดอะไรหรือเปล่าคะ? “บอสครับ” ขณะที่เฟรเดอริกกำลังจะเดินเข้าห้องประชุม ดีนก็ได้เข้ามาขวางเอาไว้ก่อน ทุกการประชุมของเฟรเดอริกนั้นสำคัญมาก เขาจะหงุดหงิดทุกครั้งที่มีใครมากวนก่อนเข้าห้องประชุม แม้จะเป็นคนสนิทอย่างดีนก็ตาม “เอ่อ คือว่า...” ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอย่างยากลำบากเมื่อเฟรเดอริกส่งสายตาโหดเหี้ยมมาให้เขา กระนั้นดีนก็ต้องรายงานไป ขืนปล่อยให้ค้างคาแบบนี้คงได้โดนดุมากกว่าเดิม “คนขับรถโทรมาบอกว่าคุณอากาเนะไม่ลงไปขึ้นรถสักทีครับ กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า...” ทันทีที่พูดยังไม่ทันจบประโยคดี คิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันเมือ่ได้ยินชื่อของสาวเจ้าตัว ใบหน้าคมคายที่ดูดุอยู่แล้วยิ่งดูดุเข้าไปใหญ่ “ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วจัดการตามสมควร ไม่ต้องมารายงานฉันทุกเรื่อง” “อ่า ครับ” จากนั้นเฟรเดอริกก็เข้าห้องประชุมไป ส่วนดีนก็รีบเดินทางมายังคอนโดใจกลางเมือง ถือวิสาสะเข้าห้องของหญิงสาวก่อนจะเห็นคนตัวเล็กนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง อุณหภูมิร่างกายที่สูงผิดปกติทำให้ดีนรู้สึกเป็นกังวล เขาดึงผ้าห่มออกแล้วเตรียมจะพาอากาเนะไปโรงพยาบาล ทว่า... สายตาดันไปเห็นคราบเลือดบนผ้าปูที่นอนและ... รอยคสมาร์กบนลำคอของเธอเข้า เขาจึงรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่เมื่อคืนนี้ แต่น่าสงสัยตรงที่ว่าผู้หญิงที่เคยนอนกับเจ้านายของเขาแทบไม่เคยมีใครที่เฟรเดอริกฝากรอยรักไว้ให้ดูต่างหน้าเลย แต่กับอากาเนะทำไมถึง... ...ช่างเถอะ ตอนนี้ต้องรีบพาคุณอากาเนะไปโรงพยาบาลก่อน ตัวร้อนอย่างกับไฟกลัวจะช็อกเสียก่อน... ในอีกทางด้านหนึ่งนั้น หลังจากประชุมเสร็จเฟรเดอริกก็รีบกลับมาที่ห้อง เหลือบสายตามองโทรศัพท์ที่ไม่มีสายเข้าสักสายพลางถอนหายใจ คิ้วเรียวที่ขมวดเข้าหากันยังไม่คลายด้วยความกังวล ใบหน้าหวานที่นอนหลับไม่ได้สติในระหว่างบทรักผุดขึ้นมา ไหนจะรอยรักที่เขาเผลอทำไว้ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้นั่นอีก ...ก็แค่สาวบริสุทธิ์... เขาคิดแบบนั้นด้วยความหงุดหงิดใจ ไม่รู้ทำไมภาพของอากาเนะถึงผุดขึ้นมาทำให้เขารำคาญใจไม่ใช่น้อย แล้วยังจะเสียงหวานๆ ที่ร้องครางในคืนนั้นอีก มันทำให้เขาจดจ่ออยู่กับงานไม่ได้เลย กระทั่งดีนกลับมาและรายงานเรื่องของอากากเนะให้เขารู้ ชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกจดจ่อกับงานไม่ได้อย่างน่าแปลก หรืออาจจะเป็นเพราะรู้สึกผิดที่พรากครั้งแรกจากเด็กสาวแบบนั้นมา คิดได้ดังนั้นเฟรเดอริกก็ละจากงานที่ทำแล้วตรงไปที่โรงพยาบาลทันที บางทีหากได้เห็นว่าอากาเนะสบายดีเขาอาจจะใจเย็นขึ้นก็ได้ ทว่าสภาพที่เห็นคือคนตัวเล็กหน้าซีดเผือดและยังไม่ได้สติ หมอเจ้าของไข้ที่เข้ามาตรวจพอดี พอได้รู้ว่าเฟรเดอริกเป็นคู่หมั้นก็ต่อว่าเขาที่ทำรุนแรงกับคนตัวเล็กจนจับไข้ อีกทั้งยังแนะนำให้อ่อนโยนกับเธออีกต่างหาก ...เมื่อคืนฉันก็อ่อนโยนมากแล้วนะ... แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้แก้ต่างออกไป... ไม่กี่วันต่อมา... อากาเนะฟื้นตัวจากไข้หวัดเพราะได้รับการรักษาที่ดีและพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทันทีที่เธอออกจากโรงพยาบาลก็ไปเรียนทันที ทว่าหลังเลิกเรียนแทนที่คนขับรถจะพาเธอไปส่งที่คอนโดเหมือนอย่างทุกวัน แต่วันนี้กลับพามาส่งที่บริษัทแทน “เอ่อ คือว่าไม่พาหนูกลับบ้านเหรอคะ?” “คุณชายให้มาส่งที่นี่ครับ” “อ่า... ค่ะ” หญิงสาวลังเลเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นคนขับรถก็ส่งสายตาและรอยยิ้มกดดันให้เธอรีบลงไป อากาเนะยืนโดดเดี่ยวอยู่หน้าบริษัท เธอมองซ้ายมองขวาด้วยความประหม่า จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องเข้ามาถาม “มาหาใครหรือเปล่าครับ?” “เอ่อ...” “คุณอากาเนะครับ” ดีนเดินออกมาหาเธอพอดี ทำให้หญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอก “อ้าว แขกของคุณดีนเหรอครับ เชิญเลยครับ” “เปล่าครับ แขกของท่านประธาน” “เฮือก ผมขอโทษที่เสียมารยาทครับ เชิญเลยครับ เชิญเลย” เธอยกมือขึ้นบอกว่าไม่เป็นไร แล้วเดินตามดีนเข้าไปด้านใน อากาเนะรู้สึกเกร็งกับสายตาของพนักงานที่มองมาเหลือเกิน รู้สึกราวกับตัวเองเป็นสัตว์ตัวหนึ่งในสวนสัตว์อย่างไรอย่างนั้น กระทั่งขึ้นลิฟท์มาจนถึงห้องประธาน “ไปรอในห้องก่อนนะครับ ท่านประธานใกล้จะประชุมเสร็จแล้ว” “ค่ะ” เมื่อเข้ามาในห้องอากาเนะก็ถอนหายใจดังเฮือก ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟากลางห้อง หลังจากคืนนั้นก็ผ่านมาสามวันแล้วที่ทั้งสองไม่ได้เจอหน้ากันเลย อยู่ดีๆ ก็ให้คนขับรถพาเธอมาส่งที่นี่ เธอเผลอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่านะ หรือเพราะวันก่อนเธอเข้าไปใช้ห้องสมุดตามอำเภอใจ อากาเนะอดคิดนั่นคิดนี่ด้วยความกังวลไม่ได้ ดวงตาที่กรอกไปมาด้วยความกระวนกระวายสะดุดเข้ากับผ้าม่านที่เปิดครึ่งหนึ่งและปิดครึ่งหนึ่ง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเธอจึงเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงนั้น พลันฉากรักหน้ากระจกในค่ำคืนเร่าร้อนก็ผุดขึ้นมาทำให้ใบหน้าหวานร้อนผ่าวขึ้นมา ที่คอนโดเองก็มีส่วนที่เป็นกระจกและมองเห็นทั่วทุกมุมแบบนี้เหมือนกัน แต่ที่นั่นจะอยู่สูงกว่าที่นี่เล็กน้อย “มองอะไรอยู่” “ว้าย!!” คนตัวเล็กตกใจรีบหันกลับไปทันที ด้วยความไม่ตั้งใจริมฝีปากอวบเฉียดข้างแก้มสาก เพราะใบหน้าคมคายนั้นโน้มเข้ามาใกล้เสียเหลือเกิน หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปาดตัวเอง ดวงตาเบิกกว้างราวกับได้ทำความผิดร้ายแรง ใบหน้าของชายหนุ่มที่โน้มลงมาใกล้กับเธอมากเกินไป ดวงตาเรียวคมที่จ้องมองเงียบๆ ยิ่งทำให้อากาเนะรู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบ เฟรเดอริกดึงใบหน้าออก แล้วลูบที่ข้างแก้มซึ่งริมฝีปากอวบอิ่มเฉียดโดนเมื่อครู่ โดยที่สายตาจับจ้องมองคนตัวเล็กไม่วางตา “ขะ ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ” “สรุปว่าไง?” “คะ?” สมองน้อยๆ พยายามประมวลคำถามของเขา ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้เขาถามอะไรจึงรีบตอบออกไป “อ้อ เอ่อ หนูก็แค่ มะ มองไปเรื่อยน่ะค่ะ” เฟรเดอริกยังคงจ้องมองอากาเนะไม่วางตาจนคนตัวเล็กเกร็งไปหมด เธอไม่รู้ว่าเธอเผลอทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า ทั้งๆ ที่ตัวเองตั้งใจอยู่เงียบๆ ตามที่เขาบอกมาโดยตลอด “เอ่อ.. หนูทำผิดอะไรหรือเปล่าคะ?” “ทำไม ไปทำความผิดมาเหรอ?” “หนูก็ไม่รู้ค่ะ...” ชายหนุ่มขยับเข้าหาอากาเนะมากขึ้น จากที่ร่างบอบบางไม่ได้ชิดกับกระจกขนาดนั้น ตอนนี้เธอขยับถอยจนแผ่นหลังชิดกับกระจกใสเสียแล้ว ดวงตากลมกรอกไปมาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์ในตอนนี้ ใบหน้าที่เคลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่หน้าผาก ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวด้วยความประหม่า “เพราะว่าหนูใช้ห้องสมุดตามใจชอบหรือเปล่าคะ?” “เรื่องแค่นั้น ทำไมฉันต้องไม่พอใจด้วย เธอเห็นว่าฉันเป็นคนใจแคบหรือไง?” “เปล่าคะ ก็... ถ้าอย่างนั้นหนูก็ไม่รู้ว่าทำผิดอะไร พี่เฟรเดอริกบอกหนูได้มั้ยคะ ต่อไปหนูจะไม่ทำอีกแล้ว” “เงยหน้าขึ้น” “คะ?” เธอตอบเสียงเบาด้วยความไม่เข้าใจ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่ออตั้งสติได้ก็ทำตามที่ชายหนุ่มบอก ทว่าทันทีที่เงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของนัยน์ตาดุดันคู่นั้น ริมฝีปากอวบหยักก็ทาบทับลงมาทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ มือเล็กยกขึ้นดันแผงอกกว้างให้ออกห่างจากตัว แต่แผงอกแกร่งดั่งหินผาไม่ต่างจากเธอดันก้อนหินยักษ์ อากาเนะกลั้นหายใจด้วยความไม่เคยชิน ในขณะที่เรียวลิ้นสากแสนร้ายกาจรุกรานเข้าไปในโพรงปากของเธอ แล้วยังกดใบหน้าหนักหน่วง พร้อมกับฝ่ามือหนายกขึ้นรั้งท้ายทอยคนตัวเล็กเพื่อให้เธอแหงนหน้ารับจูบดูดดื่มนี้อย่างไร้หนทางเลือก “อื้อ!” เสียงหวานร้องประท้วงด้วยความหวาดหวั่น เธอไม่เข้าใจถึงความหมายของจูบนี้เลย ก่อนหน้านี้เขาบอกไม่ให้เธอสำคัญตัวเองผิด และอย่าเรียกร้องสิ่งใด อากาเนะก็ทำตามและอยู่อย่างเงียบๆ มาตลอด แล้วตอนนี้มันอะไรกัน!? เธอพยายามดันแผงอกกว้างออกสุดแรง แต่ยิ่งต่อต้านจูบของเขาก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นจนอากาเนะเริ่มหายใจติดขัด เรียวลิ้นเล็กของเธอถูกเขาดูดเข้าอุ้งปากร้อนไป เกี่ยวรัดรึงตามอำเภอใจเสียจนอากาเนะแทบดิ้นพล่านกับสัมผัสจาบจ้วงของเขา เสียงจูบดังมาให้ได้ยินมันช่างน่าอาย ดวงตาของอีกฝ่ายยังคงจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม