ตอนที่ 6 ข้อแม้

1172 คำ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก น้ำหนึ่งมาพร้อมถาดกับข้าวในมือ เคาะประตูห้องลูก ก่อนจะเปิดเข้าไปได้อย่างง่ายดาย เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ล็อก ก็เห็นลูกชายตัวเองนั่งอยู่นอกระเบียง เสื้อไม่ได้สวม มีเพียงกางเกงยีนขายาวตัวเดียว ปล่อยควันสีขาวลอยคละคลุ้งขึ้นไปด้านบนอยู่เรื่อย ๆ สามีเธอไม่ใช่คนดูดบุหรี่ แต่กับนาวิน ไม่รู้ว่าไปแอบดูดตั้งแต่ตอนไหน กว่าจะรู้ก็คือ อีกฝ่ายติดไปแล้ว ขอให้หยุดก็ไม่ฟัง ไอ้รอยสักข้างลำตัวนี่ก็เหมือนกัน กว่าจะเห็นว่าลูกชายตัวเองไปสัก ก็นานมาแล้ว แต่ก็เถอะ รอยสักมันไม่ได้เลวร้าย แต่บุหรี่ต่างหาก ที่มันไม่ดีต่อสุขภาพ “แม่ว่าเพลา ๆ ลงหน่อยดีไหม วินดูดบุหรี่จัดมากเลยนะลูก” น้ำหนึ่งวางกับข้าวลงบนโต๊ะ แล้วนั่งที่เก้าอี้ข้างลูกชาย จับมือหนาข้างหนึ่งมากุมด้วยความเป็นห่วง งานเครียดขนาดนั้นเลยเหรอ เธอจะได้ขอให้สามีเอาคนไปช่วย นาวินยังไม่สนใจตอบแม่ กลับกันยังคงดูดควันเข้าปอด แล้วปล่อยควันสีขาวออกลอยคละคลุ้งขึ้นไปในอากาศ ทำเอาน้ำหนึ่งถอนหายใจเบา ๆ เธอไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะพูดคุยกับลูกในเรื่องนั้นได้ นาวินไม่ไปนอนที่อื่นก็ดีแค่ไหนแล้ว เพราะเมื่อก่อน ไม่พอใจพ่อกับแม่ก็ชอบหนีไปนอนที่ร้าน “แม่เอาข้าวมาให้ ดูดบุหรี่เสร็จแล้วทานข้าวหน่อยนะ” นาวินยังคงไม่ตอบ ทำเอาน้ำหนึ่งร้อนใจขึ้นมา ในอดีตมันเคยใช้น้ำตากับผัวสำเร็จ มาวันนี้ จึงบีบน้ำตาออกมาง้อลูก “มะ...แม่ขอโทษนะวิน ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อน เพราะกลัวว่าวินจะไม่โอเค” “คิดว่ามาบอกทีหลังแล้วผมจะโอเค?” ทำแบบนี้เขายิ่งรู้สึกโกรธ รู้เลยว่าที่ผ่านมา สิ่งที่เขาพยายามต่อต้านมาโดยตลอด มันไม่ได้ผล ท้องเองไม่ได้ ก็ไปเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงเป็นลูกตัวเอง โคตรฉลาดเลย “ความจริงแม่ไม่ได้ว่าจะชวนน้องมาอยู่ด้วยหรอกนะวิน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ทำให้แม่ไม่สามารถปล่อยน้องไปตามทางของน้องได้” “วินเชื่อไหมว่า ทั้งที่พลอยไพลินนอนเจ็บอยู่ในโรงพยาบาล แต่แม่เลี้ยงของน้องกลับเข้ามาบอกให้น้องลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า เพื่อที่จะเอากลับไปส่งให้เสี่ย” “ที่ผ่านมา แม่เคยเห็นแต่ในละคร แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะเจอเหตุการณ์จริง มันร้ายแรงเสียยิ่งกว่าในละครอีก เพราะพลอยไพลินคือคนที่เจอเหตุการณ์นี้จริง ๆ น้องรู้สึกกลัวจริง ๆ” “น้องกอดแม่แน่นมาก ทั้งที่แม่เป็นคนขับรถชนน้อง น้องเชื่อใจแม่ มากกว่าแม่เลี้ยงของน้องเสียอีก” “แล้วแบบนี้ วินจะให้แม่ปล่อยเด็กคนนั้นกลับไปกับแม่เลี้ยงเหรอ โดยที่แม่ไม่รู้ว่า ป่านนี้ถ้าน้องไม่มาอยู่กับเรา จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้” “ผมก็ไม่ได้บอกหนิว่าให้ปล่อยเด็กคนนั้นกลับไปกับแม่เลี้ยงของเขา” นาวินเอ่ยสวนขึ้นว่าอีกคนกำลังเข้าใจผิดในสิ่งที่เขาต้องการสื่อ ถ้าจะช่วย มีวิธีอื่นเยอะแยะ ไม่ใช่ให้มาอยู่ที่นี่ “วินจะให้น้องไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์งั้นเหรอลูก” นาวินดูดควันเข้าปอด ไม่ตอบคำถามใด ๆ “ที่นั่นมีเพื่อนเยอะก็จริง แต่วินเชื่อไหม ไม่มีใครอยากอยู่ที่นั่นหรอกนะ เด็กที่อาศัยอยู่ที่นั่น ไม่มีใครเต็มใจสักคน แต่เพราะเลือกไม่ได้ถึงต้องไป” “แม่ขอได้ไหม แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ให้น้องอยู่กับเราที่นี่เถอะนะ แม่สัญญา จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก” “...” “นะ วิน มันไม่ใช่แค่เรื่องสถานที่ แต่น้องขาดความอบอุ่นมาก ดูก็รู้ น้องไม่มีใครเลย ให้น้องอยู่บ้านนี้กับเราเถอะนะ” “...” น้ำหนึ่งมีใบหน้าเศร้าลงเมื่อลูกชายไม่ตอบ เชื่อไหมว่าทุกครั้งที่บ้านเรามีปัญหากัน เธอกับสามีต้องเป็นฝ่ายยอมลูกตลอด เพราะนาวินใจแข็งหนักมาก และเธอคิดว่า ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน นาวินคงไม่ยอมให้พลอยไพลินมาอยู่ที่นี่ด้วย งั้นเธอคงต้องไปหาห้องเช่าที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเราให้อีกฝ่ายอยู่ รอจนพลอยไพลินเรียนจบม.6 เธอจะให้หญิงสาวย้ายเข้าไปอยู่หอในอีกที ถึงตอนนั้น เธอคงสบายใจกว่านี้ เพราะมีระบบดูแลรักษาความปลอดภัย “ก็ได้” น้ำหนึ่งเงยหน้าขวับมองลูก เมื่อกี้นาวินว่ายังไงนะ ก็ได้งั้นเหรอ “ผมอนุญาตให้เด็กคนนั้นอยู่บ้านเราก็ได้ แต่ต้องห้ามมายุ่งเกี่ยวกับผมเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าผมไม่เตือน!” จ้องหน้าแม่ตัวเองเขม็ง บอกให้อีกคนเข้าใจว่าเขาพูดจริง “วะ...วินจะทำอะไรน้องเหรอลูก” น้ำหนึ่งถามด้วยความเป็นกังวล เพราะกลัวว่าพลอยไพลินจะพลาดไปทำอะไรที่ไม่เข้าตานาวินขึ้นมา นาวินดึงสายตากลับมา อย่างไม่อธิบายอะไรใด ๆ “ดะ...ได้ แม่จะบอกน้องว่าไม่ให้ไปยุ่งกับวิน” ร่างสูงดูดบุหรี่เข้าปอด ทำคนเป็นแม่ได้แต่ถอนหายใจ “ขอบใจลูกมากนะนาวิน” สวมกอดอีกฝ่าย ก่อนจะผละออก แล้วเลื่อนถาดกับข้าวเข้ามาใกล้ ใช้ช้อนตักข้าวแล้วยื่นไปตรงปากของลูกชาย ทว่านาวินกับเมินหน้าไปทางอื่น “กินหน่อยนะ วินยังไม่ได้กินข้าวสักคำเลย แม่ทำสุดฝีมือเลยนะ” พะแนงไก่ที่นาวินชอบ กับไข่ดาวเยิ้ม ๆ “ผมยังดูดบุหรี่ไม่เสร็จ” “อะ...อ๋อ” น้ำหนึ่งมองที่มือของลูกชาย เธอก็ลืมสังเกต “งั้นแม่วางไว้ให้ตรงนี้นะ วินอย่าลืมกินข้าวด้วยนะลูก” นาวินไม่ตอบ ทำให้น้ำหนึ่งจำต้องเดินออกจากห้องของลูกไป พอก้าวเท้าลงบันได ก็เห็นสามีมองมา เธอรู้ว่าอีกฝ่ายคงเครียดไม่ต่างกัน จึงได้รอฟังอยู่ “ลูกชายเธอว่ายังไงบ้างยัยแม่มด” ภาคินรีบถามเมียด้วยความเป็นกังวล สรุป พลอยไพลินจะได้อยู่ที่นี่ไหม “นาวินโอเคค่ะ” ภาคินเลิกคิ้ว ทำไมครั้งนี้ยอมง่ายจัง “แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามให้พลอยไพลินเข้าไปยุ่งวุ่นวายเด็ดขาดค่ะ แต่หนึ่งไม่ให้พลอยทำแบบนั้นอยู่แล้วค่ะ คุณไม่ต้องกังวลหรอก” ภาคินถอนหายใจออกมาเบา ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็สบายใจ ต่างคนต่างอยู่เถอะ เพราะเข้าใจว่าลูกชายตัวเองมีโลกส่วนตัวสูงมาก นาวินหนักกว่าเขาเยอะเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม