Ep 7 สารภาพ
เจสซี่ผู้เอาแต่ใจแต่เก็บซ่อนสันดานเสีย ๆ นี้ไว้จากน้องอิมมาเนิ่นนานนับสิบปี แม้แต่พ่อกับแม่เขาก็ไม่เว้นยอมให้เพราะเกรงใจก็เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เรื่องเรียนเรียนงานที่สำคัญพูดจนหอยคอพังด่าจนเส้นเลือดสมองบวมเป่งคนอย่างเจสซี่ก็หาสนใจ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเกิดมาเพียบพร้อมด้วยเงินทอง รูปลักษณ์ และความฉลาด คนอย่างเขาจะหยิ่งจนคนทั้งโลกด่าก็พอได้อยู่ บางคนมองว่าพ่อแม่มีบุญคงทำบุญมาเยอะในชาติก่อนแต่อย่าลืมว่าเจสซี่ไม่ได้นับถือพุทธ เขาเชื่อว่ามีทุกวันนี้ได้เพราะพ่อแม่เขาเป็นคนเก่งและขยันมากกว่า
นาทีนี้การป้อนอาหารคำแรกเป็นเหมือนการไปกระตุ้นต่อมความเอาแต่ใจ มีคำแรกก็มีคำต่อไปเรื่อย ๆ จนอาหารบนโต๊ะหมดเกลี้ยง น้องอิมเป็นคนกินเก่งกินง่ายกว่าพี่เจสแต่ถ้าอิมชวนกินอะไรเจสซี่ก็ไม่เคยปฏิเสธสักครั้ง ถ้าไม่ชอบก็จะกินน้อยหน่อยเพื่อให้น้องอิมสบายใจ แต่อิมเองก็พอรู้ว่าอะไรที่พี่เจสซี่ชอบหรือไม่ชอบ เธอก็มักจะเลี่ยงไม่ชวนเขาไปกินอยู่แล้ว
“อิ่มจัง”
“ไปกินขนมต่อไหม”
“ได้เหรอ”
“อืม”
“ใจดีจัง”
“ถึงเวลาอย่าลืมตอบแทนพี่ล่ะ”
“แน่นอนค่ะ”
รอยยิ้มจาง ๆ ของเจสซี่ทำเอาน้องอิมถึงกับออกอาการเขิน ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยยิ้มแต่ช่วงนี้ไม่รู้ว่าทำไมพอเห็นเขายิ้มแล้วเธอมักใจเต้นแรงผิดจังหวะ หรือเพราะความหล่อที่ทำให้เธอนึกถึงไอดอลในดวงใจทั้งหลายขึ้นมาก็ไม่รู้ เจสซี่พาน้องอิมไปคาเฟ่ริมทะเลวิวสวยให้เธอได้ถ่ายรูปในแบบที่เธอชอบ เขาชินเสียแล้วที่ต้องรับหน้าที่เป็นคนถ่ายรูปให้เธอ และที่เธอไม่เคยรู้เลยก็คือเจสซี่จ้างครูมาสอนถ่ายภาพเป็นการส่วนตัวอยู่พักใหญ่ ทั้งกล้อง ทั้งมือถือ
“พี่เจสถ่ายสวยตลอดเลยจนอิมไม่รู้จะเลือกรูปไหนดี“
”ลงไปให้หมดง่าย ๆ“
”แหม๋“
”จริงไหมล่ะ“
”ก็จริง“
”แค่นั้น“
เสียงรอบตัวซุบซิบถึงคนทั้งคู่ว่าดูเหมาะสมกันมากแถมบางประโยคยังบอกว่าชุดที่ใส่แมตกันจนอยากซื้อตาม น้องอิมไม่ได้ยินหรือเปล่าเธอถึงไม่เคยแสดงอาการใด ๆ ออกมา แต่สำหรับเจสซี่เขากำลังเก็บอาการของความปลื้มใจไว้ นี่แหละที่เขาต้องการทุกย่างก้าวของน้องอิมที่มีเขาเดินเคียงข้างและเหมาะสม เขาแม่งโคตรจะพอใจจนอยากจะเปย์เค้กสัก 10 ชิ้นให้กับคนที่พูดถึงเขากับน้องอิมอยู่ด้านหลังแบบระยะเผาขน
ใช้เวลาทั้งวันจนถึงเย็นเจสยังไม่มีท่าทีจะพาน้องอิมกลับบ้านเขาแวะร้านอาหารกินมื้อเย็นแบบไม่เร่งรีบ เมื่อรถขับมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่โดยปกติเขาจะใช้รีโมทเปิดประตูบ้านของน้องอิมเอง แต่วันนี้เขากลับชะลอรถเทียบเจอที่หน้าบ้านแทน
“ทำไมไม่เข้าบ้านคะ”
“อยากได้ของตอบแทน”
“ตอบแทนเรื่อง”
“ทุกเรื่อง”
“พี่เจสพูดตลกถ้าให้อืมตอบแทนทุกเรื่องคงต้องเขียนลิสยาวเป็นหางว่าว”
“เว่อร์ไป”
เจสซี่ตอบแล้วก็โน้มตัวไปใกล้น้องอิมทันที เขากดสันจมูกเขาลงที่ข้างแก้มของน้องอิม พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าน้องตกใจจนตาค้างแข็ง สันจมูกกดลงอีกครั้งแต่เป็นที่ซอกคอขาว และอีกครั้งตอนที่มือหนารั้งคอเสื้อของน้องอิมลงให้ช่วงไหปลาร้าเปิดออก รอยสีแดงจ้ำที่เขาลืมตัวทำไว้เมื่อคืนตอนน้องอิมเมาหลับยังคงอยู่ การเอาหน้าซุกครั้งนี้ไม่ใช่การใช้สันจมูกได้รูปแต่เป็นการใช้ปากสวยเกินผู้หญิงบางคนจะมีกดดูดย้ำซ้ำรอยเดิมต่างหาก รอยพวกนี้มันไม่เจ็บเวลาทำแต่รอยจะคงอยู่นานหลายวัน เขาเลยเลือกทำในร่มผ้าแทนจะเป็นที่อื่น
“พะ พี่เจส”
“ครับ”
“พะ พี่ ทะ ทำอะไร”
“จูบ”
“พี่บ้าไปแล้วเหรอ”
วงแขนที่กักร่างของน้องอิมไว้ไม้ให้เปิดประตูรถวิ่งหนีเข้าบ้าน ทำเอาน้องอิมตัวสั่นด้วยความกลัว เธอกำลังกลัวร่างมืดของพี่เจสเพราะเธอไม่เคยคิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้ เจสซี่เองก็เริ่มรู้ตัวว่าเขาอาจจะรุกน้องแรงไปแต่ถ้าเอาแขนออกตอนนี้น้องอาจจะไม่ยอมคุยกับเขาอีก แถมถ้าคีนรู้เขาอาจจะเข้าถึงน้องยากมากกว่าเดิมไปอีก
“ขอโทษ”
“…”
“แต่มันทนไม่ไหวแล้ว”
“ทนอะไร”
“อยากกอด อยากจูบ อยากสัมผัส“
”พี่เจส“
”ไม่อยากเป็นพี่ชายแล้ว“
”…“
”อิมไม่เบื่อเหรอมีพี่ชายเยอะไปหมด“
”ก็“
เสียงเคาะกระจกด้านข้างคนขับดังขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหนพี่ชายตัวจริงโผล่มาได้จังหวะเสียเหลือเกิน เจสซี่อยากจะเปิดประตูรถออกไปกระแทกหน้าให้แหกสักที แต่ติดตรงอืมยังอยู่ทำอะไรไปเดี๋ยวน้องจะตกใจมากกว่าเดิม เลยเลือกกดกระจกลงแทน
“มึงมาจอดทำไมหน้าบ้าน”
“แล้วมึงมาทำไมหน้าบ้าน”
“เอ้า…ก็บ้านกู”
“เบื่อมั๊ยไอ้xxxวุ่นวายกับกูจัง”
“ไอ้เหี้ยเจสเรียกกูดี ๆ อิมนั่งหัวโด่อยู่”
“ลงมาอิมเข้าบ้านได้แล้ว”
“อืม”
น้องอิมหยิบกระเป๋าใบน้อยแล้วเปิดประตูรถเดินตรงเข้าบ้านไปโดยไม่รอคีนและไม่หันมาลาหรือมองหน้าเจสซี่เลย บรรยากาศรอบตัวของเจสซี่นิ่งงันไปทันที คีนพอเห็นแบบนั้นก็แอบรู้จักใจคอไม่ดี เขาไม่ได้ห่วงเจสซี่เขาห่วงน้องอิมต่างหากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อิมไม่เคยที่จะไม่รอเจสซี่และเจสเองก็ไม่เคยที่จะไม่บอกลาน้องอิม
“เพราะกูเหรอ”
“รู้ตัวก็ดี”
“อะไรวะ”
“…”