เช้าวันต่อมา...
“โฮ่งๆ โฮ่งๆ”
เสียงหมาเห่าดังรบกวนเรียกสติให้คนเมาปรือตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะสะลึมสะลือลุกขึ้นมานั่งบนที่นอนด้วยอาการมึนงง
มือเล็กคว้าโทรศัพท์ดูเวลาเป็นอันดับแรก
“แปดโมงเช้า...”
เธอพึมพำเสียงเบาก่อนจะเบิกตาโพลงตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้สภาพห้องที่เธออยู่ไม่ใช่ห้องนอนของตัวเอง
พรึ่บ!
ขนมผิงรีบดึงผ้าห่มออกมองสำรวจร่างกายตัวเองก่อนจะถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นว่าเธอยังอยู่ในชุดเดิม
“โฮ่งๆ โฮ่งๆ”
เสียงดังจากประตูหน้าห้องเรียกความสนใจให้หญิงสาวลุกออกจากเตียงเดินไปเปิดประตู ซึ่งทันใดนั้นเองเจ้าหมายักษ์ตัวใหญ่ที่ยืนคอยอยู่ก็กระโจนใส่ตัวขนมผิงจนเธอล้มเอาก้นจุ่มพื้นอีกครั้ง
แพร่บๆ แพร่บๆ
“อ้ะ ไดมอนด์ ฮ่าๆๆ อย่าเลียสิเปื้อนหมดแล้วเนี่ย”
เจ้าหมาตัวโตเลียใบหน้าขนมผิงด้วยความดีใจ หางมันกระดิกริกๆ ไม่หยุด ส่วนคนที่ถูกเจ้าหมาโจมตีก็หัวเราะขบขันเพราะลิ้นมันดันทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้
“พอแล้วๆ แกทำฉันเลอะน้ำลายไปหมดแล้วนะ”
เห็นเจ้าไดมอนด์ขนมผิงก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ซึ่งทันทีที่รู้เธอก็ตกใจเล็กน้อยเพราะเมื่อคืนก่อนสิ้นสติไปเจ้าของบ้านหลังนี้ไม่ได้อยู่ปาร์ตี้กับเธอเสียหน่อย
ดึงสติกลับมาได้ขนมผิงก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนของเดย์หยิบโทรศัพท์มือถือเตรียมกดโทรหาคนพี่ แต่ยังไม่ทันได้โทรหาข้อความหนึ่งก็เด้งเข้ามาพอดี
[เดย์ : ตื่นแล้วอาบน้ำใช้ห้องน้ำได้ตามสบายนะ เสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนพี่เตรียมไว้ในห้องน้ำให้แล้วหนูใช้ได้เลย ถ้าจะกลับบ้านกุญแจรถวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงเอากลับไปก่อนได้เดี๋ยวค่อยเอามาคืน พี่เข้าสอบก่อนนะ]
อ่านข้อความจบขนมผิงก็เผลอหลุดยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เธอวางโทรศัพท์เดินสำรวจห้องครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ สิ่งแรกที่เห็นคือเสื้อผ้าหนึ่งชุดถูกจัดเตรียมไว้พร้อมกับแปรงสีฟันอันใหม่หนึ่งอัน
“ถ้าที่บ้านรู้ว่ามานอนบ้านพี่เดย์เธอตายแน่ขนมผิง” ร่างบางเอ่ยกับตัวเองในกระจก
ใช้เวลาไม่นานขนมผิงก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ แม้ชุดของเดย์จะใหญ่ไปเสียหน่อยแต่ก็พอสวมได้ คนตัวเล็กรีบจัดการหยิบข้าวของส่วนตัวพร้อมถุงผ้าชุดเดิมเดินลงมาชั้นล่าง ซึ่งขณะที่เท้าถึงพื้นเสียงทุ้มเสียงหนึ่งก็ดังเอ่ยทักจนเธอต้องชะงักเท้าหันไปหาเจ้าของเสียง
“ตื่นแล้วเหรอหนูผิง”
“คะ คุณลุงอยู่บ้านด้วยเหรอคะ”
“ไม่ต้องตกใจลุงกำลังจะออกไปคลินิกพอดี แต่จำได้ว่าเมื่อคืนหนูผิงนอนที่นี่ลุงเลยเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ก่อนมาทานด้วยกันก่อนสิ”
ด้วยความเกรงใจและไม่กล้าปฏิเสธผู้ใหญ่ขนมผิงจึงเดินตามพ่อของเดย์ไปยังโต๊ะอาหาร ทันทีที่เธอนั่งลงข้าวต้มกุ้งชามใหญ่ก็ถูกนำมาเสิร์ฟตรงหน้าเธอ
บอกได้เลยว่ากลิ่นหอมของมันหอมยั่วยวนชวนน้ำลายไหลเชียว
“เป็นไงหน้าตาน่าทานไหม”
ขนมผิงรีบพยักหน้าหงึกๆ ไม่รอช้าสาวน้อยที่ทนกลิ่นยั่วยวนไม่ไหวก็รีบหยิบช้อนตักข้าวต้มคำโตเข้าปากพร้อมเคี้ยวหงุบหงับ ด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย
“อร่อยมากเลยค่ะคุณลุง คุณลุงทำเองเหรอคะ” เมื่อได้กินของอร่อยแววตาของเธอก็ประกายขึ้นทันที วิษณุเห็นก็อดยิ้มตามไม่ได้
“อร่อยก็กินเยอะๆ นะ หนูตัวเล็กนิดเดียวเอง”
“งั้นผิงไม่เกรงใจนะคะ”
“ตามสบายเลย มื้อนี้ลุงเลี้ยงเต็มที่”
ทั้งคู่ทานอาหารไปพลางพูดคุยไปพลางจนขนมผิงทานหมดถ้วยโดยไม่เหลือสักหยด
“ลุงเชื่อละว่าลุงทำกับข้าวอร่อย ดูสิหนูกินจนเจ้าไดมอนด์นั่งมองตาปริบๆ เลย”
“ขอโทษนะไดมอนด์แต่มันอร่อยจนเผลอกินหมดเลย”
ขนมผิงแกล้งเย้าแหย่เจ้าหมายักษ์ก่อนจะหันมายกยิ้มกว้างให้วิษณุ
“ขอบคุณนะคะคุณลุง คุณลุงทำอาหารอร่อยมาก!!! ให้ก.ไก่ล้านตัวเลย”
คนถูกชมยิ้มตามอย่างมีความสุข
“อ้อ! ลุงเกือบลืมไปเลยว่าเจ้าเดย์ฝากให้ลุงเอาขนมเค้กให้หนูด้วย” เอ่ยจบวิษณุก็เดินไปยังตู้เย็นหยิบเค้กออกมาสองกล่องส่งให้ขนมผิง
“ของผิงเหรอคะ”
เธอก้มมองกล่องเค้กที่วิษณุมอบให้สลับกับหน้าเขา เค้กกล่องหนึ่งเป็นเค้กสตรอว์เบอร์รี อีกกล่องเป็นเค้กนมสด
“ของหนูผิงนั่นแหละ เมื่อวานเป็นวันเกิดแม่เจ้าเดย์เขาเลยแวะไปซื้อเค้กร้านประจำ เห็นบอกมีโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่งก็เลยซื้อมาเผื่อหนูเพราะเห็นว่าชอบกิน”
จบประโยคขนมผิงก็นึกได้แล้วว่าเมื่อวานเดย์วิดีโอคอลมาหาเธอเรื่องโปรโมชั่นร้านเค้ก แต่ไม่คิดว่าเขาจะซื้อให้เธอด้วย
“แล้วนี่แม่ของพี่เดย์ท่านอยู่ไหนเหรอคะ ผิงยังไม่ได้ทักทายท่านเลย”
วิษณุยิ้มอ่อนแฝงความเศร้า
“จากไปแล้วล่ะ แม่เจ้าเดย์เสียไปเมื่อหลายปีก่อนด้วยอุบัติเหตุพร้อมกับน้องสาวที่อยู่ในท้อง” ได้ยินดังนั้นขนมผิงก็ถึงกับจุกอกพูดไม่ออก
“ทุกวันเกิดของแม่ เดย์ก็จะชวนลุงมาฉลองด้วยกันไม่เคยพลาดเลยสักปี เขามักจะไปซื้อเค้กร้านประจำที่แม่เขาชอบมาฉลองกับลุงสองคน”
ขนมผิงได้ยินสิ่งที่วิษณุพูดเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อวานตอนเธอชวนเขาไปปาร์ตี้ด้วยกันเขาถึงปฏิเสธเธอ
“เค้กน่าทานจังเลยค่ะ คุณลุงอยากลองชิมพร้อมกับผิงไหมคะ”
“ลุงอายุเยอะแล้วกินของพวกนี้ไม่ดีนักหรอก เค้กของแม่เดย์ในตู้เย็นก็ยังไม่หมดเลย”
“แต่สตรอว์เบอร์รี่อร่อยมากนะคะคุณลุงรับรองทานแล้วจะติดใจ”
ความร่าเริงของขนมผิงกลบความเศร้าโศกในใจให้วิษณุได้พอสมควร เห็นขนมผิงแล้วเขาก็อดคิดถึงลูกสาวที่จากไปโดยที่ยังไม่ได้ลืมตาดูโลกไม่ได้ หากเธอยังมีชีวิตอยู่ก็คงอ่อนกว่าขนมผิงไม่กี่ปีและคงเติบโตมาดีไม่ต่างกัน
“ตายละ คุยกับหนูผิงเพลินลุงลืมไปเลยว่ามีผ่าตัดเจ้าเหมียวเดี๋ยวลุงรีบไปก่อนนะฝากหนูปิดบ้านด้วยนะลูก”
พูดจบวิษณุก็รีบเดินสาวเท้าออกจากบ้านโดยที่ขนมผิงยังงับเค้กอยู่ในปากด้วยความงวยงง
เธอหันมองซ้ายขวาก็เห็นแต่ความว่างเปล่ากับเจ้าไดมอนด์ที่นั่งทำตาปริบๆ มองเธอคล้ายอยากจะขอกินเค้กด้วย
“นี่คุณลุงไม่กลัวเราขโมยของเลยเหรอ”
สาวน้อยพึมพำก่อนจะไหวไหล่เบาๆ ด้วยท่าทางผ่อนคลาย กินเค้กต่ออีกคำสองคำจากนั้นก็เก็บกลับเข้ากล่องและปิดบ้านให้ตามคำสั่ง
เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างก็เดินมายังรถเก๋งสีดำที่จอดไว้ในโรงรถปลดล็อกกุญแจเข้ามายังที่นั่งฝั่งคนขับ
ขณะที่กำลังเลี้ยวหัวรถออกจากบ้านเดย์ไปยังปากซอย ดวงตากลมก็เผลอเหลือบเห็นอาทิตย์กำลังจะออกจากบ้านเช่นเดียวกัน
“วันนี้พี่อาทิตย์ไปทำงานช้าจัง”
เธอมองรถอาทิตย์ขับผ่านหน้าตัวเองไปเดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกอะไร กระทั่งเห็นว่ามีหญิงสาวอีกคนที่เป็นเลขานั่งอยู่ข้างเขาและนั่นเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นอาทิตย์หัวเราะอย่างมีความสุขซึ่งต่างจากเวลาอยู่กับเธอโดยสิ้นเชิง
ติ้ง!
[อังเปา : แกฟื้นยังยัยหนู!]
[ขนมผิง : ฟื้นแล้วมีอะไรเหรอ]
[อังเปา : เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ตอนนี้รูปพวกเราว่อนเต็มโซเชียลเลย]
[ขนมผิง : รูปอะไร?]
[อังเปา : นี่ไง (แนบรูปภาพ) ]
ขนมผิงเปิดไฟล์รูปที่อังเปาส่งมาให้ก็ได้แต่อึ้งค้าง
[อังเปา : เป็นไงเริ่ดไหม]
[ขนมผิง : ไม่เริ่ด! ใครปล่อยรูปฉันจะไปเอาขนมเค้กยัดปากมันเดี๋ยวนี้ ฮืออออปล่อยมาได้ไงเนี่ย]