“มิได้มองว่าข้าเป็นเพียงสตรีไร้ค่าหากไร้พลังหรือเพคะ?”น้ำเสียงหวานใสสะอึกสะอื้นเอ่ยราวกับตัดพ้อ หัวใจบุรุษกระตุกก่อนจะโน้มหน้าคมคายลมมาจุมพิตหน้าผากนวลเนียนแล้วเอ่ยว่า… “เหตุใดจึงคิดเช่นนั้น เจ้ามิใช่สตรีไร้ค่าและไม่มีทางเป็นเช่นนั้น อย่าได้ดูถูกตนนักเลย ข้ามิรู้เลยว่าเจ้าตีความหมายถ้อยคำเป็นห่วงเป็นใยของข้าเช่นนั้น” …โชคดีเหลือเกินที่ข้าถามไถ่ มิเช่นนั้นนางก็คงจะเอาไปคิดน้อยออกน้อยใจอยู่หลายวัน ดีไม่ดีอาจจะวางแผนหนีหายไปจากข้าเลยก็เป็นได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นใจข้าคงแตกสลายแน่… “ห่วงใยข้าหรือเพคะ?”นางเอ่ยคอถามด้วยแววตากระต่างใสเคล้าน้ำตา อันตัวหยางระบายรอยยิ้มก่อนจะก้มลงจุมพิตหน้าผากเนียนอีกครั้ง “หากการกระทำของข้ามิใช่การเป็นห่วงเป็นใยเจ้า แล้วควรเรียกว่ากระไรเล่า?” “ทรงเอ็นดูหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ” คราวนี้อันตงหยางส่งเสียงจิ๊จ๊ะเบา ๆ แล้วส่ายหน้ากับคำถามมากมายของนาง อีกทั้งยังเป็นค