มธุมาสจ้องมองเขาเขม็ง ทว่าแววตาวูบไหวเก็บซ่อนความตื่นตระหนกเอาไว้ไม่มิด เธอกำมือกัดปากแน่น กัดแล้วกัดอีกอย่างลังเล ไม่รู้ควรตอบสนองเขาอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
หากปฏิเสธ...ทั้งตีรณาและจิระก็จะเดือดร้อน
หากยอมรับ...เธอเองจะต้องอับอายจนสู้หน้าใครไม่ได้อีก
“ว่าไง... เก่งแต่ปากแค่นั้นเหรอ?”
มธุมาสกัดปากจนห้อเลือด ดวงตาแดงก่ำอัดอั้นเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม สายตาที่มองเขาจึงมีแต่ความขยะแขยงชิงชัง
และนั่น...ทำให้โทสะของกัญจน์ปะทุเดือดราวกับภูเขาไฟระเบิด เพราะทนสายตารังเกียจของเธอไม่ได้
“ถ้าไม่ทำก็ไสหัวกลับไปซะ!” เขาชี้นิ้วไล่ ตวาดกร้าวจนร่างบอบบางแทบสะดุ้ง
หญิงสาวหลับตาลงอย่างอับจนหนทาง ในอกร้าวรานหัวใจปริแยกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ กับความอัปยศอดสูที่เขายัดเยียด ขนตางอนงามเป็นแพยาวสั่นกะพริบถี่ๆ บังคับไม่ให้น้ำตาร่วงหล่นอย่างยากเย็น มันคลอขังเกาะอยู่ที่ขนตาจนเปียกชุ่ม รอจนแน่ใจว่าน้ำตาไหลย้อนคืนลงไปได้แล้ว เธอจึงลืมตาเชิดหน้าขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยว
“ได้…ฉันทำ!”
กัญจน์หน้าง้ำยิ่งกว่าเดิม สีหน้ามืดมน แววตาเย็นชาจนแทบจะแช่แข็งเธอได้ทั้งเป็น
นี่ไม่ใช่คำตอบที่เขาพอใจ!
แค่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคนหนึ่ง ทำให้มธุมาสยอมลดตัวลงมาทำเรื่องต่ำทรามไร้ศีลธรรมอย่างนี้เชียวหรือ
ก็เอาสิ...เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าไอ้หมอนั่นมันสำคัญกับเธอมากแค่ไหน?
“งั้นก็เริ่มสักทีสิ”
มธุมาสสูดลมหายใจที่สั่นสะท้าน กลั้นน้ำตาข่มความอดสู แล้วนั่งคุกเข่าแทรกตัวอยู่กลางหว่างขาตรงหน้าเขา จ้องเขาอยู่หลายอึดใจ แล้วลงมือปลดปลดเข็มขัด ตะขอและรูดซิปลงด้วยมือที่สั่นระริก เธอถึงกับเบ้หน้าแทบจะร้องไห้โฮ เมื่อเห็นเต็มตาว่าท่อนกายเหยียดขยายขึ้นอย่างตื่นตัว และน่าหวาดกลัวมากขนาดไหน
เธอทำไม่ได้!
แค่ใช้มือจับเธอยังไม่กล้า แล้วจะใช้ปากทำรักให้เขาได้อย่างไร เกรงว่าแค่อ้าปากอมส่วนหัวเข้าไป มันคงแสดงฤทธิ์เดชทำให้ปากเธอฉีกถึงหูแล้วละมั้ง
“เร็วสิ!”
มธุมาสเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อถูกกัญจน์เร่งเร้า พยายามปลุกความกล้าค่อยๆ เอื้อมมือยื่นไปแตะมันอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะชักกลับอย่างไว ด้วยท่อนลำเขื่องคล้ายมีชีวิตผงกหัวสู้มือเธอ เธอเงยหน้ามองเขาด้วยความตกใจ บนใบหน้าหล่อเหลาปรากฎรอยยิ้มชั่วร้ายแกมสะใจอย่างชัดเจน
ไม่มีประโยชน์ที่จะอ้อนวอนขอความเห็นใจจากผู้ชายเลือดเย็นคนนี้!
หญิงสาวหลับตาใจนึกอยากให้สิ่งนี้เป็นแค่ความฝัน แต่ทำได้แค่ปลอบใจตัวเอง กดศีลธรรมอันดีลึกลงไปยังก้นบึ้งของหัวใจ ละทิ้งความละอายแล้วยื่นมือไปสัมผัสแก่นกายเขื่องแข็งร้อนผ่าวราวกับท่อนเหล็ก แม้จะไม่เคยทำให้ใคร แต่ใช่ว่าเธอจะไร้เดียงสาถึงกับไม่รู้เรื่อง ธรรมชาติของร่างกายสอนให้เธอลูบไล้มันจนคุ้นมือ แล้วค่อยๆ เพิ่มความเสียวซ่านด้วยการกำกระชับอยู่ในอุ้งมือ รูดรึงสาวขึ้นลงจากส่วนหัวจรดปลายโคน กระทั่งหนังที่ห่อหุ้มโผล่พ้น จึงใช้ท้องนิ้วหัวแม่มือบดบี้ส่วนหัวที่มีน้ำเมือกใสซึมออกมา ละเลงไปทั่วพื้นผิวอ่อนไหว
“อืม...ดี” กัญจน์ส่งเสียงครางลึกในลำคอ ดวงตาลุ่มลึกใคร่กระหายจับจ้องมธุมาสไม่วางตา “อย่าเล่นแต่ส่วนนั้น สัมผัสลูกบอลของฉันด้วยสิ”