“ไม่ได้หรอกครับ หมดหน้าที่ของผมแล้ว ขอให้คุณโชคดีแล้วกันนะครับ” ปรีชายิ้มให้เล็กน้อย ก่อนที่จะผายมือเชื้อเชิญให้หญิงสาวเปิดประตูเข้าไป ญาดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปข้างใน ด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อย และเมื่อเห็นว่าส่งเป้าหมายไปให้เจ้านายของตนเองเรียบร้อยแล้ว ปรีชาจึงเดินถอยหลังกลับไป
ในขณะที่ญาดาเดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กของตนเอง นาทีนี้หญิงสาวอยากจะเดินกลับออกไปจากที่นี่เหลือเกิน ความกล้าหาญที่รวบรวมมากำลังค่อยๆ หายไปจนเหลือเพียงความหวาดกลัวเท่านั้น
“มัวโอ้เอ้อยู่นั่นแหล่ะ วันนี้ฉันจะได้ตกลงเงื่อนไขกับเธอมั้ย” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาจากโซฟาตัวใหญ่ซึ่งอยู่ใจกลางห้อง แล้วตอนนี้ญาดาก็มองเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างของเขาเท่านั้น ถ้ามองจากรูปลักษณ์ของเขาในตอนที่เธอยังไม่เห็นหน้าเช่นนี้ มันผิดจากที่เธอจินตนาการไว้เยอะเหมือนกัน เพราะหญิงสาวคิดว่าเจ้าหนี้ของเธอคงจะเป็นชายสูงอายุร่างท้วม แต่เมื่อฟังจากเสียงของเขา เธอก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนสูงอายุอย่างที่เธอเข้าใจ
“ฉันมาแล้วค่ะ” หลังจากที่หญิงสาวได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยในเชิงค่อนขอด เธอก็รีบเดินเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงหน้าเขา แล้วก็ก้มหน้างุดด้วยความหวั่นเกรง
“เงยหน้าขึ้นมา” เสียงทุ้มออกคำสั่งกับหญิงสาว ทำให้ญาดาต้องเงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นหน้าผู้ที่กำลังสั่งเธอ ทำให้หญิงสาวตกใจเป็นอย่างมาก เพราะใบหน้าของเขาคมเข้มหล่อเหลา ราวกับนายแบบตามหน้าปกนิตยสาร เขาสามารถเลือกผู้หญิงได้มากมาย แต่ทำไมเขาถึงมาเลือกเอาผู้หญิงขัดดอกอย่างเธอ ทั้งที่รูปลักษณ์หน้าตาอย่างเขา แค่เพียงกระดิกนิ้วเท่านั้น คงมีผู้หญิงมากมายมาให้เขาเลือกอย่างแน่นอน
“ก็ใช้ได้” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นหน้าลูกสาวของลูกหนี้ที่พามาขัดดอก เขาไม่อยากได้เท่าไหร่ แต่ลูกหนี้ของเขาก็พยายามยัดเยียดให้ เพื่อแลกกับการผ่อนผันหนี้สินให้และไม่ยึดบ้าน จนกว่าลูกหนี้ของเขาจะหาเงินต้นมาจ่ายให้เขาได้
“แล้วฉันจะต้องทำยังไงบ้างคะ” ญาดากลั้นใจข่มความอายเอ่ยถามออกไป
“ก็ทำตามที่ฉันต้องการทุกอย่าง แต่เธอไม่มีสิทธิ์บอกใครว่าเธอเป็นอะไรของฉัน เธอจะอยู่ที่นี่ในตำแหน่งนางบำเรอ จนกว่าฉันจะเบื่อเธอแล้วปล่อยเธอกลับไป ส่วนหนี้สินของเธอ ฉันจะหยุดดอกไว้ก่อน และจะยังไม่ยึดบ้านของเธอ ตราบใดที่เธอยังอยู่ที่นี่กับฉัน อ้อ...แต่ถ้าเธอทำให้ฉันพอใจ ฉันอาจจะตัดต้นให้เธอบ้างก็ได้นะ” ปราชญ์กล่าวอย่างไร้ความรู้สึก ในขณะที่คนที่ได้ฟังอย่างญาดาถึงกับน้ำตาแทบร่วง เพราะเธอไม่รู้ว่าตัวเธอมีค่าแค่คนขัดดอกเท่านั้น แล้วการที่เธอมาอยู่กับเขาแบบนี้เธอจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายต้นให้เขา แล้วเธอจะหลุดจากวังวนนี้ไปได้เมื่อไหร่ หญิงสาวยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกมืดแปดด้าน แสงสว่างในชีวิตของหญิงสาวได้มอดดับลงเมื่อเธอได้ยินเงื่อนไขของเขา
“เงื่อนไขที่โคตรเป็นธรรม” ญาดาเหลืออด เธอจึงเอ่ยออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ถ้าไม่พอใจจะกลับไปก็ได้นะ เพราะฉันก็ไม่ได้ต้องการตัวเธอตั้งแต่แรก ฉันก็แค่ยึดบ้านของเธอ ส่วนตัวเธอ จะไปไหนก็ไป” ปราชญ์กล่าวอย่างไร้ความรู้สึกอีกครั้ง
“ถ้าฉันมีทางเลือกอย่างที่คุณพูด ฉันคงไม่มายืนอยู่ตรงหน้าคุณแบบนี้หรอกค่ะ” ญาดาประสานสายตากับเขาด้วยความเจ็บปวด
“ถ้าเลือกที่จะทำก็อย่าบ่น เพราะที่นี่เป็นที่ของฉัน ถ้าเธอจะอยู่ที่นี่เธอก็ต้องรับเงื่อนไขที่ฉันตั้งมาให้ได้” ปราชญ์กล่าวอย่างไม่ยี่หระ
“ค่ะ ฉันตกลงตามเงื่อนไขของคุณ” ในที่สุดญาดาก็ต้องยอมรับเงื่อนไขที่ไม่มีความเป็นธรรมเลยสักนิด ในขณะที่ปราชญ์ก็ยิ้มหยันขึ้นมาทันที เมื่อลูกหนี้ของเขาตอบรับเงื่อนไขที่เขาหยิบยื่นให้เธอ