บทที่ 4-1

1251 คำ
“มันเป็นใคร” “ภูเป็นเพื่อนของมนค่ะ” มนตระการตอบเสียงแข็ง หญิงสาวไม่ชอบใจที่จักรทิพย์กล่าวถึงภูวิศอย่างหยาบคายแบบนั้น คิ้วสวยขมวดมุ่นและเลือกมองวิวข้างทางแทนที่จะมองคู่สนทนาที่กำลังทำหน้าที่ขับรถอย่างจักรทิพย์ “ถึงฉันจะไม่เต็มใจแต่งงานกับเธอ แต่ฉันขอเตือนเธอเอาไว้ก่อนว่าอย่าสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นระหว่างที่เธอยังใช้นามสกุลของฉันอยู่” “ได้ค่ะ ระหว่างที่มนยังใช้นามสกุลไตรลักษณ์อยู่มนจะไม่ทำเรื่องเสื่อมเสียเด็ดขาด แต่ถ้ามนไม่ได้ใช้นามสกุลของคุณจักรแล้ว ตอนนั้นมนจะทำอะไรก็ได้ใช่ไหมคะ” “มนตระการ!” จักรทิพย์ตบไฟเลี้ยวเข้าจอดที่ข้างทาง ชายหนุ่มปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองออก คว้าหมับที่แขนเรียวทั้งสองข้างแล้วกระชากร่างเล็กเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว จากนั้นริมฝีปากอุ่นจัดก็ฝังลงบนริมฝีปากสีเรื่อ เป็นจุมพิตลงทัณฑ์แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกวาบหวามจนหัวใจดวงน้อยของมนตระการสั่นไหว แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ไม่ยอมอยู่เฉยให้คนเอาแต่ใจรังแก กำปั้นเล็กทุบตีที่อกแกร่งเป็นพัลวัน แต่จักรทิพย์ก็ไม่ยอมปล่อย ยิ่งเธอพยศเขาก็ยิ่งฝังริมฝีปากอย่างแนบแน่น จนลมหายใจของมนตระการเริ่มขาดห้วงเขาถึงได้ยอมถอนริมฝีปากออกมา “คุณจักร จะเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไปแล้วนะคะ” “แล้วจะทำไม” จักรทิพย์เอ่ยอย่างยียวน ตาคมปลาบจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้านวลเนียนที่พวงแก้มทั้งสองข้างเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นตอนที่เขาดึงเข็มขัดนิรภัยขึ้นมาคาด มนตระการมองค้อนชายหนุ่มก่อนจะดึงใบหน้ามองไปนอกกระจกหน้าต่าง จักรทิพย์เลิกคิ้วใส่หญิงสาวด้วยท่าทางป่วนประสาทและมนตระการก็เห็นท่าทางเช่นนั้นได้จากเงาสะท้อนจากกระจกรถ คนนิสัยเสีย มนตระการอยากจะพูดออกไปแบบนั้น แต่เธอไม่ได้โง่พอที่จะยั่วโมโหอีกฝ่ายในตอนนี้เพราะมีแต่จะเสียเปรียบ คนเอาแต่ใจ เอะอะก็จูบเอะอะก็กอด นี่ขนาดเขาบอกว่าสะอิดสะเอียนเธอ ยังฉวยโอกาสกับเธอไปเสียทุกครั้งจนมนตระการอดสงสัยไม่ได้ แต่มนตระการก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิดเข้าข้างตัวเองในเชิงบวกสักเท่าไร ที่เธอสงสัยก็คือเขาคงอยากกลั่นแกล้งให้เธอขาดใจตายไปเลยกระมัง “สามีของมนดุมาก” มนตระการถึงกับชะงักมือที่สาละวนอยู่กับการจัดขนมใส่ถาด จะปฏิเสธว่าจักรทิพย์ไม่ใช่สามีของเธอก็เอ่ยออกไปได้ไม่เต็มปากนัก ในเมื่อตอนนี้เขาเป็นทั้งสามีนิตินัยและพฤตินัยของหญิงสาว “ความหึงหวงฉายชัดอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา” “เลอะเทอะน่าภู” หญิงสาวบอกแล้วจัดขนมต่อ อมยิ้มนิดหน่อยที่ภูวิศพูดจาภาษานิยาย ชายหนุ่มนั่งเท้าคางอยู่ที่โต๊ะตรงมุมเดิมที่เขาชอบนั่ง หรี่ตามองมนตระการคล้ายกำลังจับผิด “เลอะเทอะตรงไหน อีกนิดภูคงโดนต่อยแล้ว” “กินนี่ซะมนให้ฟรี จะได้สงบปากสงบคำ แล้วห้ามพูดเรื่องคุณจักรอีก” มนตระการยกจานขนมชั้นที่จัดทำเป็นรูปดอกไม้จำนวนสี่ชิ้นมาวางตรงหน้าภูวิศ ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธความมีน้ำใจของหญิงสาว คว้าส้อมเล็กที่วางอยู่ข้างๆ จิ้มขนมใส่ปากทันที “มีของมาเซ่นกันแบบนี้ก็โอเค ภูจะยอมสงบปากสงบคำก็ได้” ภูวิศกินขนมด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย “ว่าก็ว่าเถอะสามีของมนจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมที่ภูนอนบ้านมน” “เขาไม่ว่าอะไรหรอกและคุณจักรก็ไม่เคยมาที่บ้านของมนอยู่แล้ว” “แต่เมื่อเช้าเขาก็มาส่งมนนี่” “เขาแค่อยากแกล้งมนเฉยๆ หรอกน่า” ว่าแล้วก็ขยับเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเท้าคาง ยู่หน้าอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไรกับการกระทำแสนอุกอาจและเอาแต่ใจตัวเองของจักรทิพย์ “แกล้งหรือหึงเอาดีๆ” “เอาอะไรมาหึง พูดมาก กินเข้าไปเลย” มนตระการหยิบส้อมจิ้มขนมชั้นชิ้นพอดีคำยัดใส่ปากภูวิศ อีกฝ่ายตาเหลือกตาลานในตอนแรก แต่สุดท้ายก็เคี้ยวตุ้ยๆ ด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย “ดีจังมีคนป้อน” “นี่แน่ะ” มนตระการตีแขนภูวิศไปทีด้วยความหมั่นไส้ นอกจากจะไม่รู้สึกรู้สาเจ้าตัวยังหัวเราะคิกคัก “วันนี้ภูล้างถาดขนมเลยนะ “ไม่มีปัญหาครับ” “มีเอกสารที่ผมต้องดูอีกไหม” “ไม่มีแล้วค่ะคุณจักร” “งั้นผมกลับก่อนนะครับ” “ค่ะคุณจักร” เบญจาอมยิ้มตอนที่มองตามแผ่นหลังกว้างของจักรทิพย์ไปจนลับสายตา ท่าทางดูเร่งรีบทำให้เบญจาอดเอ็นดูไม่ได้ และถ้าให้หล่อนเดาอีกฝ่ายคงรีบไปหาภรรยากระมัง รถซีอาร์วีสีขาวมุกเลี้ยวเข้าไปจอดที่หน้าร้านขนมของมนตระการ จักรทิพย์ดับเครื่องยนต์แล้วก้าวลงจากรถ ขายาวก้าวเข้าไปด้านในร้าน กำลังจะตรงดิ่งไปหามนตระการที่ยืนก้มๆ เงยๆ อยู่หลังเคาน์เตอร์ไม้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างที่ใจต้องการเท้าหนาต้องชะงักเมื่อถูกใครบางคนรั้งแขนแกร่งเอาไว้ “จักร” จักรทิพย์เหลือบสายตามองมโนรมอดีตคนรักเก่าที่ถือวิสาสะมายึดแขนของเขาเอาไว้ และจังหวะนั้นมนตระการก็หันมาเห็นเหตุการณ์เข้าอย่างพอดิบพอดี “ดีใจจังเลยค่ะที่เจอจักร นี่นิ้งก็ตั้งใจจะเข้าไปหาที่บ้านอยู่พอดี เห็นคุณพ่อบอกว่าขนมไทยร้านนี้อร่อยมาก นิ้งก็เลยแวะมาซื้อตั้งใจจะเอาไปฝากจักร ไม่คิดว่าจักรจะแวะมาพอดี” จักรทิพย์เหลือบสายตามองมนตระการที่หลบวูบสายตาของเขาทันพอดี หญิงสาวแสร้งจัดขนมใส่กล่องให้มโนรมอย่างตั้งอกตั้งใจ ก่อนที่ภูวิศจะยกขนมถาดใหม่ออกมาจากห้องครัว ชายหนุ่มชะงักไปนิดเมื่อเห็นจักรทิพย์ แต่ก็เพียงชั่วเสี้ยวนาทีเท่านั้นเขาก็ขยับเท้าต่อแล้วส่งถาดขนมให้มนตระการที่ยืนรอรับ “ขอบใจนะ” “สำหรับมนภูเต็มใจอยู่แล้ว” คำพูดออกไปทางหวานเชื่อมของภูวิศทำให้มนตระการถึงกับการเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจนัก แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็รับถาดขนมมาจัดวางบนชั้นในตู้กระจก แล้วรีบจัดขนมใส่ถุงให้มโนรม “สองร้อยห้าสิบบาทค่ะ” มโนรมควักเงินจากกระเป๋าสตางค์ส่งให้มนตระการ หญิงสาวรับไว้พร้อมทอนเงินให้อีกฝ่าย โดยทุกการกระทำของมนตระการอยู่ในสายตาของจักรทิพย์ตลอดเวลา และการกระทำของจักรทิพย์ที่จ้องมองมนตระการก็อยู่ในสายตาของภูวิศเช่นกัน ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย “ขอบคุณค่ะ” มนตระการบอกตอนที่ยื่นเงินทอนส่งให้มโนรมที่ยื่นมือมารับเงินทอนเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ มโนรมหันไปยิ้มให้จักรทิพย์ “ไปกันเถอะค่ะจักร”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม