บทที่ 3-4

1541 คำ
มนตระการไม่อาจทนความหยาบคายของเขาได้อีกแล้ว หญิงสาวผงกศีรษะขึ้น แต่ก็ต้องถูกกดลงกับที่นอน จักรทิพย์ไม่ได้กดศีรษะของหล่อนด้วยมือของเขา เพราะหากทำแบบนั้นจะดูกักขฬะจนเกินไป เขาจึงเลือกจัดการให้ศีรษะทุยนั่นแนบกับฟูกนุ่มด้วยการกดริมฝีปากอุ่นลงบนเรียวปากอิ่มแทน “อื้อ…” มนตระการร้องท้วงกับการกระทำแสนอุกอาจเมื่อถูกคนเหนือร่างรุกรานโพรงปากนุ่มอย่างเอาแต่ใจ จักรทิพย์จงใจทิ้งน้ำหนักตัวลงมาจนมนตระการแทบจะขยับเขยื้อนร่างกายไม่ได้ เขามอบจุมพิตเร่าร้อนจนหญิงสาวหายใจแทบไม่ทัน และรุกรานเรียวลิ้นเล็กที่หดหนีอย่างย่ามใจ “ปล่อย มนบอกให้ปล่อย” มนตระการร้องเสียงอู้อี้ แต่มีหรือที่คนเอาแต่ใจจะยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ เธอเป็นเมียเขา เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอ เขาไม่ได้จะฆ่าจะแกงเธอเสียหน่อย เขาก็แค่จะมอบความสุขให้อีกฝ่ายต่างหาก และเขาก็กำลังทำหน้าที่ที่สามีพึงกระทำ มนตระการควรจะขอบคุณเขาไม่ใช่ขัดขืนดิ้นรนแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ เขามีอีกหลายวิธีที่จะปราบพยศเธอ จักรทิพย์หยอกล้อใบหูขาวสะอาดด้วยเรียวลิ้นอุ่นชื้น ขบเม้มติ่งหูเล็กอย่างหยอกเอิน แตะจูบแผ่วเบาที่ซอกคอขาวผ่อง เลื่อนริมฝีปากลงมาประทับจูบที่ลาดไหล่นวลเนียนและทิ้งรอยสีกุหลาบเอาไว้อย่างจงใจ มือหนาเค้นคลึงอกนุ่มหยุ่น ในขณะที่สำรวจผิวกายเนียนละเอียดด้วยริมฝีปากรุ่มร้อน ร่างเล็กสะท้านไหว ครั้นจะผลักไสร่างสูงให้ออกห่าง ข้อมือเล็กก็ถูกเขาพันธนาการไว้แน่น มนตระการจึงได้แต่นอนบิดเร่าอยู่ใต้เรือนกายแข็งแกร่ง เรียวปากอวบอิ่มเม้นแน่นพยายามกลั้นเสียงน่าอายไม่ให้เล็ดลอดออกมา “อย่าแตะตรงนั้น” มนตระการครางเสียงแผ่วเมื่อมือหนาแตะต้องส่วนอ่อนไหว มือข้างที่ได้รับอิสระยันที่ไหล่กว้าง ออกแรงผลักหมายใจให้อีกฝ่ายถอยห่าง ทว่าจักรทิพย์กลับแตะต้องหญิงสาวอย่างลึกซึ้งราวกับต้องการจะกลั่นแกล้งกัน และครู่ต่อมามนตระการก็สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง สัมผัสแผ่วเบาแต่ให้ความรู้สึกวาบหวามเริ่มขึ้นที่ตรงลาดไหล่ ชุดสวยที่มนตระการสวมใส่ถูกจักรทิพย์ปลดเปลื้องออกทีละชิ้นจนเรือนกายของหญิงสาวไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม มนตระการหัวหมุนไปหมดเมื่อเขาแตะตรงนั้นสัมผัสตรงนี้จนหญิงสาวตั้งรับไม่ทัน ก่อนที่ริมฝีปากรุ่มร้อนจะเลื่อนขึ้นมาฝังแน่นที่เรียวปากอิ่มที่เริ่มเห่อบวมจากการรุกรานที่ไร้การผ่อนปรน ความปรารถนาที่อัดแน่นทำให้จักรทิพย์ไม่คิดจะยับยั้งช่างใจอะไรทั้งนั้น มนตระการเป็นภรรยาของเขา เขามีสิทธิ์ถึงแม้เธอจะร้องปาวๆ ว่าให้เขาปล่อยเธอ อย่ารังแกเธอก็เถอะ เขารังแกเธอที่ไหนกัน เขากำลังจะมอบความสุขให้เธอต่างหาก มนตระการควรจะขอบอกขอบใจเขาถึงจะถูก จักรทิพย์คิดอย่างเอาแต่ใจ มือหนาเอื้อมไปปลดพันธนาการร้อนผ่าวที่อัดแน่นของตน จากนั้นเขาก็เติมเต็มความแข็งแกร่งเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่ม มอบจุมพิตเร่าร้อนกระชากความรู้สึกนึกคิดของคนใต้ร่างให้ปลิดปลิว และจูงมือหญิงสาวเข้าสู่ห้วงอารมณ์หฤหรรษ์อย่างที่มนตระการไร้หนทางที่จะถอนตัว มนตระการนอนตะแคงตัวในอ้อมกอดแข็งแกร่ง คนเอาแต่ใจไม่ยอมปล่อยหญิงสาวหลังจากที่เขาเอาเปรียบกันไปหลายครั้งหลายครา เขายึดตัวเธอเอาไว้ในอ้อมแขนราวกับหมอนข้างใบหนึ่ง “ปล่อยได้แล้วค่ะ มนเหนียวตัวอยากอาบน้ำ” “ฉันก็อยากอาบอยู่เหมือนกัน” มนตระการไม่ทันได้ร้องห้ามปรามร่างเปลือยเปล่าของเธอก็ปลิวหวือขึ้นไปอยู่บนอ้อมแขนแข็งแกร่ง มนตระการทั้งโกรธทั้งอับอาย มือหนึ่งปิดส่วนบนส่วนอีกมือปิดอยู่ที่ส่วนล่างด้วยท่าทางขวยเขิน พวงแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวแดงซ่าน รู้สึกร้อนบริเวณใบหน้าราวกับมีไฟกองใหญ่มาสุมอยู่ใกล้ๆ “มือเล็กแค่นั้นเธอคิดว่าจะปิดหมดงั้นเหรอ” จักรทิพย์กระตุกยิ้มมุมปาก “แต่ถึงจะปิดหมดฉันก็นึกภาพออกอยู่ดี เพราะฉันทั้งมองทั้งชิมมาค่อนคืน” “คุณจักร!” มนตระการอยากจะข่วนใบหน้าหล่อๆ นั่นให้เลือดซิบ จักรทิพย์เป็นคนปากร้ายข้อนั้นเธอรู้ดี แต่ที่เธอเพิ่งจะรู้นั่นก็คือนอกจากเขาจะปากร้ายแล้วเขายังเป็นคนที่ยั่วโมโหเก่งจนน่าโมโห แถมยังพูดจาลามกได้อย่างหน้าตาเฉย “เรียกชื่อฉันอะไรนักหนา กลัวลืมชื่อผัวตัวเองหรือไง” จักรทิพย์บอกด้วยเสียงรื่นรมย์ตอนที่วางร่างเปลือยเปล่าของมนตระการใต้ฝักบัว เมื่อหญิงสาวจะขยับหนี เขาก็ใช้เรือนกายแข็งแกร่งขวางเธอเอาไว้ มือหนึ่งทาบเข้ากับผนังห้องน้ำ ส่วนมืออีกข้างก็รั้งอยู่ที่เอวคอดกิ่ว “ปล่อยมนนะคะ” “อย่าดื้อให้มันมากนักมนตระการ ฉันไม่ได้ใจดีขนาดนั้น พรุ่งนี้ฉันต้องเข้าไร่แต่เช้าก็จริง แต่ถ้าคืนนี้เธอไม่อยากพักผ่อน ฉันก็ทำให้ได้” มนตระการช้อนสายตามองคนตรงหน้าด้วยสายตาขุ่น ข่มความอับอายที่ต้องเปลือยกายต่อหน้าอีกฝ่าย หญิงสาวหมุนตัวหันหลัง มือเรียวไม่ได้ทันได้เปิดก๊อกน้ำ จักรทิพย์ก็จัดการตัดหน้า “คุณจักรออกไปรอข้างนอกได้ไหมคะ มนขอเวลาแค่สิบนาที แค่ห้านาทีก็ได้ค่ะ” “เสียเวลา” แล้วจักรทิพย์ก็รวบหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอด หยิบฝักบัวลงมาจัดการอาบน้ำให้ทั้งเขาและหญิงสาว มนตระการพยายามแย่งมันมาจากอีกฝ่าย แต่จักรทิพย์ก็ยกฝักบัวในมือขึ้นจนสุดแขน “คุณจักร!” “เกิดมาเตี้ยริอาจจะมาสู้กับฉันเร็วไปสิบปี” มนตระการโมโหมากแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้มือปลาหมึกสำรวจร่างกายของเธอจนถ้วนทั่วในข้ออ้างที่ว่าเขากำลังอาบน้ำให้เธอโดยที่มนตระการต่อกรอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย มื้ออาหารเริ่มขึ้นในเช้าวันใหม่ บรรยากาศมื้อเช้าระหว่างจักรทิพย์กับมนตระการค่อนข้างเงียบและเรียบง่ายแต่ไม่ได้อึดอัด มนตระการตักข้าวต้มเข้าปากในขณะที่จักรทิพย์ยกกาแฟขึ้นจิบ “วันนี้มนไปร้านนะคะ” เพราะไม่อยากถูกอีกฝ่ายตำหนิ มนตระการจึงถือโอกาสนี้บอกให้จักรทิพย์รับรู้ ตาคมเหลือบมองหญิงสาวก่อนที่เขาจะวางแก้วกาแฟลงบนจานรองเข้าชุดกัน “อืม” จักรทิพย์พยักหน้าและครางรับเป็นเชิงอนุญาต ไม่ถึงสิบนาทีทั้งคู่ก็จัดการมื้อเช้าเรียบร้อย มนตระการคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาพาดที่ไหล่ ไม่ทันขยับเท้าออกไปไกลจากโต๊ะกินข้าว เสียงทุ้มก็ดังขึ้น “เดี๋ยวฉันไปส่ง” “ไม่เป็นไรค่ะมนไปเองได้” ปกติมนตระการใช้รถจักยานยนต์ในการเดินทางไปไหนมาไหนอยู่เป็นประจำ แต่ตอนนี้รถของหญิงสาวจอดอยู่ที่ร้านขนม มนตระการจึงโทร.ให้ภูวิศมารับเมื่อสิบห้านาทีก่อน และตอนนี้อีกฝ่ายก็คงใกล้จะถึงแล้ว “ฉันจะไปส่ง” จักรทิพย์เอ่ยเสียงเข้มงวดและเป็นฝ่ายเดินนำออกไปก่อน มนตระการได้แต่ถอนหายใจไล่หลังก่อนที่หญิงสาวจะเดินตามอีกฝ่ายออกไป มนตระการไม่ทันได้ก้าวขึ้นรถของจักรทิพย์ รถของภูวิศก็เลี้ยวเข้ามาจอดพอดี เจ้าตัวดับเครื่องยนต์ก่อนจะก้าวลงมา “ภูมารับแล้วไปเถอะ” ภูวิศแสร้งมองไม่เห็นสายตาดุๆ จากคนที่ยืนอยู่ข้างๆ มนตระการ เดาได้ไม่ยากเลยว่าผู้ชายคนนี้ต้องคือจักรทิพย์สามีของมนตระการอย่างไม่ต้องสงสัย “คือว่า…” มนตระการมองภูวิศด้วยสีหน้าลำบากใจ หญิงสาวไม่ทันได้พูดอะไรต่อจักรทิพย์ก็เอ่ยแทรกขึ้นมา “ผมจะไปส่งมนตระการเอง ขึ้นรถ” จักรทิพย์ไม่คิดจะทำความรู้จักกับภูวิศ เขาเอ่ยเสียงราบเรียบก่อนจะหันไปบอกมนตระการ และมองหล่อนอย่างบีบบังคับ “ผมตั้งใจจะมารับมนอยู่แล้วครับ คงไม่ต้องลำบากคุณหรอกครับ” “ขึ้นรถ” จักรทิพย์เมินคำพูดของภูวิศแล้วหันไปบอกมนตระการด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด มนตระการขอร้องภูวิศทางสายตาเป็นเชิงบอกว่าอย่าเพิ่งพูดอะไร โชคดีที่คบกันมานานจนรู้ใจภูวิศจึงยอมสงบปากสงบคำและเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปแต่โดยดี ในขณะที่มนตระการเดินไปขึ้นรถของจักรทิพย์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม