ตอนที่ 5

1536 คำ
“ไงมึง กูคิดว่ามึงจะพาสาวกลับไปกกที่คอนโดแล้ว” ต้นกล้ารีบถามเมื่อเห็นธีรดนย์เปิดประตูเข้ามา “เออ มีดับฟงดับไฟ ร้ายนะมึง” ก้องเกียรติแซวเพราะรู้ว่าการที่ไฟดับไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากพีรดนย์ส่งซิกให้เด็กในร้านจัดการ “เอาไงดีไอ้โซ่ ไอ้ดลมันล่อลวงฉวยโอกาสกับลูกค้าสาวๆ ของมึงนะเว้ย” “คงจะใช้คำว่าล่อลวงไม่ได้มั้ง กูเห็นเจ้าหล่อนส่งโน้ตเชิญชวนมันก่อนนี่” ศิระตอบด้วยสีหน้านิ่ง เพราะอยู่บนนี้เขารู้เห็นทุกอย่างจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ทุกซอกทุกมุมในร้าน “นี่สิ ถึงจะสมกับเป็นเจ้าพ่อสถานบันเทิงหูไวตาไว กูไม่ได้ล่อลวงเว้ย เขาส่งจดหมายเทียบเชิญกูก่อน กูแค่ใช้ลูกเล่นนิดๆ หน่อยๆ” “แล้วทำไมปล่อยกลับไปง่ายๆ กูคิดว่าคืนนี้มึงจะพาเขาไปทัวร์สวรรค์ซะอีก” ต้นกล้าถามอย่างแปลกใจ เพราะปกติแล้วถ้ามีสาวๆ มาอ่อยแล้วเพื่อนของเขาถูกใจ รับรองหายหัวไม่ร่ำลา “คนนี้ไม่เหมือนคนอื่น กูคิดว่ามีอะไรสนุกกว่านั้น” “มาแปลก จะจริงจังหรือไง” “เปล่า ก็แค่อยากหาเรื่องตื่นเต้นทำ” “เออ ไอ้พวกชอบหาเรื่องตื่นเต้นเนี่ย ตกม้าตายมาเยอะแล้ว ระวังไว้นะมึง” ก้องเกียรติเตือน “ไม่มีทาง ระดับนี้ไม่มีพลาด กูกลับก่อนนะ” พีรดนย์ยกแก้วขึ้นดื่มส่งท้ายก่อนจะร่ำลาเพื่อนๆ และเดินกลับออกไป เสียงนาฬิกาปลุกทำธิญาดารู้สึกตัวตื่นอย่างงัวเงีย เพราะเธอกับยุพเรศแวะมาค้างที่คอนโดของชนาภาซึ่งต้องไปทำงานในวันนี้ เมื่อตื่นเต็มตาและเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง ก็พบว่าเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว หญิงสาวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงด้วยความรู้สึกปวดหัวจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เมื่อคืน ส่วนยุพเรศนั้นไม่ต้องพูดถึง ยังนอนหลับอุตุไม่แคร์เสียงนาฬิกาเลยสักนิด จู่ๆ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำ เมื่อนึกได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้างก็แทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เธอกล้าหาญถึงขั้นชวนผู้ชายเต้นรำ แถมยังยอมให้เขาจูบอย่างไม่ขัดขืนเสียด้วย ถ้ารู้ไปถึงหูลุงกับป้าและพี่ชายมีหวังโดนดุหูชาแน่ “ตื่นแล้วเหรอ” ชนาภาที่เดินออกมาจากห้องน้ำถามเมื่อเห็นเพื่อนนั่งพิงหัวเตียง “อือ เธอตื่นไหวได้ยังไงอะนา ฉันมึนไปหมดเลยเนี่ย” ธิญาดาถามเพื่อนที่ดูท่าทางปกติไม่ได้มีอาการเมาค้างอย่างเธอเลยสักนิด “เธอนานๆ ดื่มก็อย่างนี้แหละ มาเที่ยวกับพวกฉันบ่อยๆ สิ เดี๋ยวก็คอทองแดงไปเอง” “ไม่ไหวอะ เที่ยวแบบนี้ทุกวันโทรมแย่” “เธอปลุกยุได้แล้ว เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันโดนหัวหน้าด่าอีก” “ไม่ต้องปลุก ฉันตื่นแล้วย่ะ กำลังแอบฟังพวกเธอคุยกันอยู่ นี่เกรซ” ธิญาดาตกใจเมื่อจู่ๆ ยุพเรศก็ลุกพรวดขึ้นมานั่งจ้องหน้าเธอ “อะไรของเธอยุ จู่ๆ ก็ลุกพรวดขึ้นมาฉันตกใจหมด” “เมื่อคืนฉันเห็นนะ” “เห็นอะไร” ธิญาดาผู้มีชนักติดหลังที่เผลอปล่อยตัวให้นักร้องหนุ่มรูปหล่อคนนั้นจูบแบบจังๆ ถามอย่างระแวง “ก็เห็นว่าเธออ่อยพ่อเทพบุตรสุดหล่อของฉันมาเต้นรำด้วยจนสำเร็จน่ะสิ ฉันกับยัยนากรี๊ดแทบตาย พวกฉันสองคนเหล่มาตั้งนานแต่ไม่กล้าเพราะสาวๆ จ้องเขาตาเป็นมัน แต่เธอมาครั้งแรกเหยื่อก็ติดเบ็ด เป็นไงเต้นรำกับสุดหล่อของพวกฉันเป็นไงบ้าง เสียดายจู่ๆ ไฟก็ดับเลยไม่ทันถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกเลย แถมตอนนั้นฉันกับยัยนาก็เริ่มมึนๆ แล้ว เสียดายชะมัด” ยุพเรศบ่นอุบอิบแต่ธิญาดาแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่เพื่อนสนิททั้งสองไม่เห็นฉ็อตเด็ดระหว่างเธอและพีรดนย์ “ตอนนั้นฉันก็เมาจำอะไรไม่ค่อยได้เหมือนกัน จำได้แค่ว่าหลังไฟดับเธอก็มาตามกลับบ้านพอดี” ธิญาดาโกหกแบบเนียนๆ เพราะไม่รู้จะบอกเพื่อนได้อย่างไรว่าเธอโดนพ่อนักร้องหนุ่มรูปหล่อขวัญใจสาวๆ นั่นขโมยจูบไปแล้วตั้งแต่เจอกันครั้งแรก “เสียดายมาก ไม่เป็นไร เอาไว้มีโอกาสเราไปกันใหม่นะ เอาเธอนี่แหละเป็นตัวล่อเป้าหมายมาใกล้ชิดอิอิ” “นี่เธอเห็นฉันเป็นคนยังไงยะ เอะอะจะใช้ฉันเป็นเหยื่อล่อผู้ชายตลอด” “ก็ฉันกับนาไม่เซ็กซี่เท่าเธอนี่นา ชุดเมื่อคืนแซ่บสุดๆ ไปเลยเพื่อน คราวหน้าขอแซ่บกว่านี้อีกนะ จะได้หลอกล่อพ่อนักร้องรูปหล่อมาติดกับได้อีก” “ฉันว่าฟลุคมากกว่า เธอไม่เห็นหรือไง ในผับมีแต่สาวๆ สวยๆ ทั้งนั้น” “ฟลุคไม่ฟลุคเดี๋ยวครั้งหน้าก็รู้ คืนนี้ก็ไปไม่ได้เพราะพรุ่งนี้ต้องเข้ากะเช้าแล้วเฮ้อ…เซ็ง” ยุพเรศบ่นเพราะไม่สามารถไปท่องราตรีคืนนี้ได้อีก “ไปอาบน้ำได้แล้วยุ มัวแต่พร่ำเพ้ออยู่นั่นแหละ เราไม่ใช่เจ้าของกิจการแบบเกรซนะ ขืนไปทำงานสายเจ้านายบ่นหูชา” ชนาภาที่นั่งฟังยุพเรศคร่ำครวญอยู่นานเอ่ยปากไล่ “ไปแล้วๆ คอยดูนะฉันจะหาผัวรวยๆ จะได้ไม่ต้องทำงานงกๆ จะนั่งกินนอนกินให้สามีเลี้ยง” ยุพเรศบ่นก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ชนาภาส่ายหน้าและหันมายิ้มกับธิญาดา เพราะรู้ดีว่าเพื่อนรักพูดไปอย่างนั้น เพราะเป็นคนขยันทำงานและชอบที่จะหาเงินใช้เอง ตั้งแต่เรียนจบมาก็ทำงานไม่เคยหยุด แม้ที่บ้านจะมีกำลังซัพพอร์ทก็ไม่เคยรบกวน “ไง คุณเพื่อน มีอะไรจะสารภาพไหม” ธิญาดางงเมื่อถูกชนาภาที่กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งเอ่ยถาม “สารภาพอะไร” “ก็เรื่องเมื่อคืนไง” “เมื่อคืนทำไม” ธิญาดาถามด้วยสีหน้างงสุดขีด จนกระทั่งยุพเรศเท้าสะเอวแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ แววตาฉายแววล้อเลียน “ฉันเห็นนะว่าเธอจูบกับพ่อหนุ่มนักร้องนั่น” ธิญาดาตาโตเพราะคาดไม่ถึงว่าเพื่อนจะเห็น ทั้งที่แอบโล่งใจว่าเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับได้แล้วเชียว “เธอเห็นเหรอ” “ใช่ เห็นชัดเจนทุกฉ็อต” “โอ๊ย ตายแล้ว” ธิญาดายกมือปิดหน้าอย่างเขินอาย เมื่อสิ่งที่คิดว่าเป็นความลับไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ แต่ตอนไฟดับเขา…” “รู้หรอก แต่เก็บเงียบเลยนะ” “ไม่เงียบได้ไงล่ะ ขืนเล่าไปยัยยุแซวไม่จบไม่สิ้นแน่” “ก็จริง บอกตรงๆ นะว่าฉันล่ะอิจฉาเธอจริงๆ ผู้ชายอะไรไม่รู้โคตรหล่อ แล้วเป็นไง จูบของเขาดีไหม” ชนาภาถามด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น “ยัยเพื่อนบ้า ถามอะไรแบบนี้เล่า” “น่า…ก็แค่บอกมาว่าดีหรือไม่ดี” “ระดบนั้นเธอคิดว่าดีไหมล่ะ” ธิญาดาไม่ตอบตรงๆ แต่บอกอ้อมๆ ถึงความเป็นเซียนเรื่องผู้หญิงโดยไม่ต้องเดานั่นทำให้ชนาภาเก็บอาการไว้ไม่อยู่ “อร๊าย แต้มบุญสูงมากเพื่อน เดี๋ยวครั้งหน้าเราไปกันอีกนะ ไปจนกว่าเธอจะได้พ่อนักร้องนั่นมาเป็นแฟนไปเลย” “จะบ้าหรือไง ฉันยิ่งมีอดีตโดนนอกใจ ขืนเอาคนนี้เป็นแฟนได้น้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ๆ ท่าทางเจ้าชู้ขนาดนั้น สาวๆ ล้อมหน้าล้อมหลังไม่เอาดีกว่า” “งั้นก็ไปให้กระชุ่มกระชวยหัวใจเล่นๆ นี่ถ้ายัยยุรู้นะ กรี๊ดบ้านแตก ขานั้นยิ่งคลั่งไคล้พ่อหนุ่มนักร้องคนนี้อยู่ เออจะว่าไปเคยไปหลายครั้งก็ยังไม่รู้สักทีว่าชื่อเสียงเรียงนามเขาคืออะไร เรียกแต่สุดหล่อตลอด” “ดล เขาชื่อดล” “อุ๊ยต๊าย รู้จักชื่อเขาด้วยเหรอยะ” “ก็เขาแนะนำตัวตอนเดินลงจากเวทีมาหาฉันเมื่อคืน” “อ้อ เสียดายแลกกะไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นคืนนี้ฉันจะชวนไปอีกจริงๆ นะ” “พักก่อนเถอะ เที่ยวทุกคืนก็ไม่ไหวนะ นี่เดี๋ยวฉันต้องอาบน้ำแต่งตัวไปร้านแล้ว” ธิญาดาหมายถึงร้านอาหารที่มีลุงกับป้าของเธอเป็นเจ้าของ และท่านทั้งสองก็เลี้ยงดูเธอมาเป็นอย่างดี ตั้งแต่เธออายุได้สองขวบ เพราะบิดามารดาของเธอได้เสียชีวิตพร้อมกันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ท่านทั้งสองมีลูกชายเพียงคนเดียวจึงรับเธอมาเลี้ยงด้วยอีกคน เมื่อเรียนจบด้านบัญชี เธอจึงเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการเงินที่ร้านอาหารขนาดใหญ่ของท่าน ส่วนลูกชายของลุงกับป้าหลังจากไปเรียนด้านอาหารและเบเกอรี่ที่ต่างประเทศก็กลับมาเป็นพ่อครัวประจำร้านด้วยเช่นกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม