เนื่องจากเป็นคืนวันเสาร์ลูกค้าจึงหลั่งไหลมาอย่างเนืองแน่นจนโต๊ะเต็มทั้งร้าน เด็กเสิร์ฟวิ่งวุ่นซึ่งเป็นภาพที่เธอเห็นจนชินตาในวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ จนกระทั่งสามทุ่มกว่าลูกค้าจึงได้ซาลง เธอสังเกตเห็นเด็กเสิร์ฟสาวๆ ซุบซิบกันอย่างผิดสังเกตจึงเรียกมาถาม
“มีอะไรกันเหรอนิด พี่เห็นยืนจับกลุ่มคุยกันท่าทางน่าสนุก” ธิญาดาไม่ได้ตำหนิเพราะเธอไม่ใช่เจ้านายชนิดที่คอยจับผิดลูกน้อง เมื่อไม่มีลูกค้าพนักงานในร้านก็สามารถนั่งพักหรือคุยกันได้ แต่ยามที่มีลูกค้าอยู่ก็ต้องบริการอย่างเอาใจใส่เต็มที่
“เอ่อ…” ท่าทางอึกอักเขินอายของพนักงานสาวยิ่งทำให้เธอสงสัย
“ว่าไงจ๊ะ มีอะไรเหรอ”
“คือพวกเรากำลังคุยกันเรื่องลูกค้าโต๊ะสิบค่ะ”
“ทำไมเหรอ”
“คือว่าลูกค้าหล่อมากเลยค่ะ คุณเกรซ หล่อแบบพระเอกบางคนชิดซ้ายไปเลย หนูเดินไปเสิร์ฟอาหารมาตะกี้ขาแทบพันกัน คนอะไรไม่รู้ตัวห๊อมหอมแถมเสียงก็เพราะด้วยค่ะ”
“ขนาดนั้นเชียว”
“ค่ะ พวกเราเคยเจอลูกค้าหน้าตาดีมาเยอะนะคะ แต่ยังไม่เคยเจอใครหล่อเท่าคนนี้เลยค่ะ หน้าหล่อหุ่นดีเสียงเพราะตัวหอมงือ ดีไปหมดเลยค่ะคุณเกรซ”
“ใจเย็นๆ” ธิญาดาขำกับอาการกระดี๊กระด๊าจนออกนอกหน้าของพนักงานเสิร์ฟประจำร้าน และคิดว่าคงจะหน้าตาดีจริงๆ เพราะเล่นเอาพนักงานสาวๆ จับกลุ่มซุบซิบด้วยท่าทางตื่นเต้นขนาดนี้
“คุณเกรซเดินไปดูสิคะ แล้วคุณเกรซต้องคิดเหมือนพวกเราแน่ๆ”
“ไม่ล่ะจ้ะ เชิญแทะโลมกันตามสบาย แต่อย่าทำให้ลูกค้าอึดอัดเพราะจ้องเขามากก็พอ”
“คุณเกรซไม่ต้องห่วงค่ะ พวกเราจะแทะโลมแบบเนียนๆ ไม่ให้คุณลูกค้ารู้ตัวและไม่ให้ลูกค้าอึดอัดค่ะ เผื่อผลบุญจะส่งให้เขามาร้านเราบ่อยๆ” ธิญาดาขำคำพูดของพนักงาน ก่อนจะโบกมือให้กลับไปทำงานต่อ ส่วนเธอหันมาสนใจบิลค่าอาหารที่เตรียมส่งให้พนักงานนำไปเก็บเงินลูกค้า
“คุณเกรซคะ ลูกค้าฝากนี่มาให้ค่ะ”
“หืม…ให้พี่เหรอ” ธิญาดาถามอย่างแปลกใจ เพราะด้วยหน้าที่แล้วเธอไม่ค่อยได้พบปะลูกค้าเท่าไหร่นัก เพราะวุ่นวายอยู่กับการออกบิลและทอนเงิน
“ค่ะ ลูกค้าโต๊ะสิบฝากมา” นั่นยิ่งทำให้ธิญาดาแปลกใจไปกันใหญ่ เพราะจำได้ว่าเป็นโต๊ะที่เด็กในร้านเพิ่งพูดถึง แต่เมื่อคลี่กระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ ที่ถูกพับออกมา หญิงสาวก็ต้องตกใจ ‘อยากเจอหน้าเจ้าของร้าน ได้ไหมครับ…ดล’ เขามาที่นี่ได้ยังไง แล้วรู้ได้ไงว่าเธอเป็นเจ้าของร้านนี้ ธิญาดาทั้งตกใจและสงสัยที่เพียงแค่ข้ามคืน เขาก็บุกมาหาเธอถึงที่ หญิงสาวเรียกผู้ช่วยให้มาประจำการแทนและรีบเดินออกไปทันที
“คุณมาได้ยังไงคะ” ธิญาดายิงคำถามทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะ
“มาเร็วทันใจดีจัง เชิญนั่งก่อนสิครับ” พีรดนย์ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนง่ายๆ แต่กลับดูดีทุกกระเบียดนิ้วพาดแขนกับพนักเก้าอี้ข้างๆ ด้วยท่าทางสบายๆ แต่สายตากลับเป็นประกายระยิบระยับขณะจ้องมองคนตรงหน้า และนั่นทำให้ธิญาดาถึงกับประหม่าทำตัวไม่ถูก เพราะไม่เคยได้รับสายตาหวานเชื่อมแบบนี้มาก่อน
“เกรซถามว่าคุณมาที่นี่ได้ยังไง รู้ได้ไงว่าร้านนี้เป็นของเกรซ” ธิญาดายิงคำถามรัวๆ ในขณะที่พีรดนย์นั่งยิ้มอย่างสบายอารมณ์
“อะไรที่ผมสนใจ ก็ไม่ยากหรอกครับที่ผมจะค้นหา”
“คุณกำลังทำให้เกรซกลัวนะ”
“อย่ากลัวเลยคนดี ผมไม่ใช่ไอ้โรคจิตหรือมาก่อกวน ผมแค่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง เมื่อเจอสิ่งที่ชอบผมก็ไม่รอช้าที่จะพุ่งชนเป้าหมาย”
“คุณใช้วิธีนี้กับผู้หญิงทุกคนที่คุณสนใจงั้นเหรอคะ”
“แค่คุณ ผมไม่เคยทำกับใครแบบนี้สักที พูดตรงๆ ที่ผับนั่นคุณก็คงเห็นแล้วว่ามีสาวๆ พร้อมจะสานสัมพันธ์กับผมมากแค่ไหน แต่คุณเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกพิเศษด้วย แค่คุณนะเกรซ” ธิญาดาอึ้งกิมกี่เมื่อถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว เธอยอมรับว่าหน้าตาและเสน่ห์อันล้นเหลือของเขา ทำให้เธอใจเต้นแรงตั้งแต่แรกเห็น และเธอก็รับรู้ด้วยสัญชาตญานอีกเช่นกันว่าเขาเป็นตัวอันตราย
“อีกอย่างคุณเป็นคนเริ่มก่อนนะ” ถึงตอนนี้ธิญาดารู้สึกอยากย้อนเวลากลับไปมากที่สุด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เธอจะไม่ดื่มจนมึนเมาให้แอลกอฮอล์เป็นตัวบงการ และบ้าไปตามแรงยุของเพื่อนเด็ดขาด เธอเป็นคนกระตุกหนวดเสือและกระตุ้นให้เขาออกล่าเหยื่อด้วยตัวเอง แถมเหยื่อนั้นก็คือตัวเธอเอง ดูจากสายตามุ่งมั่นของเขาแล้ว เธอคงหยุดเขาไม่ได้แน่ๆ แล้วใจเธอล่ะ เข้มแข็งพอที่จะต่อกรกับเขาหรือไม่
“เมื่อคืนเกรซเมาก็เลยบ้ายุ คุณอย่าใส่ใจเลยค่ะ”
“คงไม่ได้หรอกเบบี๋ เพราะคุณทำให้ผมสนใจคุณแล้ว และผมจะไม่รามือง่ายๆ จนกว่าคุณจะใจอ่อน”
“มีผู้หญิงพร้อมจะสานสัมพันธ์กับคุณตั้งมากมาย ทำไมต้องเป็นเกรซด้วยล่ะคะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าคุณพิเศษ”
“วันนี้คุณไม่ไปร้องเพลงที่ผับเหรอ”
“ไปครับ แต่ยังไม่ถึงเวลา อันที่จริงวันนี้ผมชักไม่อยากร้องเท่าไหร่ เพราะไม่มีกำลังใจเหมือนเมื่อคืน” ‘เย็นไว้ธิญาดาอย่าหลงคารมเขาเชียวนะ’ ธิญาดาบอกตัวเองเพราะรู้ว่าเขาได้เริ่มเกมราชสีห์ล่าเหยือแล้ว
“กำลังใจคุณออกจะเยอะ”
“แต่ผมอยากได้กำลังใจจากคนแถวนี้” พีรดนย์ตอบแล้วจ้องตาคนตรงหน้า และเป็นธิญาดาเองที่ต้องหลบสายตาของเขา ตอนนี้เธอเริ่มเห็นจากหางตาแล้วว่าเด็กๆ ในร้านเริ่มเมียงมองมาอย่างสนใจว่าเธอกำลังนั่งคุยอยู่กับใคร ซึ่งเดาได้เลยว่าป่านนี้ คงจะมีคนรายงานไปยังคุณลุงคุณป้าและพี่ชายตัวร้ายของเธอแล้วแน่ๆ
“อาหารเป็นยังไงบ้างคะ”
“อร่อยมากครับ ทุกอย่างดีมาก แต่เจ้าของร้านดีที่สุด” ประโยคหลังทำเอาเธอเผลอค้อนเขาอย่างลืมตัว จึงได้เห็นรอยยิ้มมุมปากบนใบหน้าหล่อเหลานั่นตอบแทน
“ผมพูดจริงๆ นะครับ”
“คุณอยากเจอเกรซแค่นี้ใช่ไหมคะ เกรซมีงานต้องทำ คงต้องขอตัวก่อน” ธิญาดาลุกขึ้นเตรียมจะกลับเข้าไปด้านใน
“เดี๋ยวครับ”
“มีอะไรอีกคะ”
“ผมแค่จะบอกว่าเมื่อคืนตอนที่ไฟดับมันดีมากเลยนะ ผมคิดถึงมันจนตอนนี้เลย”
“คนบ้า” ธิญาดาต่อว่าแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวออกไปทันทีด้วยความอาย โดยมีสายตาของพีรดนย์มองตามไป โดยที่หญิงสาวไม่รู้สักนิดว่าเป้าหมายของสายตาเขานั้น มันจดจ้องอยู่กับบั้นท้ายกลมกลึงและเรียวขาเรียวสวยภายใต้กางเกงยีนรัดรูปที่เน้นทรวดทรงองค์เอวของเธออย่างชัดเจน พลันภาพเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนเตียงอย่างถึงพริกถึงขิงก็ผุดขึ้นมาจนต้องสะบัดศีรษะไล่มันออกไป
“เป็นเอามากนะเรา” พีรดนย์ด่าตัวเองเบาๆ แต่ก็อดจินตนาการไม่ได้ว่าถ้าเขาได้สัมผัสผิวเนียนนุ่ม ในขณะที่ทั้งกายของเธอเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงของเขามันจะเป็นยังไง ชายหนุ่มต้องหยิบเบียร์เย็นๆ ขึ้นมาจิบเพื่อดับอารมณ์บางอย่างที่เริ่มก่อตัวเพื่อข่มมันลงไป