เช้าต่อมา ณ ลานกว้างในร่ม คณะวิศวกรรมศาสตร์
แสงแดดอ่อน ๆ ส่องลอดผ่านหลังคาโปร่งใสของลานกว้าง เสียงพูดคุยจอแจของนิสิตปี 1 ดังทั่วบริเวณ บ้างยืนจับกลุ่ม บ้างนั่งล้อมวงกับเพื่อนใหม่ ขณะที่เหล่ารุ่นพี่ปี 3 ยืนกระจายกันอยู่รอบลาน สวมเสื้อช็อปคณะสีแดงเลือดหมูยืนล้อมน้องปีหนึ่ง
ไม่นานนัก เสียงของรุ่นพี่หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นผ่านไมโครโฟน ดึงความสนใจของทุกคนให้หยุดนิ่ง
รุ่นพี่หญิงพูดด้วยยิ้มสดใส เสียงดังชัดเจน
“สวัสดีค่ะน้อง ๆ ปีหนึ่งทุกคน! พี่มีข่าวดีมาบอกนะ พรุ่งนี้เราจะมีกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่กัน เตรียมตัวเตรียมใจกันไว้ให้พร้อมเลย!”
เสียงเฮเบา ๆ ดังขึ้นในหมู่ปีหนึ่ง บ้างยิ้มตื่นเต้น บ้างกระซิบคุยกันเสียงดัง
จากนั้นรุ่นพี่หญิงก็พูดต่อ
“เราไปต่างจังหวัดกันค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยนะคะ เพราะมีอาจารย์ที่ปรึกษาไปด้วย พวกพี่ ๆ ก็ได้ประสานงานกับทางสถานที่และดูแลเรื่องความปลอดภัยไว้แล้วเรียบร้อย”
รุ่นพี่ชายอีกคนเดินออกมาพร้อมถือแฟ้มสีฟ้าในมือ ก่อนยื่นให้กลุ่มปีหนึ่งแถวหน้า
รุ่นพี่ชายพูดต่อเนื่อง
“เดี๋ยวพี่จะแจกหนังสือแจ้งผู้ปกครองให้น้อง ๆ ทุกคน น้องเอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นรับทราบนะครับ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทาง”
กลุ่มนิสิตปีหนึ่งทยอยเข้ามารับเอกสาร ขวัญข้าวยืนอยู่ท้ายแถว ดวงตาเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยความคิด เธอรับเอกสารมาเงียบ ๆ มองลงไปในใบกระดาษสีขาวนั้นอย่างครุ่นคิด
พลางพูดในใจโดยที่ไม่มีใครได้ยิน
“ทั้งกิจกรรม…ทั้งหน้าที่ที่ฉันต้องรับผิดชอบ แม้แต่จะไปพักใจยังต้องคิดถึงพ่อ ไม่รู้เลยว่าการหายไปสักสองวัน…จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
ขณะเดียวกัน โมเม เพื่อนสนิทก็เดินเข้ามาข้าง ๆ พร้อมกับยิ้มสดใส
หญิงสาวพลางกระซิบติดตลก
“เฮ้ ขวัญ! ได้ข่าวว่าไปทะเลนะยะ ใส่บิกินี่กันเปรี้ยว ๆ เลยมั้ย?”
ขวัญข้าวหันไปมองเพื่อนก่อนยิ้มจาง ๆ
“ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะได้ไปไหม… ต้องกลับไปเคลียร์ที่บ้านก่อน”
โมเมลดเสียงลง น้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย
“มีอะไรให้ช่วยบอกนะขวัญ เราเป็นเพื่อนกันนะ”
ขวัญข้าวพยักหน้าเบา ๆ ขณะกำกระดาษแจ้งผู้ปกครองไว้แน่นในมือ เธอรู้ดีว่าทริปนี้…อาจไม่ใช่แค่กิจกรรมรับน้องธรรมดา แต่มันอาจเป็นจุดเปลี่ยนของหลายอย่างในชีวิตเธอ
ช่วงเย็น ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง โซนชุดว่ายน้ำหญิง
หลังจากที่รายละเอียดกิจกรรมรับน้องถูกแจ้งจบลง โมเมก็คว้าข้อมือขวัญข้าวทันที โดยไม่ให้เจ้าตัวได้ตั้งตัว สุดท้ายคนตัวเล็กก็ได้มาเดินเลือกชุดว่ายน้ำที่ห้างแห่งนี้
โมเมพูดตาลุกวาว
“นี่เราอยู่ห้างแล้ว! ไปซื้อชุดว่ายน้ำกัน! ไปทะเลทั้งทีจะให้ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นแบบเด็กเรียนได้ไง!”
ขวัญข้าวเบิกตากว้าง
“หา!? เดี๋ยวโมเม…ฉันยังไม่แน่ใจเลยว่าจะได้ไปหรือเปล่า”
โมเมยักไหล่ แล้วหัวเราะร่วน
“ไม่รู้ล่ะ! ถ้าสุดท้ายแกไม่ได้ไป ฉันก็ถือว่าได้ชุดใหม่ติดตู้ไว้ใช้วันหน้า แต่ถ้าไปต้องปัง! รู้มั้ย? ปีหนึ่งน่ะ เป็นช่วงเดียวที่แกจะได้สวยแบบไม่ต้องมีเหตุผล!”
ขวัญข้าวได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ แล้วเดินตามโมเมไป ยังห้องลองเสื้อผ้าในห้าง
สองสาวผลัดกันเข้าไปลองชุดว่ายน้ำในห้องลอง โซนที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และความวุ่นวายของสาว ๆ หลายคนที่ต่างก็กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวทะเลเหมือนกัน
ขวัญข้าวเดินออกมาจากห้องลองชุดในบิกินี่สีอ่อนที่โมเมเป็นคนเลือก ด้านหน้ามีเสื้อคลุมบาง ๆ พอให้พอปิดเรือนร่างไว้ได้ แต่ก็ยังเผยให้เห็นทรวดทรงองค์เอวที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อนักศึกษามานาน
เมื่อเห็นเพื่อนคนสนิทโมเมตาโตจนแทบหลุดออกจากเบ้า
“หื้มมมมมม ขวัญ! แกซ่อนรูปจริง ๆ ด้วย! แบบนี้พวกรุ่นพี่ตาลุกวาวแน่ ๆ!”
ขวัญข้าวหน้าแดงก่ำ รีบเอามือดึงเสื้อคลุมปิด
“โมเม! อย่าพูดแบบนั้นสิ เราไม่ได้คิดจะอ่อยใครซะหน่อย!”
โมเมเดินวนรอบขวัญข้าวเหมือนดูตัวนางแบบ
“ไม่ได้อ่อยก็ต้องพร้อมไว้ก่อนเถอะน่า! ยิ่งแกเป็นแฝดข้าว หน้าตาเหมือนกันเป๊ะขนาดนี้ รุ่นพี่บางคนที่เคยหลงข้าว…อาจจะหันมามองแกก็ได้นะรู้เปล่า”
ขวัญข้าวเบือนหน้าหนีเล็กน้อย เสียงเบา
“เค้าจะมองฉัน…เพราะฉันหน้าคล้ายข้าว ไม่ใช่เพราะฉันจริง ๆ หรอก”
โมเมหยุดเดิน เสียงหัวเราะกลายเป็นเสียงอ่อนโยน
โมเมเดินเข้ามาจับไหล่บาง แล้วพูดเบา ๆ
“ขวัญ แกก็เป็นตัวของแกเองนะเว้ย ไม่ต้องเป็นเงาใคร แล้วก็อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีค่าเพราะแกไม่ใช่ข้าว คนอื่นอาจจะเห็นแค่เปลือก แต่ฉันรู้ว่าแกน่ารัก แกใจดี แล้วก็อดทนมาก ๆ ถ้าฉันเป็นผู้ชาย…ฉันก็เลือกแก”
ขณะที่ได้ยินเพื่อนพูด ขวัญข้าวหลุดหัวเราะเบา ๆ
“พูดเหมือนสารภาพรักเลยนะ…”
จากนั้นโมเมจึงแกล้งทำเสียงหล่อ
“ก็จีบอยู่ไงครับน้องขวัญ สนใจคบกับพี่โมเมมั้ยครับ”
“ฮ่า ๆ ๆ”
ทั้งสองระเบิดเสียงหัวเราะลั่นในห้องลองชุด ก่อนที่ขวัญข้าวจะเปลี่ยนชุดกลับอย่างวางใจมากขึ้น ความเครียดที่แบกไว้ในใจดูเหมือนจะเบาลงชั่วขณะ เมื่อมีเพื่อนดี ๆ อยู่ข้าง ๆ แบบนี้
ไม่นานนักขวัญข้าวเพิ่งเปลี่ยนกลับเป็นเสื้อผ้านักศึกษาเรียบร้อย กำลังหยิบชุดว่ายน้ำตัวที่ลองมาคืนพนักงาน ข้าง ๆ มีโมเมที่กำลังตื่นเต้นกับชุดที่ซื้อใหม่
แต่ในจังหวะนั้นเอง ประตูร้านบานเลื่อนก็เปิดออก พร้อมเสียงรองเท้าส้นสูงเคาะพื้นห้างเบา ๆ เป็นจังหวะ ก่อนจะปรากฏร่างของ มะปราง ในชุดนักศึกษา กระโปรงทรงเอรัดรูปที่มันสั้นประมาณ 1 คืบครึ่ง และ มาพร้อม เวธัส ในชุดของคณะสวมทับเสื้อช็อปสีแดง เขาดูดีแบบคนไม่ต้องพยายาม
โมเมเหลือบไปเห็นก่อน รีบสะกิดขวัญข้าว
โมเมทำเสียงกระซิบ
“ขวัญ ๆ ๆ ดูสิ ใครมา…”
ขวัญข้าวหันไปทางนั้น สบตากับเวธัสโดยบังเอิญ ร่างสูงชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าไร้อารมณ์ แต่สายตากลับจ้องเธอนิ่ง ๆ
มะปรางหันมาเห็นสองสาวปีหนึ่ง ก่อนจะยิ้มเหยียดเล็กน้อย พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูนุ่มนวล แต่เต็มไปด้วยความจิกกัด
“ว้าว…เด็กปีหนึ่งก็กล้าใส่บิกินี่เหรอจ๊ะ?”
เธอปรายตามองไปที่ชุดว่ายน้ำในมือของขวัญข้าว ก่อนจะปรายตาขึ้นไปสำรวจเรือนร่างอย่างเปิดเผย “หุ่นโอเคอยู่นะ แต่ก็…ไม่แน่ใจว่าจะมั่นพอหรือเปล่า”
โมเมขมวดคิ้วทันทีแต่ยังยิ้มตอบ ไม่รอช้าก็ตอบกลับเสียงเรียบ
“บิกินี่ไม่จำกัดเฉพาะระดับปีค่ะ ใครมั่นใจก็ใส่ได้ และไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายมาคุม”
มะปรางยิ้มแค่ริมฝีปาก ก่อนจะเบนสายตาไปมอง ขวัญข้าว อย่างชัดเจน
“นี่เหรอ…น้องสาวฝาแฝดของข้าว”
เธอพูดเสียงเบา แต่จงใจให้ได้ยินกันถ้วนหน้า “เหมือนกันมากจริง ๆ แต่เสียดาย…ดูเหมือนจะได้แค่เปลือก”
ขวัญข้าวเม้มปากแน่น ไม่ตอบโต้ สายตาหลบเล็กน้อย รู้ดีว่าการเถียงอะไรในตอนนี้ไม่มีประโยชน์ แต่โมเมกลับพูดสวนแทนทันควัน
โมเมยิ้มแผ่ว ๆ แต่พูดแสบ ๆ
“บางทีเปลือกที่ไม่มีพิษภัย…ก็ดีกว่าเนื้อในที่ขมปี๋ก็ได้นะคะพี่”
เวธัสที่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ เงียบกริบ ไม่ได้ห้ามมะปรางหรือพูดอะไรสักคำ แต่ดวงตากลับยังคงจับจ้องไปที่ขวัญข้าวราวกับพยายามอ่านใจ
มะปรางจึงรีบตัดบท แล้วพูดเสียงหวาน
“ช่างเถอะ เด็กก็คือเด็ก”
ก่อนจะคว้าชุดบิกินี่สีแดงสดจากราวเสื้อผ้า พลางเดินกลับไปหาเวธัส แล้วแนบมันกับอกตัวเอง
มะปรางทำเสียงออดอ้อน
“เวย์ ชุดนี้ล่ะ ชอบมั้ย?”
เวธัสก้มมองแต่ไม่ตอบ ก่อนจะเบือนสายตากลับไปมองขวัญข้าวอีกครั้ง สีหน้าอ่านยาก
โมเมพึมพำกับขวัญข้าว
“คนอะไร…นอกจากหน้าตาดี ก็ไม่มีดีอะไรเลย เห็นแก่ตัวชะมัด”
ขวัญข้าวไม่พูดอะไร เพียงแค่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะลากโมเมออกจากร้านไปช้า ๆ ปล่อยให้มะปรางยืนเลือกชุดอยู่กับชายหนุ่มผู้ที่หัวใจไม่เคยอยู่กับใคร นอกจากคนที่จากไปแล้ว