บทที่2
แม้จะรู้อยู่แล้วว่าต้องเจ็บ
Memories never hurt anyone, only a clinging mind hurt ourselves.
Chada part
หลายชั่วโมงต่อมา...
21.00 pm.
ไลน์!
Meena: กูมาหามึงที่ห้องอะ แต่มึงไม่อยู่ มึงออกไปไหนวะชฎา
Chada: กูออกมาทำธุระข้างนอกอะ
Meena: ทำธุระ? ธุระอะไร แล้วอาการมึงดีขึ้นแล้วเหรอว่ะชฎา
Chada: ค่อยยังชั่วแล้ว
Meena: แล้วมึงไปทำธุระที่ไหน กูจะได้ตามไปเป็นเพื่อน
Chada: ไม่เป็นไรมึง กูกะว่าจะทำแป๊บเดียว เสร็จแล้วจะรีบกลับเลยอะ เจอกันที่ห้องละกันน่ะ
Meena: เออๆ โอเค ดีๆ ละมึงป่วยอยู่
Chada: อื้ม
หลังจากที่ฉันคุยกับมีนาเสร็จฉันก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าสะพายข้างให้เรียบร้อยแล้วเตรียมตัวลงจากรถแท็กซี่ที่ฉันนั่งมาจากคอนโดลงที่หน้าผับแห่งหนึ่ง
ใช่ค่ะ ฉันมาผับ...ผับที่ฉันและผู้ชายคนนั้นเจอกันครั้งแรก ผู้ชายที่เคยมีพันธะกับฉันอย่างตฤณ และที่ฉันตัดสินใจมาที่นี่อีกครั้ง ฉันก็มีจุดประสงค์เดียวคือ...
มาเพื่อให้เขารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้
ค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อให้เขารับผิดชอบเด็กที่อยู่ในท้องของฉันตอนนี้ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงตัดสินใจอยากให้เขารู้และอยากให้เขารับผิดชอบ มันดูเหมือนจะไม่มีเหตุผลในการกระทำของฉันเพราะลึกๆ แล้วฉันเองก็อยากลืมเขาใจจะขาด
แต่เชื่อเถอะฉันมีเหตุผลที่ต้องทำและคิดอย่างถี่ถ้วนมาหมดแล้ว...
เพราะการจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตมาอย่างดีมันไม่ใช่ว่าจะทำกันได้ง่าย ๆ เรื่องเงินมันก็ยังเป็นปัจจัยหลักที่ต้องมีและต้องใช้ในการเลี้ยงดู แต่ฉัน...ฉันกำลังตกงาน เงินที่มีก็เริ่มริบหรี่ขึ้นทุกวัน ฉันไม่สามารถรู้อนาคตตัวเองได้ว่าวันข้างหน้าฉันจะสามารถดูแลเด็กคนนี้คนเดียวได้หรือไหม
เพราะฉะนั้น...เขาเป็นพ่อของเด็กคนนี้ ฉันก็เลยคิดว่าเขาก็ควรที่จะต้องรับรู้ว่าเขาได้ทำฉันท้องและได้ไข่เด็กคนหนึ่งให้มีชีวิตขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเขาก็ต้องร่วมรับผิดชอบกับฉัน เพราะฉันจะไม่ทำบาปด้วยการไปทำแท้งเด็ดขาด
ตึก ตึก ตึก
ฉันก้าวขาเดินขึ้นบันไดอย่างช้าๆ หลังจากที่เดินเข้ามาในผับและผ่านด่านผู้คนมากมายจากข้างล่างมาแล้ว ก่อนจะถึงชั้นสองที่เรียกว่าชั้นวีไอพี และทันทีที่รองเท้าของฉันแตะถึงพื้นชั้นสองสายตาของฉันก็ปะทะเข้ากับสายตาราบเรียบของคนที่ฉันมาหาพอดี
ตฤณ...เขานั่งอยู่บนโซฟาข้างหน้าของฉัน สวมเสื้อเชิ้ตสีดำมีผู้หญิงนั่งขนาบข้างทั้งสองข้าง และใช่ ตอนนี้เขากำลังนั่งจ้องตาฉันไม่กะพริบ เขาดูเหมือนจะตกใจเล็กน้อยที่เห็นฉันปรากฏตัวต่อหน้าเขา แต่แค่แวบเดียวเท่านั้นเพราะหลังจากนั้นเขาก็ทำเป็นเฉยชากับฉันเหมือนเดิม เหมือนที่เคยเป็นมาอย่างเมื่อก่อน
ฉันก็เลยก้าวขาที่หยุดนิ่งไว้เดินเข้าไปหาเขาใกล้ๆ อย่างตั้งใจแล้วทักทายเขา
“หวัดดี”
“...”
หึ ชั่งเป็นการทักทายที่รู้สึกโง่เขล่ามากเลยชฎา โง่ไม่พอยังรู้สึกหน้าชาเพราะพวกผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขามองฉันด้วยสีหน้าแสยะยิ้มอย่างเยาะเย้ยอีกด้วย แล้วที่พวกผู้หญิงแสยะยิ้มใส่ฉันแบบนั้นก็เพราะไอ้คนที่ฉันทักทายไปเขาไม่ได้ทักทายอะไรฉันกลับเลยนะสิ แถมยังนั่งหน้านิ่งมองฉันอย่างเดียวเลยแต่ฉันไม่สนหรอก
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายอะ” ตฤณเงียบเหมือนเดิม ฉันก็เลยทำท่าจะอ้าปากพูดต่อ แต่...
“...เรื่องอะไร” หึ นึกว่าจะนั่งเงียบแล้วจ้องหน้าฉันอย่างเดียวสักอีก
ขอบคุณละกันที่ช่วยพูดกับฉันสักที เพื่อไม่ให้เสียเวลาฉันก็เลยหยิบบางอย่างในกระเป๋าสะพายออกมาแล้วยื่นไปตรงหน้าของตฤณ
“อะไร”
“ฉันท้อง”
!!!
และทันทีที่ฉันพูดออกไปว่าตัวเองท้อง ตฤณก็มีแววตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมทันที เขาดูเหมือนจะตกใจเล็กน้อยที่ฉันบอกว่าตัวเองท้อง ส่วนพวกผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาก็นั่งอึ้งไปตามๆ กันที่ได้ยินฉันพูดแบบนั้น
แต่ฉันไม่แคร์หรอกเพราะคนที่ฉันแคร์และอยากรู้ว่าเขาจะทำยังไงกับเรื่องนี้คือคนที่นั่งทำหน้าตกใจอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้ต่างหาก
“เป็นไปได้ไง”
“มันเป็นไปแล้ว”
ฉันตอบตฤณไปด้วยความตรงไปตรงมา ก็แล้วจะให้ฉันตอบว่าไงล่ะในเมื่อมันเป็นไปแล้วก็ต้องตอบตามความเป็นจริงถูกไหม
พรึ่บ!
“ไปคุยกับฉัน”
ตฤณลุกขึ้นจากโซฟาแล้วลากฉันเดินลงไปจากชั้นสองทันทีก่อนจะพาฉันเดินแหวกผู้คนออกไปทางหลังร้านที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน
และทันทีที่ถึงหลังร้านเขาก็ปล่อยมือฉันลงก่อนจะหันหน้ามาเผชิญกับฉันซึ่งๆ หน้า ทำให้ฉันที่เตี้ยกว่าเขาตั้งเยอะต้องเงยหน้าขึ้นไปสบตากับสายตาคมกริบคู่นั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ที่เธอพูดเมื่อกี้หมายความว่าไง”
“ฉันท้อง ความหมายของมันก็คือฉันท้องลูกของนายไง”
“ลูกของฉัน? เธออย่าบอกนะว่าหลังจากยุติความสัมพันธ์กับฉันแล้ว เธอไม่ได้มีคนใหม่”
“ใช่ หลังจากที่เรามีอะไรกันเป็นคืนสุดท้ายของความสัมพันธ์นั้น ฉันก็ไม่เคยไปยุ่งกับใคร”
“ฉันจะเชื่อใจเธอได้ไงว่าเธอไม่โกหกฉัน อีกอย่างฉันป้องกันตลอด คืนนั้นฉันก็ป้องกันแล้วมันจะท้องได้ยังไง”
คำว่าป้องกันแล้ว แล้วมันจะท้องได้ยังไงเนี่ย เขาควรถามตัวเองมากกว่าน่ะ ไม่ใช่มาถามฉัน เพราะถุงยางอนามัยที่เขาใช้คืนนั้น มันก็เป็นของเขา
“ฉันก็ไม่รู้หรอกน่ะว่าท้องได้ยังไง แล้วถุงยางของนายอะทำไมมันถึงได้ไร้ประสิทธิภาพขนาดนั้น แต่สิ่งเดียวที่ฉันรู้ตอนนี้คือ...นายทำฉันท้อง และฉันก็ต้องการให้นายรับผิดชอบกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นด้วย”
“หึ...มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอว่ะชฎาที่เธอเดินมาให้ฉันรับผิดชอบทั้งๆ ที่มันไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน”
เหอะ! เจ็บจี๊ดที่หัวใจเลยอะ หลักฐานงั้นเหรอ คนแรกที่ได้เวอร์จิ้นฉันไปก็คือเขาน่ะ และฉันก็ไม่ได้คิดที่จะเป็นผู้หญิงสำส่อนเหมือนเขาที่จบความสัมพันธ์ปุ๊บก็ไปนอนกับคนอื่นปั๊บอะ
“หลักฐานมันมีอยู่แล้วเพราะเด็กในท้องของฉันเขาคือลูกของนายร้อยเปอร์เซ็นต์”
ฉันตอบกลับไปด้วยความมั่นใจระคนไปด้วยความโมโหและรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจที่ต้องมาได้ยินคำพูดห่วยๆ จากปากผู้ชายอย่างเขา
“เหรอ งั้นเธอก็ค่อยเอาหลักฐานนั้นมายืนยันกับฉันอีก9เดือนข้างหน้าละกัน ถ้าเป็นลูกของฉันจริง ฉันพร้อมจะรับผิดชอบค่าเลี้ยงดูทุกอย่าง แต่เฉพาะเด็กเท่านั้นน่ะ แม่เด็กไม่เกี่ยว”
“...”
สิ้นสุดประโยคที่บาดใจจากเขาแล้วฉันก็เม้มปากกลั้นความสั่นสะท้านที่อยู่ในใจเอาไว้ ก่อนจะจ้องตาเขาด้วยความเจ็บปวดแล้วตอบตกลงในที่สุด... “ได้ ตามนั้น” และทันทีที่ฉันตอบเสร็จฉันก็เดินผ่านหน้าเขาไปทันที เพราะทนเห็นสีหน้าและแววตาที่น่าขยะแขยงนั้นไม่ไหวแล้ว
ฉันเกลียด...ฉันเกลียดความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นในดวงตานั้นของเขาที่สุด
ใช่ มันคือสายตาเดียวกันกับที่ฉันเห็นคืนนั้นไม่มีผิด มันเป็นสายตาที่ว่างเปล่าและใบหน้าที่เรียบเฉยอย่างคืนนั้นเป๊ะ รวมถึงความรู้สึกที่มีก้อนจุกตีตื้นขึ้นมาอยู่ที่ลำคอของฉันตอนนี้ด้วย
เหอะ! แย่จังเลยเนอะ...เป็นคนรับปากตกลงจะอยู่ในความสัมพันธ์ห่วยแตกนั้นของเขาเองแท้ ๆ แต่สุดท้ายดันแพ้ทางซาตานแบบเขาอย่างจังแถมตอนนี้ยังต้องมาอุ้มท้องลูกของเขาอีก
หึ! แล้วที่นี่ฉันจะมูฟออนจากเขายังไงล่ะ!