“ดิน” หญิงสาวต่างวัยทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกัน
“ย่ากับน้าสาจะทำอะไรนิลครับ” เขาชอบมายืนรับลมและชมวิวตรงหน้าผา ไม่คิดว่าจะมาเจอย่ากับทิสากำลังจะลากร่างของนิลรัตน์ที่ไร้สติมาที่นี่
“ก็มันคือคนที่แม่ของดินส่งมา มันกำลังจะเข้ามาป่วนชีวิตของเรา”
“คนของแม่ คืออะไรครับ ผมงงไปหมดแล้ว” พสุธาเอ่ยถามด้วยความงุนงง
“นังนี่มันเป็นลูกของแม่กับชู้ของดินยังไงล่ะ มันจะมาหลอกดินนะ” ประโยคของผู้เป็นย่าทำให้พสุธาถึงกับช็อกไปเลยทีเดียว ที่เขาช็อกก็เพราะว่าเขาตกหลุมรักนิลรัตน์นั่นเอง แต่เธอกลับเป็นน้องสาวต่างบิดาของเขา
นิลรัตน์ครางเบา ๆ ก่อนจะฟื้นขึ้นมา เธอลูบท้ายทอยไปมาด้วยความเจ็บ นั่นทำให้นราพยักหน้าให้ทิสาจิกผมของนิลรัตน์เอาไว้
“โอ๊ย! พี่ดินช่วยด้วยค่ะ” นิลรัตน์ตะโกนเรียกพสุธา
“หุบปากซะ ถ้าแกยังไม่อยากตาย” มีดที่จ่อมาทางด้านหลังทำให้นิลรัตน์หยุดกึก
“อย่านะครับคุณย่า ยังไงผมก็ไม่กลับไปหาเขาอยู่แล้ว เขาทิ้งผมตั้งแต่เด็ก ผมเกลียดเขา ผมไม่มีวันญาติดีกับเขาหรอกครับ แต่คุณย่าอย่าทำร้ายคนอื่นเลยนะครับ”
“นี่ดินห่วงนังนี่อย่างนั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ครับ แต่ผมไม่อยากให้คุณย่าต้องมีความผิดติดตัว ผมเป็นห่วงคุณย่าครับ” พสุธารีบยกมือขึ้นห้ามปราม
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นย่าจะแทงนังนี่ให้ไส้ทะลัก”
“โอ๊ย!” นิลรัตน์ร้องเสียงหลง ทำให้ทุกคนตกใจ
“เป็นอะไร” เป็นจังหวะที่นราเผลอ วิบตานั้น นิลรัตน์ก็เอี้ยวตัวมาทางด้านหลังปัดมีดในมือของนราหล่นลงไปยังหน้าผาเบื้องล่าง
“ผลักนังนี่ลงไปซะ” นราที่เซจนเกือบล้มเพราะชรามากแล้ว ตะโกนบอกทิสาที่เผลอปล่อยผมของนิลรัตน์
ทิสาตรงเข้าผลักร่างของนิลรัตน์ แต่นิลรัตน์หลบทัน ทำให้ทิสาเสียหลักถลาไปที่หน้าผา ทิสารีบคว้าทุกอย่างเอาไว้ และสิ่งที่คว้าเอาไว้ คือร่างของนรา
“คุณย่า” พสุธารีบถลาเข้าไปจับร่างของนราเอาไว้
“คุณย่าผมจะดึงคุณย่าขึ้นมานะครับ”
“เดี๋ยวนิลช่วยค่ะพี่ดิน” นิลรัตน์รีบดึงคนทั้งสองที่ห้อยอยู่ตรงหน้าผาขึ้นมา แต่เพราะตัวหนักมากเลยดึงไม่ขึ้น แม้พสุธาจะออกแรงดึงแค่ไหนแต่ก็ไม่ไหว
“จำเอาไว้นะดิน แม่ของหลานเป็นคนเลว และนังนิลรัตน์ก็จะมาหลอกหลาน อย่าหลงเชื่อมันเด็ดขาด” แม้กำลังจะตายนราก็ยังโกหกพกลม ทำให้พสุธาหลงเชื่อ
คนที่เลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อยกับคนที่ไม่ได้เลี้ยงดูเลย พสุธาย่อมที่จะเชื่อคนเป็นย่ามากกว่า
นิลรัตน์เหลือเชื่อกับหญิงชราคนนี้เหลือเกิน ก่อนตายยังพูดจาโกหกทำให้พสุธาหลงเชื่ออีก
“คุณย่า!” พสุธาตะโกนลั่นก็พบว่าเขาไม่สามารถช่วยคนทั้งสองได้ ร่างของหญิงต่างวัยหล่นร่วงลงไปจากหน้าผา สร้างความช็อกให้กับพสุธายิ่งนัก
“พี่ดินทำใจดีๆ เอาไว้นะคะ เราต้องรีบโทร. แจ้งตำรวจค่ะ” นิลรัตน์รีบบอกชายหนุ่ม
“ไสหัวไปซะ อย่ามายุ่งกับฉัน” พสุธาผลักร่างของนิลรัตน์จนกระเด็น ก่อนจะออกวิ่ง เพื่อไปค้นหาร่างของผู้เป็นย่าเบื้องล่าง
เขาโทร. แจ้งบิดาบุญธรรมให้ช่วยพาคนออกตามหา รวมถึงแจ้งตำรวจด้วย
นิลรัตน์กำลังตกใจ แต่พบว่ามารดากับบิดานั่งเครื่องบินมาถึงเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจองตั๋วด่วนตั้งแต่ที่เธอขาดการติดต่อไป เนื่องจากโทรศัพท์ของเธอโดนทำลาย
“นิลเป็นยังไงบ้างลูก” ภัคธีมากอดรัดร่างของบุตรสาวเอาไว้แนบอก
“คุณพ่อกับคุณแม่มาได้ยังไงคะ”
“พอแม่เห็นหน้าของคุณนรา แล้วลูกก็ขาดการติดต่อไป แม่ก็รีบเดินทางมาที่ไร่ทันที พอดีว่าคุณพ่อของหนูน่ะรู้จักกับพ่อเลี้ยงอินทร์อยู่แล้วจ้ะ เราเลยรู้ความเคลื่อนไหวของที่นี่ตลอด”
“คุณแม่คะ หนู...” นิลรัตน์พูดไม่ออก ไม่เคยเห็นคนตายไปต่อหน้าแบบนี้ หน้าผาสูงชัน อย่างไรนรากับทิสาก็คงไม่รอด แต่สภาพศพจะเป็นเช่นไรนั้นต้องคอยดูกันอีกที
“เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ” ภัคธีมาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
นิลรัตน์เริ่มเล่าเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างให้บิดากับมารดาฟัง ทำเอาภัคธีมาต้องยกมือขึ้นทาบอก
“เวรกรรม!”
“ก่อนตายคุณนรายังบอกให้พี่ดินเกลียดคุณแม่ยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ ท่านไม่ได้สำนึกอะไรเลยนะคะ”
“พุทธโธ่” ภัคธีมาได้แต่ครางออกมา ไม่คิดว่านราจะจงเกลียดจงชังเธอถึงขนาดนี้
การค้นหาศพของนราและทิสาสิ้นสุดลงเมื่อได้พบร่างอันไร้วิญญาณของทั้งสองที่เสียชีวิตอย่างเอน็ดอนาถ พสุธาเสียใจมาก เขากอดศพของผู้เป็นย่าเอาไว้แนบอก
“ดินลูก” ภัคธีมาที่เห็นลูกชายตัวเป็น ๆ เป็นครั้งแรก หลังจากที่ไม่ได้เจอกันยี่สิบกว่าปีถึงกับครางออกมา นางร้องไห้น้ำตาร่วงพรู ทำท่าจะเข้าไปหาพสุธา แต่ธรรีบดึงตัวเอาไว้
“เดี๋ยวก่อนมล ตอนนี้ทุกอย่างกำลังแย่ ถ้ามลเข้าไปจะยิ่งทำให้ดินโกรธเกลียด โมโห แล้วเรื่องราวจะยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่”
“แต่มลอยากอธิบายให้ลูกฟัง ว่ามลไม่ได้ทิ้งแกนะคะ”
“เอาไว้เสร็จสิ้นงานศพก่อน ตอนนี้อธิบายอะไรไป ดินก็ไม่ฟังหรอก ดินเชื่อว่าเราทิ้งแก แกมีแค่คุณนราเป็นย่าที่เลี้ยงดูแกมา คนที่อยู่มาด้วยกันยี่สิบกว่าปี กับเพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรก มลคิดว่าแกจะเชื่อใครล่ะ”
“แต่มล”
“เชื่อพี่เถอะ เอาไว้เราคุยกับพ่อเลี้ยงอินทร์อีกครั้ง ให้เขาช่วยพูดอีกแรง ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นนะ”
“ก็ได้ค่ะ” ภัคธีมารับคำ
พ่อเลี้ยงอินทร์กับแม่เลี้ยงจันทราช่วยจัดงานศพให้นรากับทิสา ในขณะที่พสุธาเอาแต่โศกเศร้าเสียใจ เขาไม่ได้สนใจอะไรนอกจากนั่งอยู่หน้าโลงศพ ข้าวปลาไม่กิน เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยมาร่วมงานก็ถามคำตอบคำหรือไม่ตอบ อาการของเขาค่อนข้างหนัก แต่ยังไม่มีใครรู้เรื่องที่นราคิดจะฆ่านิลรัตน์ เพราะยังไม่มีใครแจ้งตำรวจ
นิลรัตน์เห็นสภาพของพสุธา เธอเลยยังไม่คิดที่จะแจ้งตำรวจ ในขณะที่บิดามารดานั้นก็แล้วแต่เธอ พวกท่านอยากให้เธออโหสิกรรมให้คนที่ตายไปแล้ว ในลึกๆ แล้วผู้หญิงชั่วร้ายที่คิดจะฆ่าคนอื่นแบบนั้นก็ไม่สมควรให้อภัย
พสุธาจัดงานศพให้ย่าของเขาจนเสร็จเรียบร้อย แล้วหลังจากนั้นก็นำเถ้ากระดูกไปลอยอังคาร เขาอธิษฐานให้ท่านไปสู่คติ ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี
“คุณพ่อกับคุณแม่มีอะไรเหรอครับ” พสุธาเอ่ยถามบิดากับมารดาบุญธรรมเมื่อท่านเรียกพบ
“พ่อกับแม่มีคนจะให้ดินเจอน่ะ” พ่อเลี้ยงอินทร์บอกกับลูกชายบุญธรรมด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรักความห่วงใย
“ใครกันครับ” หลังจากประโยคนั้น ร่างของธรกับภัคธีมาก็เดินเข้ามา ทำให้พสุธาต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน เมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาด้วยกันคือนิลรัตน์
“นี่คือคุณธรกับคุณภัคธีมา เป็นบิดาและมารดาบุญธรรมของหนูนิลรัตน์” พ่อเลี้ยงอินทร์แนะนำ
ประโยคนั้นฟาดลงกลางใจของพสุธาอย่างที่สุด เพราะทำให้เขารับรู้ว่าคนตรงหน้าคือมารดาและบิดาเลี้ยงของเขา แต่ที่ทำให้เขารับรู้อีกเรื่องคือ นิลรัตน์ไม่ใช่ลูกของมารดา แต่เป็นแค่ลูกบุญธรรม เหมือนกับที่เขาเป็นลูกบุญธรรมของพ่อเลี้ยงอินทร์และแม่เลี้ยงจันทรา ดังนั้นนิลรัตน์จึงไม่ใช่น้องสาวท้องเดียวกันกับเขา