สุดท้ายมายมิ้นก็ยอมนอนอยู่ในอ้อมกอดของปฐวี มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยและมีความสุข
หญิงสาวหลับไปแล้วฟังจากเสียงหายใจที่ดังสม่ำเสมอ
(แม่กวางน้องของฉัน) เขาค่อยๆขยับ
ดึงหมอนให้เขาที่ และดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ทั้งเขาและเธอ อากาศเย็นเพราะ เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ทั้งสองหลับไปในอ้อมกอดของกันและกันมันช่างอบอุ่นเหลือเกิน
เช้าวันต่อมา....
มายมิ้นขยับตัวตื่นด้วยความอยากลำบาก
เหมือนมีอะไรบ่างอย่างมาทับตัวเธอไว้ เธอค่อยๆพยายามลืมตาขึ้น ภาพจำก็ย้อนกลับมา
(อีกแล้ว...)หญิงสาวอุทานขึ้นในใจ นี้มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับท่านประธานของเธอ
(เธอใจง่ายไปหรือป่าวยายมิ้น)หญิงสาวค่อยๆขยับตัวเพื่อที่จะลุกเข้าห้องตัวเอง
ทันไดนั้นออมเเข็นแข็งแรงก็กระชับขึ้นอีก
"วันนี้เราตื่นสายได้"ชายหนุ่มพูดขึ้น
"คุณวีตื่นแล้วหรอค่ะ"
"ตื่นแล้วครับ ตื่นนานแล้วด้วย"เขาตอบยิ้มๆด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น
"วันนี้ตอนเช้าเราไม่มีอะไรเร่งด่วน ไม่ต้องรีบลุกก็ได้"มายมิ้นมองผ่านกระจกออกไปด้านนอกฟ้าก็ยังมืดอยู่
"แต่คุณก็ยังมีแผนงานที่ต้องปรับอีกหลายแผนกนะคะ"
"ผมขอโกาสได้ไม"หญิงสาวขมวดคิวมุ้ย
"ขอโอกาสอะไรค่ะ"
"โอกาสได้รักคุณ พิสูจน์ให้คุณเห็นถึงความจริงใจของผม"
มายมิ้นตกใจ จนแทบจะลืมหายใจเลยที่เดียว เธอดีดตัวลุกขึ้นนั้ง ใช้มือจับแก้มตัวเองทั้งสองข้าง
"ฝัน...นี้ฉันฝันไปใช่ไม ตื่น..ยายมิ้นตื่นได้เเล้ว"พร้อมกับตบแก้วตัวเองเบาๆ
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับมือหญิงสาวมา กุมไว้และหัวเราะเบาๆกับอากัปกิริยาที่หญิงสาวเป็น
"ผมจะไม่เร่งรัดคุณ แต่ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นเอง"
"แต่...ดิฉันเป็นแค่เลขานะคะ"เธอพูดขึ้น
เธออยากจะบอกเขาว่าเธอไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาเลย
"ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร ผมเป็นผู้ชายเจอผู้หญิงมาก็เยอะแต่ไม่มีใครทำให้ผมรู้สึกดีได้เหมือนคุณ อดีตผมแก้ไขไม่ได้อาจมีเรื่องผู้หญิงมากวนใจคุณอยู่บ่าง แต่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะมีคุณคนเดียว
คุณยังไม่ต้องให้คำตอบผมก็ได้ แต่ขอโอกาสให้ผมได้ พิสูจน์ตัวเองก็พอ"
(เฮ้ออ....มีอะไรให้ต้องคิดอีกยายมิ้นแกนอนกอดเขาอยู่สองคืนแล้วนะ)
"ตกลงค่ะ"ชายหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็ ยิ้มแก้มปริด้วบความดีใจ พร้อมกับก้มหน้าลงไปหอมแก้มหญิงสาวหนึ่งฟอด
"มัดจำไว้ก่อน"หญิงสาวตกใจเขินอายจนหน้าแดงไปหมด
"แล้วต่อไปนี้คุณต้องแทนตัวเองว่ามิ้นกับผมทุกครั้ง"
"แต่ว่า"
"ไม่มีแต่ครับ"มายมิ้นพูดยังไม่ทันจบชายหนุ่มก็รีบสวนขึ้นทันที
"ก็ได้ค่าาาา"หญิงสาวตอบ
สายๆทั้งคู่ก็ลงมาทานข้าวที่ห้องอาหาร
"สวัสดีค่ะคุณปฐวี"เสียงแหลมสูงของผู้จักการสาวเอ่ยทักขึ้น ทั้งส่งยิ่มมาให้อย่างประจบประแจง
"สวัสดีครับ"ชายหนุ่มตอบรับสั้นๆ
ส่วนมายมิ้นก็ยังยืนเงียบๆอยู่ด้านหลังของชายหนุ่มเหมือนเดิม
"เชิญทางนี้ได้เลยค่ะ ศศิจัดที่นั้งไว้ให้แล้วค่ะ"พร้อมกับเดินนำไปยังโต๊ะ
"คุณะปฐวีรับอะไรดีค่ะ"
ศศิหันไปถามชายหนุ่ม
( ฮัลโหล...ที่ตรงนี้ยังมีฉันอยู่ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยเลยหรอคุณผู้จักการตามมารยาทก็ยังดี)มายมิ้นคิดในใจ
"คุณทานอะไรดี ของผมเหมือนเดิมครับ"
ปฐวีมองมายังมายมิ้น ถามและบอกในประโยคเดียว มายมิ้นอยู่กับเขามาหลายเดือนเธอรู้อยู่แล้วว่าตอนเช้าเขาทานอะไรเป็นหลัก
"ของคุณปฐวีรับเป็นอเมริกาโน่ร้อน และขนมปังใส่กรอกไขแฮมชีสส่วนของดิฉันเป็นโจ๊กหมูกับเอสเย็นหวาน50% เท่านี้ค่ะ"พูดจบก็ส่งเมนูคืนให้ผู้จักการสาว
"ค่ะ"ศศิตอบรับแบบไม่เต็มใจ แล้วเดินออกไป เธอตั้งใจจะมาเอาใจท่านประทานหนุ่ม แต่ก็มียายเลขานั้นขวางอยู่ตลอด ฉันเฝ้ามองเขามาตั้งนานแล้วเธอเป็นใครยิ่งคิดเธอก็ยิ่งแค้น
"เฮ้ออออ...ฉันดูจะขวางหูขวางตาผู้จัดการของคุณจังเลยนะคะ"หญิงสาวกล่าวขึ้น ปฐวีเหลือบมองหญิงสาวพร้อมกับวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ
"เขาอยากกินผม แต่ผมอยากกินคุณมากว่า"ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ มายมิ้นตกใจตาโตเท่าไข่ห่าน
"คุณวีค่ะ ถ้าใครมาได้ยินมันจะไม่ดีนะคะ"มายมิ้นลดเสียงลงพูดเบาๆ
"สักวันพวกเขาก็ต้องรู้อยู่แล้ว"
"แต่ต้องไม่ใช่วันนี้ค่ะ"หญิงสาวกล่าวขึ้น
พร้อมกับอาหารเช้ามาเสิร์ฟ หลังทานอาหารเสร็จ ปฐวีมีคุยงานกับลูกค้าตอน 11.00น
หลังทานอาหารเสร็จ ปฐวีก็เข้าไปในส่วนของออฟฟิศ เพื่อที่จะตรวจงานต่อนิดหน่อย ท่านประท่านกับเลขาต่างคนต่างนั้งทำงานกันเงียบๆ จะมีปรึกษาและสั่งงานกันเป็นครั้งคราว
ไลน์..
เสียงแจ้งเตือนข้อความไลน์ดังขึ้น หญิงสาวเปิดอ่าน
"เลขาของคุณประเสริฐแจ้งว่าอีก 10 นาทีถึงค่ะ"มายมิ้นกล่าวขึ้น ชายหนุ่มพยักหน้า ปิดแฟ้มเอกสารในมือ
"คุณวีไปรอที่ห้องรับรองเลยนะคะ เดี๋ยวมิ้นจะลงไปรอคุณประเสริฐด้านล้าง"
"ครับผม รีบมานะผมคิดถึง"ชายหนุ่มตอบรับ
"นี้มันเวลางานนะคะท่านประธาน ขอตัวก่อนนะคะ"กล่าวเสร็จหญิงสาวก็เดินออกไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความเขิน
ด้านล้างที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
มีรถตู้คันหรูมาจอดหน้าโรงแรม
มีชายสูงวัยลงจากรถและตามลงด้วยหญิงสาวคนหนึ่ง มายมิ้นเดินมารอตอนรับที่หน้าประตู้ พอพนักงานเปิดประตู้ให้แขกเข้ามามายมิ้นก็เดินตรงไปหาทันที
"สวัสดีค่ะคุณประเสริฐ ดิฉันเป็นเลขาของคุณปฐวีค่ะ ชื่อมายมิ้น"
หญิงสาวกล่าวขึ้นพร้อมกับยกมือไหว้
"สวัสดีครับ"ชายสูงวัยกล่าวตอบด้วยใบหน้ายิ้มๆอย่างผู้ใหญ่ใจดี แล้วหันไปหาเลขาสาวที่ยืนอยู่
"นี้คุณปิ่นเป็นเลขาของผม"
"สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทาง
การนะคะ"เลขาของประเสริฐเอ่ยขึ้น เพราะที่ผ่านมาจะคุยงานกันผ่านไลน์
"ยินดีเช่นกันค่ะ"มายมิ้นเอ่ยขึ้นยิ้มรับ
"เชิญที่ห้องรับรองกันดีกว่าค่ะ คุณปฐวีรออยู่แล้วค่ะ"มายมิ้นกล่าวต่อ พร้อมกับเดินนำมาขึ้นลิฟท์
ทั้งหมดใช้เวลาคุยงานกันจนถึงเที่ยงพอ
ดี"วันนี้ผมขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวเที่ยงสักมือนะครับ"ปฐวีกล่าว
"ยินดีครับ"ประเสริฐกล่าว
"คุณประเสริฐกับคุณปิ่นอยากทานอะไรเป็นพิเศษไมค่ะ"มายมิ้นเอ่ยถาม
"รบกวนนิดหนึ่งค่ะ อันนี้เป็นรายการอาหารที่คุณประเสริฐแพ้นะคะฝากกำชับให้นิดนึ่งส่วนปิ่นได้หมดค่ะ"ปิ่นพูดพร้อมกับส่งยื้มมาให้แบบรู้กันว่าเลขาอย่างเราเรื่องมากไม่ได้ มายมิ้นรับรายละเอียดในกระดาษมาอ่าน
"มิ้นขอตัวสักครู่นะคะ"แล้วเดินออกไป
ประเสริฐมองเห็นสายตาของปฐวีนักธุกิจรุ่นน้องมองตามเลขาสาวออกไปก็ได้ทันทีว่าต้องมีอะไรพิเศษมากกว่าเลขากับเจ้านาย
"คุณมิ้นเก่งนะครับ ทำงานเก่งรอบครอบดีแถมยังสวยด้วย" ประเสร็ฐกล่าว เธอเก่งจริงเพราะถ้าเป็นอย่างที่เขาคิดตั้งเเต่นั้งคุยงานอยู่ด้วยกัน เธอไม่พยายามเเสดงตัวเลย
"ขอบคุณครับ"ก็หน้าบานไปเลยสิค่ะท่านประธาน
ทางด้านมายมิ้นเธอเดินมาจัดการเรื่องอาหารและกำชับทุกอย่างห้ามพลาดแม้เเต่นิดเดียว เรื่องแพอาหารถือว่าเป็นเรื่องอันตราย
....ทุกการกระทำของมายมิ้นตกอยู่ในสายตาของศศิผู้จัดการสาขาสาว
"คุณเลขาค่ะ"มีเสียงเรียกจากด้านหลัง
"คะ"เธอหันมาตอบรับ
"ท่านประธานให้มาบอกคุณเลขา ว่าให้ไปดูของขวัญให้แขกของท่านประธานหน่อยค่ะ"มายมิ้นขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอไม่เห็นปฐวีพูดถึงเลย จะโทรกลับไปถามเธอก็ดันไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาด้วย
"ไปดูที่ไหนค่ะ"มายมิ่นเอ่ยถาม
"เชิญตามมาได้เลยค่ะ"พนักงานหญิงกล่าวแล้วเดินนำออกมา เดินมาที่แผนกทำความสะอาด
"ที่นี้หรอค่ะ"มายมิ้นถามขึ้นอีกครั้ง
"ใช่ค่ะ อยู่ในห้องตรงนั้นค่ะ"
พนักงานเดินนำมายังห้องเล็กๆสุดทางเดิน มุมบรรไดหนีไฟ พนักงานสาวไปยืนรออยู่หน้าประตูอยู่แล้วมายมิ้นจงเดินเข้าไปใกล้ๆทันได้นั้นเธอก็ถูกพลักเข้าไปในห้องเล็กนั้น
(พลักกกก..โครมมม)
"ว้ายยย.."มายมิ้นล้มลงกับพื่นข้างใน ค่อนข้างมืด เธอรีบลุกขึ้นมาที่ประตู พยายามดึงประตูออก แต่ก็ไม่เป็นผล
"เปิดนะ ใครอยู่ข้างนอกเปิดประตู้เดียวนี้นะ"เงียบไม่มีเสียงตอบรับ พอสายตาปรับกับสภาพแสงในห้องได้เเล้าเธอมองสำรวจภายในห้องเป็นห้องเก็บของ ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน มีความอับชื้น เธอพยายามหมุนลูกบิดอีกครั้งแต่ก็ไม่ป็นผล
"ช่วยด้วย มีใครอยู่ข้างนอกไม" ไม่มีเสียงตอบรับ ยิ่งตอนนี้พนักงานกำลังออกไปพักเที่ยงด้วย เธอจะทำยังไงดี คุณปฐวีช่วยมิ้นด้วย แต่เขาจะรู้ได้ไงว่าเธออยู่ไหน
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ภานห้องหยุดสนทนาโดยอัตโนมัติ
"ขออนุญาตค่ะ"แต่เสียงและเจ้าของเสียงสร้างความเเปลกใจให้กับทุกคนในห้องไม่น้อยโดยเฉพาะปฐวี
"อาหารพร้อมแล้วค่ะ"พร้อมกับส่งยิ้มมาให้
"ทำไมเป็นคุณ"ปฐวีถามขึ้น
"เออออ..คุณเลขาให้ศศิมาบอกคุณปฐวีค่ะ"
"แล้วคุณมิ้นไปไหน"ชายหนุ่มถามขึ้น
"ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เธอสั่งงานเสร็จก็เดินออกไปเลยค่ะ"
ปฐวีขมวดคิวทันที เป็นไปไม่ได้ถ้ามีอะไรมายมิ้นจะต้องรายงานเขาก่อนทุกครั้ง
แม้กระทั่งเธอจะทำธุระส่วนตัวเธอยังแจ้งเขาเลยในเวลางานเธอไม่เคยทำอะไร
โดยพลการ
"เดียวเชิญที่โต๊ะอาหารเลยนะครับ
"ปฐวีกล่าว แต่สีหน้าแสดงความวิตกแบบปิดบังไม่มิด
"ถ้าคุณวีไม่สะดวก เอาไว้วันหลักก็ได้ครับผมเข้าใจดี"
คุณประเสร็ฐกับเลขาส่งยิ้มให้บอกให้รู้สบายใจได้ พวกเขาเข้าใจสถานการณ์ดี
"งั้นผมต้องขอโทษด้วยนะครับ โอกาสหน้าขอผมได้แก้ตัวอีกครั้งนะครับ"
"ได้เลยครับไม่มีปัญหา ยังไงวันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ"
"สวัสดีครับ"ปฐวีกล่าวพร้อมกำยกมือสวัสดิ์
"สวัสดีครับ"คุณประเสร็ฐตอบกลับ
หลังจากแขกกลับไปแล้ว ปฐวีรีบกด โทรศัพท์เข้าเบอร์เลขาของเขา
ตืนๆ.....
มีเสียงสั้นอยู่ในกระเป๋าสะพายของหญิงสาว กระเป๋าไม่ได้เอาไป โทรศัพท์ไม่ได้เอาไปแล้วเธอจะไปไหนได้ เริ่มไม่ใช่เรื่องดีแล้ว
"คุณปฐวีจะรับอาหารเลยไมค่ะ"ศศิยืนมองประเมินสถานการณ์ว่าจะเป็นแบบ
ไหนเธอเริ่มใจไม่ดียิ่งเห็นสีหน้าท่านประธานมันทำให้เธอเริ่มกล้ว ผลที่จะตามมา
ปฐวีคลบกามแน่น มองหน้าศศิ
"ผมจะถามคุณอีกครั้งว่ามายมิ้นอยู่ไหน"
"ม..ไม่ทราบค่ะ"ศศิตอบแบบไม่กล้าสบตาปฐวี ชายหนุ่มคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ผู้ช่วยของเขาที่อยู่ประจำสาขานี้
"มาพบผมหน่อยด่วนที่สุดและตามหัวหน้า รปภ มาด้วย"พูดจบก็ตัดสายทิ้ง
ศศิเริ่มทำตัวไม่ถูก สถานการณ์เริ่มไม่ดี
"ศศิช่วยออกไปตามหาคุณมิ้นให้นะคะ"
หล่อนกล่าวขึ้น ขอออกไปจากตรงนี้ก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะเอาไงดี
"คุณอยู่นี้แหละคุณศศิ เชิญนั้งลง"
ศศิหน้าถอดสี เธอรู้ทันที่ว่าเธอตกเป็นผู้ต้องสงสัย
"แต่ว่า..."
"ผมสั่งให้คุณ...นั้งลง"ท้ายประโยคเขาเน้นเสียงต่ำเพื่อพยายามระงับอารมณ์