ติ๊งงง....
เสียงประตูลิฟท์เปิดออก ปฐวีและ
มายมิ้นขึ้นมาถึงห้องพัก
"คุณเจ็บตรงไหนหรือป่าว"ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อทั้งสองก้าวเข้ามาในห้องแล้ว
เขาจับหญิงสาวหมุนไปมาเพื่อสำรวจ บาดแผล
"เจ็บมือค่ะ"ปฐวียกมือหญิงสาวขึ้นดูมีรอยถลอกตรงฝ่ามือ
"น่าจะโดนอะไรสักอย่างที่มิ้นล้มตอนโดน ผลักเขาไป"หญิงสาวกล่าว ปฐวีได้ยิ้นแบบนั้นเขายิ่งรู้สึกโกรธ เขาจะทำให้ศศิได้รับบทเรียนที่สาสม
เขาพาหญิงสาวไปนั้งที่โซฟา แล้วเดินไปหยิบ อุปกรณ์ทำแผลออกมาทำแผลให้หญิงสาว
"คุณเจ็บตรงไหนอีกหรือป่าว"
"ไม่มีแล้วค่ะ"
ชาบหนุ่มเก็บอุปกรณ์ทำแผลเข้าที่แล้วนั้งลงโซฟาข้างหญิงสาว เขาสอดมือเข้าไปโอบเอวหญิงสาวไว้แล้วดึงหญิงสาวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอน
"เอาเปรียบมิ้นอีกแล้วนะคะ"หญิงสาวทักทวงแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
"ขอกอดหน่อยนะครับ"ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
"ว่าแต่ถ้าคุณปรเมศถอนหุ้นออกจะไม่มีผลกระทบกับคุณหรอค่ะ"หญิงสาวอดเป็นห่วงไม่ได้
"ท่านประธานของคุณรวยมากนะครับ หุ้นแค่นั้นไม่มีผลอะไรกับผมหรอก คุณไม่ต้องกังวล"
"จะไม่ใจร้ายกับพวกเขามากเกินไปใช่ไมค่ะ"
"ไม่มีคำว่ามากเกินไป สำหรับสิ่งที่พวกมันบังอาจทำกับคุณ"เขาดึงหญิงสาวเข้า
มากอดแน้นขึ้น ราวกับกลัวว่าหญิงสาวจะหายไป ทั้งคู่เงียบไปพักหนึ่ง
"คุณวีค่ะ"
"ครับ"ชายหนุ่มตอบรับเสียงละมุน
"มิ้นนนนน...."ปฐวีรีบมองหน้าหญิงสาวว่าเธอจะบอกอะไรหรือว่าเธอเจ็บตรงไหน
"มิ้นหิวค่ะ"พูดด้วยรอยยิ้ม
"หิว..."ชายหนุ่มขมวดคิ้ว
"ใช่ค่ะหิวมากกกกก"สำหรับเธอของกินจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง
ปฐวีอมยิ้ม
"ได้ครับคุณอยากทานอะไร เดี๋ยวโทรสั่งให้เขาขึ้นมาเสิร์ฟให้"มายมิ้นขยับตัวออกห่างปฐวีนิดหนึ่ง
"มิ้นขอเป็นข้าวกับกับข้าวสัก 2-3อย่างนะคะ"พูดพร้อมกับตาเป็นประกาย
"ได้ครับ จะกินกี่อย่างก็ได้ผมเลี้ยงคุณไหวอยู่แล้ว"ปฐวีพูดอย่างเอ็นดู
หลังกินข้าวเสร็จ
"เดี๋ยวผมจะลงไปเคลียร์งานที่ ออฟฟิศคุณพักผ่อนอยู่นี้แหละ ตอนเย็นเราต้องไปงานเลี้ยงกันต่อ พรุ่งนี้เช้าคงต้อง
กลับเลยผมมีประชุมด่วนที่ออฟฟิศใหญ่
ตอนบ่ายสาม"
"ให้มิ้นลงไปด้วยนะคะ มิ้นเป็นเลขาจะมานอมพักให้เจ้านายไปทำงานได้ไงค่ะ"
"เจ้านายสั่งให้พักครับ เสร็จงานแล้วผมจะรีบขึ้นมา"
จุ๊ฟฟฟ..
ชายหนุ่มก้มลงมาหอมแก้วหญิงสาว ทีเผลอ
"ขอกำลังใจก่อนไปทำงาน"พูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไปทันที อย่างอารมณ์ดี
มายมิ้นยกมือลูบแก้มหน้าแดงเป็นลูกตำลึง
ปฐวีกลับขึ้นมาบนห้องก็เกือบหกโมงเย็นแล้ว
ทั้งคู่เตียมตัวไปรวมงาน
เลี้ยงสมาคมนักธุรกิจ มายมิ้นมาในชุดราตรี
เกาะอกกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อน แต่งระบายด้วยผ้าชีฟอง เกล้าผมขึ้นไว้ที่ท้ายทอย เครื่องประดับเป็นเซตต่างหู กับสร้อยคอเข้ากัน วันนี้มายมิ้นเเต่งหน้า เข้มกว่าปกตินิดหน่อย ยิ่งเสริมให้ดูสวย โดดเด่นขึ้นไปอีก
ปฐวีมองหญิงสาวด้วยสายตาที่พอใจมากถึงมากที่สุด ในตาเป็นประกาย เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
"เลิกมอกได้เเล้ว"หญิงสาวพูดขึ้นเขามองจนเธอก้าวเท้าไม่ออกแล้ว
"สวยมากครับ"ชายหนุ่มพูดขึ้น
"วันนี้ท่านประธานก็หล่อค่ะ"หญิงสาวเอ่ยตอบ ชายหนุ่มมาใน ชุดสูทสีน้ำเงินเข้มสวบทับเชิ้ตสีขาวด้านในผูกหูกระต่ายสีน้ำเงิน ทรงผมที่เซ็ทมาอย่างดี ยิ่งดูหล่อเข้มบาดใจเข้าไปอีก
งานเลี้ยง...
ปฐวีเดินคู่มากับเลขาสาวแสนสวย ทั้งคู่ตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายๆคน ปฐวีนั้นทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว ท่านประธานหนุ่ม นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง กล้าได้กล้าเสียในแวดวงธุรกิจไม่มีใครอยากมีปัญหากับเขา และเป็นที่หมายตาของ
บรรดาสาวๆของลูกนักธุรกิจ บางคนก็อยากเป็นทองแผ่นเดียวกัน เรือล่มในหนองทองจะไปไหน บางคนก็หวังให้เขามาช่วย กอบกู้ธุรกิจ ใครได้เขามาเป็นลูกเขย สบายไปทั้งชาติ
แต่วันนี้ทุกคนต่างแปลกใจที่เขามากับหญิงสาวเเสนสวย ที่ไม่มีใครรู้จัก ปกติปฐวีไม่เคยควงผู้หญิงคนไหนออกงาน สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนไม่น้อย สาวน้อยสาวใหญ่ในงานต่างมองด้วยความ อิจฉาหญิงสาวที่ได้เดินเคียงคู่มากลับชายหนุ่ม
"สวัวดีครับคุณอา"ชายหนุ่มเอ่ยทัก
ชายอาวุโสท่านหนึ่ง
"สวัสดีตาวีคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างไงบ้าง"
"ท่านทั้งสองสบายดีครับ คุณอาละครับสบายดีไม"
"อาสบายดี สบายดีตามกาลเวลานั้นแหละ พอเริ่มแก่ตัว ก็เริ่มมีโรคภัยไข้เจ็บเข้ามา"ชายอาวุโสกล่าวยางอารมณ์ดี
"แล้วแม่หนูข้างหลังนั้น"
ชายอาวุโสมองไปด้านหลังของชายหนุ่มลูกชายเพื่อนของเขา ที่เขาเองก็แอบหมายตาไว้ให้ลูกสาวเขาไว้อยู่เหมือนกัน
"คุณมิ้นนี้คุณอาประจักษ์ เป็นเพื่อนกับคุณพ่อผม"
"สวัสดีค่ะ"หญิงสาวยกมือไหว้
"มายมิ้นเธอเป็นเลขาผมครับ"ปฐวีกล่าวขึ้น
"ไหว้พระเถอะหนู" คุณประจักษ์เอ่ยขึ้น
"ไปเถอะ..เข้าไปข้างในกัน" ผู้อาวุโสกล่าวขึ้น
"งั้นผมขอตัวก่อนครับ"ปฐวีกล่าว พร้อมกับเดินนำมายมิ้นเข้าไปในงาน
คุณประจักษ์มองตามชายหนุ่มกับหญิงสาวเข้าไปในงาน คนที่อาบน้ำร้อมมาก่อนอย่างเขาก็พอจะมองออกว่าท่านประธานหนุ่มคิดยังไงกับเลขาสาว ความรักมันบังคับกันไม่ได้เจาเข้าใจดี
"ว่าไงไอเสือ"เสียงกำพลดังขึ้น
"มาถึงเร็วดีนี้"ปฐดีเอ่ยทักเพื่อน
"หนุ่มโสดอย่างฉันก็มาหาอะไรที่มัน เจริญหูเจริญตามองมั่งสิวะ สวัสดีครับคุณมิ้นวันนี้คุณมิ้นสวยมากเลยนะครับ"
ท้ายประโยคกำพลหันไปพูดกับมายมิ้น
"ขอบคุณนะคะ วันนี้คุณพลก็หล่อค่ะ"
มายมิ้นพูดพร้อมกับส่งยิ้มไปให้
"คงหล่อสู้ท่านประธานของคุณมิ้นไม่ได้หรอกครับ"กำพลกล่าวยิ้มๆ ปฐวีส่ายหัวให้กับความกวนของเพื่อน
"ไอกวีมาพอดีเลย ทางนี้"กำพลพูดพร้อมกับยกมือบอกตำแหน่งให้เพื่อนเห็น
"มาช้าจังวะ"กำพลถามเพื่อนผู้มาใหม่
"กูมีงานมีการนะโว้ย ใครจะไปเหมือนมึงละ"กวีกล่าว
"เอ้าาา..ไอนี้กูถามดีๆ"มายมิ้นหัวเราะให้กับคู่เพื่อนสนิท
"คุณมิ้นสวยมากเลยครับวันนี้"กวีเอ่ยทัก
"สวัสดีค่ะคุณกวี แล้วทุกวันไม่สวยหรอค่ะ"หญิงสาวเอ่ยขึ้นยิ้มๆ
"ผมคงต้องไปหากาแฟที่โรงเเรมไอวีกันทุกวันแล้วครับจะได้ดูด้วยว่าคุณมิ้นสวยทุกวันหรือป่าว"กวีพูดหยอก
"กาแฟบริษัทมึงไม่มีแดกหรือไง"ปฐวีพูดขึ้น
"โห้...ไอวีกูหย่อกมึงจะเเรงเพื่อ"กวีกล่าวตัดพ้อเพื่นอแบบไม่จริงจัง
"สวัสดีครับคุณปฐวี"มีเสียงดังมาจากด้านหลังของชายหนุ่ม
"สวัสดีครับคุณอภิสิทธิ์"
"ไม่คิดว่าจะเจอคุณปฐวีที่นี้นะครับ" อภิสิทธิ์กล่าว
"พอดีผมมาตรวจงานที่สาขานี้พอดีครับ"
"ยังงี้นี้เอง...แล้วสุภาพสตรีท่านนี้"
อภิสิทธิ์ตั้งใจ เว้นระยะในการพูด
"มายมิ้นครับเลขาผม"ปฐวีกล่าวแนะนำ
อยางไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก แวดวงนี้ก็มีทั้งเสือทั้งแต่จระเข้ บางคนรู้จักไว้ก็พอแต่ไม่ควรสนิทด้วย อภิสิทธิ์เป็นหนึ่งในนั้น
"สวัสดีครับคุณมายมิ้น แค่ชื่อก็รู้เลยว่าหอมแน่นอน ผมอภิสิทธิ์ครับ"อภิสิทธิ์พูดพร้องกับยกมือรอการสัมผัสทักทายแบบสากล
"สวัสดีค่ะคุณอภิสิทธิ์"มายมิ้นกล่าวขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปสัมผัสกับมืออภิสิทธิ์ อย่างเลี่ยงไม่ได้ ปฐวีหน้าตึงขึ้นมาทันที
"เห็นทีผมคงต้องร่วมธุรกิจกับคุณปฐวีแล้วละจะได้เจอหน้าสวยๆของเลขาคุณปฐวีบ่อยๆ"อภิสิทธิ์พูดขึ้น และยังจับมือหญิงสาวไว้แน่น ปฐวีเห็นแบบนั้นจึงดึงหญิงสาวให้ถอยไปข้างหลังเขา
"อย่าเลยครับคุณอภิสิทธ์ คุณกับผมมันเส้นขนานกันอยู่แล้วทางใครทางมันดีกว่าครับ"ปฐวีกล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างชัดเจน
"ทำไมรีบตัดเยื่อใยกันขนาดนั้นละครับ
แต่ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณปฐวีไล่คุณเลขาออกวันไหนมาสมัครกับผมนะครับ รับรองผมให้ค่าตอบแทนสูงแน่นอน"ประโยคหลังเขาหันไปมองเลขาคนสวย แล้วเดินออกไป
"พี่วีขาาาาา"
เสียงเเหลมเล็กดังมาแต่ไกล
"ความวัวยังไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรกจีริงๆเลยไอวีเอ้ยยยย"
กำพลพูดขึ้น
"พี่วีมาถึงเเล้วทำไมไม่เข้าไปหาฤดีกับคุณแม่ละคะ"หญิงสาวนามว่าฤดีพูดพร้อมกับเดินมาเกาะแขนปฐวีไว้
"เมื่อกี้คุณป้าโทรมาด้วยนะคะ ถามฤดีว่าเจอพี่วีหรอป่าว ถ้าคุณป้าไม่โทรมาฤดีก็ไม่รู้ว่าพี่วีมางานนี้ด้วย"หญิงสาวทำหน้า จะเหงาก็งอนชายหนุ่ม มายมิ้นได้แต่ยืนมองการกะทำของหญิงสาวมาใหม่โดยที่ท่านประธานของเธอก็ยืนนิ่งให้เธอเกาะแขน
"พี่พึ่งมาถึงสักพักเอง"ปฐวีตอบ
"งั้นเราเข้าไปหาคุณแม่กันค่ะ คุณแม่บ่นคิดถึงพี่วีด้วย"พูดพร้อมกับลากแขนปฐวีออกไป ปฐวีไม่ทันตั้งตัวได้แต่ส่ง สัญญาณมือให้ช่วยดูเเลมายมิ้นด้วย
มายมิ้นได้แต่มองตามและยืนงงอยู่กับที่
"คุณมิ้นมานั้งตรงนี้ก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวไอวีมันก็มา"กวีเอ่ยขึ้น
"ค่ะ"มายมิ้นตอบสั้นๆแล้วนั้งลงไปข้างๆกวีเธอพยายามไม่คิดมาก ไม่อยากให้ เสียบรรยากาศในการพูดคุยกับสองหนุ่มตรงหน้า งานนี้มีแต่นักธุรกิจรายใหญ่ มายมิ้นเองไม่รู้จักใคร แต่ก็มีหนุ่มๆเขามาทักทายขอชนแก้วกับเธอบ่าง พวกเขาเห็นเธอถามคำตอบคำก็ค่อยๆถอยออกไป ตอนนี้กำพลกับกวีก็คุยธุรกิจอยู่กับหุ้นส่วน เธอจงนั้งเหงาอยู่คนเดียว
"เธอสินะเลขาพี่วี"
มายมิ้นหันไปตามเสียง
"ฉันฤดี เป็นคู่หมั่นของพี่วีเธอควรรู้จักไว้นะ"มายมิ้นตัวชาไปหมด หูอื้อไปชัวคราว
(คู่หมั่นงั้นหรอ)ทำไมเขาไม่เคยบอกเธอเลย
"พี่วีเขาคงโกรธฉันที่ไม่ยอมกลับมาสักที
หลังเรียนจบฉันมัวแต่เที่ยวอยู่ที่อังกฤษ พ่อแม่ของพวกเราหมั่นพวกเราไว้นานแล้ว เราทั้งสองบ้านต่างเป็นครอบครัวนักธุรกิจ มีปัญหาอะเราก็ช่วยกันได้ ยังไงเธอช่วยพูดให้พี่วีหายโกรธฉันหน่อยนะ"
(เข้าใจแล้วเธอเข้าใจทักอย่างแล้ว )
มายมิ้นยิ้มออกมา ยิ้มให้กับความโง่ตัวเอง
"สวัสดีค่ะคุณฤดี"มายมิ้นพูดขึ้น
พอดีกับปฐวีเดินเข้ามา
"คุยอะไรกันอยู่หรอ"ปฐวีเอ่ยถาม
"ป่าววว..หรอกค่ะ พี่วีคุยกับคุณแม่เสร็จแล้วหรอค่ะ"ฤดีรีบพูดขึ้น
"ครับพอดีคุณอามีแขก"
ชายหนุ่มทำท่าจะหันมาพูดกับมายมิ้นแต่ถูกฤดีขัดขึ้นก่อน
"เราไปทางโน้นกันดีกว่าพี่วีเพื่อนฤดีเขาอยากรู้จักพี่วีกันค่ะ"พูดเสร็จเขาก็ลากแขนชายหนุ่มไป
มายมิ้นน้ำตาครอ...แต่ก็พยายามข่มไว้ เขาเป็นใครแล้วเธอเป็นใครเจ็บสะให้พอยายมิ้นเธอมันโง่เอง นั้งคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างเธอกับเขามันคืออะไร