#เวลาต่อมา
ที่บ้านของพรรณรายามีงานเลี้ยงวันเกิดของพ่อเธอ ซึ่งก็จัดเหมือนทุกปี ส่วนมากเป็นพวกเพื่อน ๆ ของพ่อเธอมากกว่าที่มาร่วมงาน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จะได้เจอกับลูกสาว ลูกชาย ของเพื่อน ๆ พ่อแม่เธออยู่บ้างเหมือนกัน
ตอนเด็ก ๆ ได้เจอกันบ่อย พอโตขึ้นก็ไม่ได้เจอกันเท่าไหร่ บางคนจำหน้าไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคนอื่น ๆ ที่ไม่อยากเจอหน้าใครเท่าไหร่ ถ้าพ่อกับแม่ไม่ขอร้องเธอก็คงไม่ลงมาแบบนี้หรอก
"สวัสดีค่ะคุณหญิง หนูพรรณรายาโตเป็นสาวแล้วสวยเหมือนคุณหญิงตอนสาว ๆ เลยนะคะ"
"ขอบคุณนะคะคุณหญิง เชิญข้างในก่อนนะคะ"
"หวัดดีจ้ะคุณหญิง หนูรายา จำป้าได้หรือเปล่า"
"คุณป้าศรีวรรณไงลูก"
"อ๋อ สวัสดีค่ะคุณป้า สวยขึ้นมากเลยนะคะ หนูจำแทบไม่ได้แน่ะ"
"หืม ปากหวาน มีแฟนหรือยังเนี่ยเรา"
"แหะ ๆ ยังเลยค่ะ"
"ดีแล้ว ๆ ยังไม่ต้องรีบมีหรอก ตัวคนเดียวน่ะ สบายกว่าเยอะ"
"เชิญข้างในก่อนนะคะคุณหญิง"
"จ้ะ ป้าเข้าไปก่อนนะ"
"ตามสบายเลยนะคะคุณป้า"
พรรณรายาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เมื่อต้องมาช่วยผู้เป็นแม่ต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน ส่วนพ่อของเธอก็กำลังดูแลด้านในอยู่
บางครั้งก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมถึงไม่จัดเล็ก ๆ แค่สามคนพ่อแม่ลูก ตามประสาครอบครัว แต่ทุกปีก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่ที่เธอจำความได้
"รู้จักพูดเหมือนกันนะเราน่ะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยแซว
"ก็จำเขามาอีกทีค่ะ"
"ดีสิ หัดพูดอะไรแบบนี้บ้าง ดีกว่าเอาแต่หน้าบูด ไม่สมกับเป็นคนสวยเลย"
"....." พรรณรายาไม่ได้ตอบ เธอได้แต่ยิ้มตอบรับ
ตั้งแต่มีเพื่อนอย่างปลาหวาน เธอก็เริ่มพูดเก่งมากขึ้น เริ่มเงยหน้าสบตาคนอื่นเวลาพูด ตอนพูดจาตอบกลับคนอื่นก็ไม่ห้วนเหมือนประชดประชัน
"สวัสดีครับคุณน้า"
"สวัสดีจ้ะ นึกว่าจะไม่มาแล้วนะเนี่ย เห็นแต่แม่ของเรา"
เสียงนั่นคุ้นมาก ๆ เลย เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ได้ยินจนคุ้นหู จนเธอนั้นต้องรีบเงยหน้าขึ้นมอง
นั่นมัน...
"พี่นุ"
"หวัดดีรายา"
"....." เธอกำลังตกใจอยู่ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ตกลงแล้วเขารู้จักกับครอบครัวของเธอด้วยงั้นเหรอ ที่ผ่านมาเจอกันก็บ่อย แต่ไม่เห็นเขาพูดอะไรเลย
"รู้จักเหรอลูก ?"
"ก็พี่เขาเป็นรุ่นพี่ปีสอง ที่คณะของรายาเองค่ะ"
"งั้นเหรอ ดีเลยนะ"
"....." ดีเหรอ พูดดูมีเลศนัยยังไงก็ไม่รู้แฮะ อะไรกันที่ว่าดี เป็นเพราะรู้จักกันเหรอที่ว่าดี
"เข้าข้างในกันเถอะ แขกน่าจะมากันครบแล้ว จะได้เริ่มงานเลี้ยง"
"ค่ะ"
เธอเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับผู้เป็นแม่ แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่ร่วมในวงของงานเลี้ยง
"ไม่คิดเลยนะ ว่าเราจะกลายเป็นคนรู้จักกัน"
"พี่นุ"
"เราเคยเจอกันตอนเด็ก ๆ แค่ครั้งสองครั้ง แล้วก็ได้มาเจอกันอีกทีก็ตอนนี้"
"นั่นสิคะ มิน่า ฉันถึงจำพี่ไม่ได้ แม้แต่คุณป้าศรีวรรณก็ยังจำแทบไม่ได้"
ได้ยินมาว่าสองแม่ลูกคู่นี้ย้ายไปอยู่ต่างประเทศด้วยกันตั้งแต่ที่ภานุยังเด็ก ๆ เด็กมากเลยแหละ ไม่ได้เจอกันร่วมสิบกว่าปีเลยก็ว่าได้
"เวลามันผ่านไปเร็วนะ พริบตาเดียว ก็ผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว"
"นั่นสิ เร็วมากเลยนะคะ"
"ดื่มไหม ?"
"ไม่ดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้เช้าต้องไปเรียน"
"ให้พี่มารับไหม"
"เอ่อ ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ" ใจจริงก็อยากให้มารับนะ แต่เธอก็ยังไม่ชินจริง ๆ ถ้าต้องไปไหนมาไหนกับเขา เพราะปกติเวลาไปข้างนอกเธอชินกับการมีคนขับรถพาไปมากกว่า
"รบกวนอะไร บ้านเราทางผ่านบ้านพี่นะ"
"ฉันไปเองสะดวกกว่าค่ะ"
"งั้นก็ตามใจ เด็กน้อย"
งานเลี้ยงของพ่อเธอนั้นดำเนินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งดึก บางคนก็พากันกลับแล้ว แต่บางคนก็ยังอยู่ ส่วนเธอนั้นไม่อยากฝืนร่างกายอยู่ด้วยแล้ว พรุ่งนี้ตอนเช้าต้องตื่นไปเรียนอีก
"ฉันจะขึ้นนอนก่อนแล้ว พี่เองก็กลับบ้านดี ๆ นะคะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ที่มหาลัย"
"อื้อ.."
"ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ส่งนะคะ ฉันง่วงแล้ว"
"ตามสบาย พี่ไม่คิดมากหรอก ไปพักเถอะ"
"ค่ะ"
***************
#เช้าวันต่อมา
"วันนี้ไปเรียนยังไง" ผู้เป็นแม่เอ่ยถามขึ้น
"ถามแปลก ก็ไปเหมือนเดิมไงคะ หรือคุณแม่จะให้รายาขับรถไปเอง"
"เปล่า สนิทกับพี่เขาแล้วไม่ใช่เหรอ พี่เขาไม่มารับเหรอ ?"
"แปลก แปลกมาก คุณแม่มีอะไรปิดบังอยู่กันแน่คะ บอกรายามาเดี๋ยวนี้นะคะ" พรรณรายาหรี่ตามองเค้นเอาคำตอบกับแม่และพ่อที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารอยู่ด้วยกัน
"ลูกโตแล้ว ไม่ต้องปิดแล้วล่ะคุณ บอกไปเถอะ" ผู้เป็นพ่อพูด
"ครอบครัวเรา กับครอบครัวของคุณป้าศรีวรรณ ตกลงสัญญากันว่าจะให้เราสองคน หมั้นหมายกัน แต่งงานกัน"
" ??? " เธอตกใจมาก เพราะไม่คิดว่ายุคนี้จะมีการหมั้นหมายแบบคลุมถุงชนอย่างนี้อยู่ ถึงเธอจะไม่คิดปฏิเสธอะไร แต่ถ้าสมมติว่าเธอไม่ได้คิดหรือชอบเขาอยู่แล้ว จะรู้สึกยังไง ถ้าต้องแต่งงานกัน
แต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก มันไม่โคตรจะทรมานเลยเหรอ
"เราตกลงกันเอาไว้ ถึงเวลาก็จะให้เด็ก ๆ ตัดสินใจกันอีกที แต่ดูเหมือนว่าลูกสาวเรา..." ผู้เป็นแม่ชายตามอง และทำให้พ่อของเธอนั้นมองตามด้วยเช่นกัน
"อะไรเหรอคุณ ??"
"มีเด็กสายตาแพรวพราวเวลามองหนุ่มน่ะสิ"
"คุณแม่ รายาไม่อยากคุยด้วยแล้วค่ะ จะไปเรียนแล้ว" เธอรีบหลบหน้าด้วยความเขิน คิดอะไรงั้นเหรอ บอกไม่ถูกเหมือนกันสิ จะว่าชอบแบบนั้นก็ได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ใจของเธอมันก็เต้นแรงตลอดเวลาที่ได้เจอกับเขา
"เดี๋ยว ๆ ยังไม่ถึงเวลาเลย ลุงศักดิ์ยังเช็ดรถอยู่ นั่งลงตอบคำถามแม่ก่อน"
"ตะ ตอบอะไรกันคะ รายาไม่มีอะไรให้ทั้งนั้นแหละค่ะ"
"ชอบพี่เขาหรือเปล่า"
"เปล๊า"
"แล้วรู้สึกยังไง ที่ได้รู้ว่าเรากับพี่เขา เป็นคู่หมั้นกัน"
"ก็ตกใจค่ะ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้อยู่ในยุคแบบนี้อีก"
"มันไม่เห็นจะแปลกเลย แม่อยากให้เราเจอคนดี ๆ แล้วพี่เขาก็ดีและเพียบพร้อมมาก"
"......" เธอรู้ดี เรื่องนี้เธอรู้ดี เขาดีและแสนดี นอกจากคำว่าดีมากแล้ว เธอก็ไม่รู้จะเรียกเขาว่ายังไงอีกเหมือนกัน
ผู้ชายที่ดีและเพียบพร้อมแบบนั้น ใครบ้างจะไม่ชอบ ปลาหวานเคยบอกให้เธอระวัง ถ้าเจอผู้ชายที่ดูแววแล้วน่าจะเป็นเสือผู้หญิง ให้รีบออกห่างจากคนนั้น แต่เขาคนนี้ไม่ใช่เลย เขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ถึงจะหน้าตาดีและเพียบพร้อม แต่ก็ใช่ว่าจะสนใจเรื่องมายาพวกนั้น เหมือนจะสนใจแค่เรื่องเล่าเรียนมากกว่า
"แม่บอกให้รู้ไว้ จะได้ไม่เกร็งเวลาเจอพี่เขาอีก"
"ก็ไม่ได้เกร็งเท่าไหร่ค่ะ"
"ส่วนพี่เขาน่าจะรู้เรื่องนี้แล้ว"
อ้อ เพราะแบบนี้เองน่ะเหรอ ที่ชอบพูดแปลก ๆ ตอนที่อยู่กับเธอเมื่อคืนนี้ เพราะรู้เรื่องนี้ก่อนแล้วนี่เอง
ว่าแต่เขารู้สึกยังไงล่ะ