บทที่ : 04 งานหมั้น

1411 คำ
#มหาวิทยาลัย "ห๊า ?! เธอจะหมั้น เรื่องจริงเหรอ ?" ปลาหวานเพื่อนสนิทร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับลุกพรวดขึ้นยืนตามสไตล์คนโก๊ะ ๆ แบบเธอ จนคนรอบข้างนั้นพากันหันมองอย่างตกใจ "อื้ม" พรรณรายาพยักหน้ายืนยันคำตอบให้กับเพื่อนสนิท "หมั้นหมายกันไว้แต่เด็กแล้ว เราเองก็เพิ่งรู้" "ดูไม่ตกใจเลยนะ ไม่ค้านเหรอ ?" "ไม่รู้สิ พี่เขาก็...ดูเป็นคนดี แถมไม่มีใครด้วย" ว่าก็ว่าเถอะเธอชอบเขาอยู่แล้ว พอทุกอย่างมันเป็นแบบนี้เธอกลับรู้สึกดีใจด้วยซ้ำ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ต้องแข่งกับใคร เขาคือคนของเธอ เพราะถูกหมั้นหมายกันไว้แล้ว เขาเองก็คงไม่กล้ามีใครหรือปฏิเสธเพราะกลัวครอบครัวเสียหน้าอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน หรือไม่ เขาก็คงจะคิดแบบเดียวกันกับเธอ นั่นก็คือ ชอบเหมือนกัน แป๊ะ !! เสียงดีดนิ้วดังแป๊ะ ทำเอาพรรณรายาถึงกับสะดุ้ง กระพริบตาถี่ ๆ มองหน้าเพื่อนสนิทที่เป็นฝ่ายกระทำ "เหม่ออะไรอยู่" "เปล่า ๆ แล้วมีอะไร ?" "แล้วเรื่องงานหมั้น เมื่อไหร่เหรอ ?" "ยังไม่รู้เลย เพิ่งรู้เองว่าเป็นคู่หมั้นกัน" "อ๋อ" "คงจะคบกันก่อน เรียนจบก็ค่อยแต่งงานกัน อนาคตอะไรก็เปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้น ใครจะไปรู้" "นั่นสิ แต่ก็น่าตกใจแฮะ" "ไม่คิดว่า ทุกวันนี้จะยังมีเรื่องแบบนี้อยู่" "แล้วถ้าคนนั้นไม่ใช่รุ่นพี่ที่ชื่อนุของเธอ จะยังยอมหมั้นอีกไหม" ปลาหวานถาม เพราะพรรณรายาบอกว่ายอมเป็นคู่หมั้นอย่างเต็มใจพอรู้ว่าเป็นเขา คนที่เธอชอบอยู่ "เป็นลูก ขัดพ่อแม่ไม่ได้หรอก" พรรณรายาตอบ "ก็จะยอมทั้ง ๆ ที่รู้ว่าจะไม่สิทธิ์เลือกคนรักเองน่ะเหรอ ?" "อยู่ด้วยกันไป เริ่มผูกพันธ์กัน ใกล้ชิดกัน เดี๋ยวก็รักกันเองแหละน่า" "เธอนี่หัวโบราณมากเลยนะรายา" "....." เรื่องนั้นเธอไม่ได้คิดด้วยซ้ำ ไม่รู้จะต้องคิดไปทำไม เพราะในเมื่อความจริงมันก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว ไม่รู้จะต้องคิดในแบบที่ไม่ใช่ความจริงเพื่อให้ตัวเองคิดลบกับพ่อแม่ทำไม พรรณรายารู้ดีว่าพ่อแม่ย่อมอยากให้ลูกได้ในสิ่งที่ดี ขึ้นอยู่กับว่าใครจะคิดยังไง แต่สำหรับเธอพ่อแม่คือคนที่หวังดีกับลูกที่สุด "เอาไว้ถ้าจัดงานหมั้นเมื่อไหร่ เราจะมาบอกนะ เธอต้องไปเข้าใจหรือเปล่า" "จะดีเหรอ เราไม่น่าเข้ากับ..." ปลาหวานทำสีหน้าหนักใจ เพราะฐานะที่ค่อนข้างต่างกันมาก ถึงจะคบกันที่มหาวิทยาลัยได้แต่ก็เพราะเพื่อนกัน แต่ถ้าจะให้ไปร่วมงานแบบนั้น ปลาหวานที่เป็นแค่ลูกแม่ค้าหมูปิ้งจะกล้าเทียบได้ยังไง "เธอต้องไปนะ พ่อแม่เราชอบเธอมาก และยินดีต้อนรับถ้าเธอไป พ่อแม่เราดีใจมากที่เรายอมมีเพื่อน" "จะ จริงเหรอ" "จริงสิ เราพูดเรื่องของเธอให้พ่อแม่ฟังตลอดเลย แถมบอกด้วยว่าเราชอบหมูปิ้งที่ร้านของแม่เธอ ช่วยอุดหนุนประจำเลย" "โอเค ๆ เรายอมไปก็ได้ อย่าลืมมาบอกนะ" "จ้ะ" ************* #เวลาต่อมา "รายา" ชายหนุ่มเดินเข้ามาหา เธอแอบตกใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะว่าวันนี้เขาไม่ได้มาเรียน แต่ตอนนี้กลับมาดักรอเจอเธอที่หน้าตึกคณะ "อ้าวพี่นุ วันนี้หยุดไม่ใช่เหรอคะ ?" "ครับ พี่มาหาเราแหละ" "มีอะไรหรือเปล่าคะ" "ไม่มีอะไร" " ??? " ไม่มีอะไรแต่มาหากันเนี่ยนะ จะให้เชื่อได้ยังไง "เลิกเรียนแล้วใช่ไหม" "ค่ะ" "ไปกันเถอะรถพี่จอดอยู่ทางนั้น พี่บอกที่บ้านให้แล้วว่าจะมาหา" พรรณรายาพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะหันไปบอกเพื่อนสนิทที่เดินลงมาพร้อมกัน จากนั้นก็แยกย้ายกันไป ...บนรถ "พี่อยากคุยเรื่องงานหมั้นของเรา" ภายในรถที่เงียบฉี่ ถูกกลบด้วยประโยคของชายหนุ่ม ก่อนจะเงียบลงอีกครั้ง จนได้ยินเสียงลมจากเครื่องปรับอากาศภายในรถ "เรื่องนั้นเองเหรอคะ" พูดเสียงแผ่ว "ใช่ พี่คุยกับแม่แล้วน่ะ" "ฉัน..." "พี่ไม่อยากบังคับ พี่เลยมาถาม ถ้ารายาไม่โอเค เราจะยกเลิกงานหมั้น" "ยกเลิก ?!" "ใช่ มันเป็นเรื่องที่ครอบครัวเราตกลงกันก็จริง แต่ตอนนี้เราโตแล้ว มีสิทธิ์เลือกและออกความเห็น ถ้าไม่โอเคก็แค่..." "แล้วถ้ารายาบอกว่าโอเคล่ะคะ" พรรณรายารีบพูดแทรก เพราะเธอโอเคกับเรื่องนี้ถึงไม่ได้คัดค้านอะไรเลย ซึ่งผิดกับนิสัยของเธอ ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้คนอย่างเธอก็จะค้านไปตั้งแต่แรกแล้ว "รายาโอเคเหรอ.." "ขอโทษนะคะ แต่ถ้ารายาคิดไปเองคนเดียว พี่นุไม่อยากหมั้น รายาก็จะไม่บังคับหรอกค่ะ รายารู้ว่าการทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ มันไม่มีความสุขเอาซะเลย ถ้าพี่นุไม่โอเค เรายกละ..." "พี่ก็โอเค.." ร่างบางหันขวับมองด้วยความตกใจ บวกกับประหลาดใจที่ได้ยินอย่างนั้น เขาโอเคแบบนี้นั่นก็หมายความว่าเขาเองก็มีใจชอบเธอเหมือนกันใช่ไหม "ที่พี่ถามก็เพราะกลัวเราไม่โอเค แต่ถ้าได้ยินแบบนี้พี่ก็สบายใจ เรื่องงานหมั้นแม่พี่บอกให้เราสองคนตกลงกันเอง ส่วนแต่งงานไว้ค่อยแต่งกันตอนเรียนจบก็ได้" "เรายัง...ไม่ได้เป็นแฟนกันเลยนะคะ" พูดอย่างเขิน ๆ "งั้นก็เป็นเลยซะสิ เป็นวันนี้เลย ตอนนี้เลยด้วย รายาเป็นแฟนกับพี่นะ" ภานุยื่นมือมาจับมือของเธอ กอบกุมไว้แน่นจนเธอรู้สึกถึงความร้อนจากฝ่ามือ ตัดกับบรรยากาศในรถที่เย็นเยียบเพราะเครื่องปรับอากาศที่เปิดไว้ตอนเข้ามานั่งกัน "พะ พี่นุ" "ที่รายาไม่ปฏิเสธ ก็เพราะชอบพี่ใช่ไหม" "อะ อื้อ.." ก้มหน้าลงแล้วพยักหน้าตอบ "งั้นก็เป็นแฟนกับพี่นะ พี่เองก็...ชอบรายามาตั้งแต่ตอนแรกที่เจอเหมือนกัน" มันง่ายไปหมดเลย ที่ผ่านมาพรรณรายาไม่เคยคิดชอบใครเลย ไม่เคยมีความรัก ไม่คิดว่าการได้ตกหลุมรักใครสักคนมันจะง่ายดายขนาดนี้ "ค่ะ รายาตกลงเป็นแฟนกับพี่ค่ะ" ******** หลังจากนั้นงานหมั้นระหว่าง พรรณรายาและภานุเดช ก็ถูกจัดขึ้นที่บ้านของฝ่ายหญิง เป็นงานที่ถูกจัดเงียบ ๆ และเล็ก ๆ ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เหมือนถูกจัดให้คนในครอบครัวและคนรอบข้างได้รู้ว่า ทั้งสองได้หมั้นหมายกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ไม่ใช่แค่ปากเปล่าที่สัญญากันไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน "ดีใจด้วยนะรายา" "ขอบใจนะปลาหวาน วันงานแต่ง เธอจะต้องมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เรานะ" "โอเคสิ ได้เลย" ปลาหวานตอนแรกก็แอบกลัว กลัวว่าคนที่บ้านของพรรณรายาจะไม่ชอบตัวเอง เนื่องจากตัวเองไม่ได้ไฮโซอะไรเป็นแค่ลูกแม่ค้าหมูปิ้งที่สอบได้ทุนเรียนฟรีจากมหาวิทยาลัย แต่พอมาถึงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ถึงได้รู้ว่าตัวเองนั้นกลัวแบบผิด ๆ มาตลอดเลย "หนูปลา วันนี้อยู่กินเลี้ยงด้วยกันก่อนสิลูก กลับไม่ไหวน้าจะให้แม่บ้านเตรียมห้องไว้ให้นอน" แม่ของพรรณรายาเดินมาพูดด้วยความอ่อนโยน "ขอบคุณมาก ๆ นะคะ แต่หนูต้องกลับไปช่วยแม่เตรียมของขายค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ" "ไม่เป็นอะไรจ้ะ งั้นถ้าจะไปตอนไหนก็บอกนะ น้าจะให้คนขับรถไปส่ง" "ขะ ขอบคุณค่ะ" "ตามสบายเลยนะ" "ค่ะ" บางทีการได้มีชีวิตที่ดีแบบนี้มันก็น่าอิจฉาเหมือนกันนะ พวกเขาดูมีความสุข ไม่ต้องเร่งรีบอะไรกับชีวิตเลย ปลาหวานเองก็เคยใฝ่ฝันอยากมีชีวิตแบบนี้ เลยอยากเรียนสูง ๆ แล้วพาตัวเองออกจากชีวิตที่ชื่อว่าความจนสักที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม