#วันเวลาผ่านไป
เพราะทะเลาะกันไปก่อนหน้านี้ จนปัจจุบันทั้งคู่ก็ยังไม่ได้หันหน้าคุยกัน ต่างคนต่างแยกย้ายกันทำงานของตัวเอง คงเพราะไม่ค่อยได้เจอหน้ากันก็เลยไม่ได้คุยกันไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ก็ใช่ว่าเป็นแบบนี้มันจะดี ไม่ดีเลยสักนิด เธอไม่ชอบความสัมพันธ์ที่เป็นแบบนี้เลย ทั้ง ๆ ที่เป็นสามีภรรยากัน แต่กลับห่างเหินกันราวกับว่ากลายเป็นคนอื่นไปแล้ว
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ใช่ว่าจะกลับมาดีกันหรอก มันจะห่างเหินกันไปเรื่อย ๆ จากความเย็นชาก็จะกลายเป็นความชินชา สุดท้ายก็ไม่มีความรู้สึกต่อกันอีก แต่น่าจะเป็นเขามากกว่า
"รายา.."
" ?? " เธอหันกลับไปมอง แอบงงอยู่นิดหน่อย เพราะเธอกำลังยืนคิดอยู่เลยว่าจะทำยังไงดีที่ทำให้เรากลับมาคุยดีกันอีก
"คืนนี้ไม่ต้องรอนะ พี่ไม่กลับ"
"ไปไหนคะ ?"
"ทำงาน"
"ค่ะ เชิญ"
เธอไม่ได้อยากตอบกลับประชดแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่ตอนแรกก็คิดว่าเราจะคุยอะไรกันที่ไม่ใช่เรื่องแบบนี้ แต่พอผิดหวัง มันก็เลยทำให้เธอเย็นชาอย่างนั้น
ในเมื่อเขาไม่กลับ ตัวเองก็ไม่รู้จะอยู่ทำไมเหมือนกัน นี่เป็นบ้านที่ถูกยกให้เป็นเรือนหอ แต่เธอก็ยังมีบ้านของตัวเองอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ที่นั่นจะไม่มีใครอยู่แล้วก็ตาม
สองปีก่อนเธอเพิ่งจะสูญเสียพ่อกับแม่ไป เพราะประสบอุบัติเหตุทางถนน เธอเลยตัวคนเดียวถ้าไม่นับสามี เพราะพ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้ว
#เวลาต่อมา
"คุณหนู ไปยังไง มายังไงคะ ทำไมถึงมาที่นี่ได้ แล้วมาคนเดียวเหรอคะ ?" แม่บ้านเดินเข้ามาทักด้วยความดีใจ
ใคร ๆ ก็รู้ว่าเธองานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาทำอะไรของตัวเองเลย ทั้งเป็นแม่บ้าน ไหนจะงานที่บริษัทอีก ทั้งยุ่งทั้งหัวหมุนไปหมด
"มาคนเดียวค่ะ พี่นุไม่ได้มาด้วยหรอก เขาติดงานค่ะ มีงานที่บริษัท"
"อ๋อ.."
"รายาขอมาอยู่ที่นี่สักพักนะคะ"
"บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณหนูนะคะ คุณหนูจะมาอยู่เมื่อไหร่ก็ได้"
"คิดถึงพ่อแม่นะคะ กลับบ้านมา.. ก็เงียบเหงาไม่มีใคร น่าจะอยู่รออุ้มหลานกันก่อน"
พูดแล้วก็เศร้า เรื่องมีลูกเธอเองก็อยากมีเหมือนกัน เพราะถูกพ่อกับแม่รบเร้าให้เธอปล่อยมีลูกตั้งแต่แต่งงานกันปีแรกเลย เธอเองก็พยายามมีตลอด ทั้งปรึกษาคุณหมอเรื่องร่างกาย การฝากน้ำเชื้อ แต่เธอก็ยังไม่กล้าลองในวิธีทางวิทยาศาสตร์เลย
"แล้วคุณหนูจะมาอยู่กี่วันคะ ป้าจะได้ซื้อกับข้าวได้ถูก"
"สักพักค่ะ บอกไม่ถูกเหมือนกัน"
พรรณรายาตอบหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับแม่บ้าน เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมาอยู่ที่นี่กี่วัน เธอแค่เบื่อความรู้สึกที่นั่น จากบรรยากาศบ้านที่เคยมีแต่ความสุข มันกลายเป็นความอึดอัดความทุกข์เต็มไปหมดเลย
สีหน้าที่กำลังอมทุกข์ของพรรณรายา ทำให้ป้าแม่บ้านมองออกเช่นกัน ตามประสาคนอาบน้ำร้อนมาก่อน แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร
"เดี๋ยวป้าไปเตรียมของว่างให้นะคะ"
"อยู่ที่นี่คนเดียว เหงาไหมคะ"
"เหงาค่ะ แต่ป้าก็หาอะไรทำกิ๊กก๊อกไปเรื่อย พอได้แก้เบื่อไปวัน ๆ"
"เหรอคะ.."
"เดี๋ยวป้าไปเตรียมของว่างให้นะคะ"
"ขอบคุณค่ะ"
เพราะเขาไม่กลับบ้าน เธอเองก็ไม่อยากอยู่บ้านเหมือนกัน บ้านหลังนั้นก็เลยไม่มีคนอยู่ แต่ถ้าเขาจะกลับมากลางดึกก็คงไม่เห็นรถของเธอ เพราะเธอไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่ถ้าเขาไม่กลับมาก็แล้วไป
ลองทำแบบเขาบ้าง ลองให้เขาได้รู้สึกแบบที่เธอรู้สึกบ้าง มันจะเป็นยังไงนะ
#ช่วงค่ำ ๆ วันเดียวกัน
ติ๊ง ~
พรรณรายาชะโงกมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ พอเห็นตัวอย่างข้อความก็รู้ว่าใครส่งมา แต่เธอก็ถอนหายใจ ไม่เอามาเปิดอ่านด้วยซ้ำ จะอยากรู้ไปทำไม ปกติเขาเคยสนใจด้วยเหรอว่าเธอจะทำอะไรที่ไหน
พี่นุ : ตอนนี้อยู่ไหน
ติ๊ง ~ ๆ ๆ
พอไม่อ่านข้อความก็ถูกส่งเข้ามารัว ๆ ก่อนที่เธอนั้นจะหยิบโทรศัพท์มาแล้วกดส่งข้อความตอบกลับไป
รายา : วันนี้ฉันไม่กลับบ้านค่ะ
แบบนี้แล้วเขาจะรู้สึกยังไงกันนะ เพราะปกติจะเป็นเขามากกว่าที่ใช้คำนี้ จะรู้สึกยังไงที่เธอไม่กลับบ้านบ้าง
ครืด ครืด ครืด ~
"ค่ะ"
( ตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่กลับบ้าน นี่มันค่ำแล้วนะ )
"พี่บอกว่าพี่ไม่กลับบ้าน พี่จะมาเดือดร้อนทำไมคะ หรือถ้าพี่กลับแล้ว พี่ก็หาอะไรกินเองสิ ในตู้ก็มี"
( พี่ไม่ได้หิว พี่กำลังถาม ว่าทำไมถึงไม่กลับ )
"ไม่มีอะไรค่ะ อยู่บ้านมันน่าเบื่อ ก็เลยออกมาข้างนอก หาอะไรใส่ตัวเองบ้าง"
( นี่ประชดพี่อยู่เหรอ รายา )
"เปล่าค่ะ ฉันก็พูดความจริง มีตรงไหนคะที่ประชด"
( พี่ไม่ให้ออกไปไหน กลับมาบ้านได้แล้วนะ เป็นผู้หญิงไปอยู่ข้างนอกมันอันตราย )
"ฉันโตแล้วค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้ แค่นี้นะคะ"
( เดี๋ยวสิ..! )
พรรณรายากดวางสายในทันที
ไม่รู้หรอกว่าที่ภานุกำลังทำอยู่ตอนนี้มันคืออะไร เขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยสนใจเลยด้วยซ้ำว่าเธอจะทำอะไรที่ไหนกับใคร แต่พอเธอไม่กลับบ้าน เขากลับโทรตามให้เธอกลับ
"คุณหนูคะ"
"อ้าวป้า อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอคะ"
"เสร็จแล้วค่ะ ป้าบอกว่าให้รอป้าก่อน ยังไม่ต้องรีบทำเอง"
"มันชินน่ะค่ะ ตอนที่อยู่ที่โน่น เข้าครัวปุ๊บก็ทำอาหาร ก็เลยไม่รู้ว่าจะมายืนนิ่ง ๆ อยู่ในครัวทำไม"
"นี่ถ้าคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายยังอยู่ โดนดุไปแล้วนะคะเนี่ย"
"หึหึ นั่นสิคะ"
"เดี๋ยวป้าทำต่อเองค่ะ คุณหนูไปนั่งพักเถอะ"
"ขอบคุณค่ะ"
ระหว่างนั้นก็ยังมีข้อความส่งเข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งก็ไม่ต้องเดาเลยว่าข้อความจากใคร แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องกระวนกระวายใจขนาดนั้น เพราะตอนที่เขาไม่กลับบ้าน เธอเองก็ไม่เคยกระวนกระวายใจขนาดนี้เลย ไม่เคยส่งข้อความมาหาแบบนี้ด้วย
#ผ่านไปสักพัก
"อาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะคุณหนู"
"โห น่าอร่อยมาก ๆ เลยค่ะ ป้าเองก็ตักข้าวมานั่งกินด้วยกันนะคะ ไม่ต้องไปนั่งกินในครัว รายาเหงา มานั่งเป็นเพื่อนหน่อยนะคะ"
"ได้สิคะคุณหนู"
อยู่ที่โน่นไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้ากลางวันเย็น เธอนั่งกินคนเดียวตลอด ไม่ได้เรียกว่าชินหรอก แต่ต้องยอมรับให้ได้มากกว่า
"ถ้าไม่อยากเหงา ก็รีบมีลูกสิคะคุณหนู"
"ค่ะป้า"
ไอ้รีบน่ะมันก็รีบอยู่แล้ว แต่สถานการณ์ในตอนนี้มันเหมาะสมแล้วเหรอที่จะมีลูกด้วยกัน ถ้าเธอท้องจริง ๆ ท้องในขณะที่ครอบครัวกำลังเป็นแบบนี้ เธอไม่อยากให้ลูกต้องเกิดมารับรู้ว่าพ่อแม่เขาทะเลาะกัน ไม่รักกัน แต่อยู่ด้วยกันเพราะลูก