บทที่ : 09 ไม่มีเหตุผล

1291 คำ
พรรณรายากลับมารออยู่ที่บ้านจริง ๆ ถึงเขาไม่บอกเธอก็ไม่สามารถอยูตรงนั้นต่อได้จริง ๆ เพราะมันมีทางแค่สองทาง อาละวาดให้ทุกอย่างจบสิ้นกันตรงนั้น หรือรอเขากลับมาและคุยกันแบบตรง ๆ ถ้ามันจะต้องจบลงแบบนี้ก็ให้มันจบลงแต่โดยดีเถอะ แต่ก็ไม่รู้สิ บางทีมันอาจจะจบลงไม่สวยก็ได้ ผัวเมียนอกใจกันเธอเห็นมานักต่อนักแล้ว ไม่เห็นจะมีใครจบสวยเลยสักคนเดียว ตกเย็นของอีกวันภานุก็ตามกลับมา พอได้มาอยู่ต่อหน้ากัน สองต่อสอง กลับไม่มีคำพูดอะไรเลย นอกจากความเงียบงัน สถานการณ์มันน่าอึดอัดไปหมด เพราะความรู้สึกมันไม่เหมือนเก่าอีกแล้ว “พี่จะไม่พูดหน่อยเหรอคะ ?” สุดท้ายพรรณรายาก็เป็นฝ่ายเปิดคำถาม เพราะความเงียบที่ครอบคลุมอยู่รอบกายมันทำให้เธออึดอัดไปหมด “อยากรู้อะไรล่ะ ก็ถามมาสิ พี่จะได้ตอบ ให้พี่พูดพี่ก็ไม่มีอะไรจะพูด” “…..” พรรณรายามองหน้าผู้เป็นสามี แน่ใจเหรอว่าไม่มีเรื่องจะพูดน่ะ ไม่พูดหรือพูดไม่ได้มากกว่า เพราะมันเป็นเรื่องที่พูดยากสำหรับเขาหรือเปล่า “พี่ไม่อยากให้เราทะเลาะกันเลย” “อธิบายมาสิคะ พี่บอกกับฉันเองว่าพนักงานของพี่ไปกันหลายคน ไหงอยู่ห้องVIPกับเลขาสองคนได้ แล้วพี่จะให้ฉันคิดยังไง เห็นผัวตัวเองอยู่กับผู้หญิงคนอื่นในโรงแรม แล้วดูสภาพพี่สิ อย่างกับคนเพิ่ง…” ความจริงไม่อยากคิดไปถึงเรื่องนั้นเลย ไม่อยากคิดว่าเขาจะทำแบบนั้นจริง ๆ แต่ด้วยความปากไวของตัวเองก็ดันเปิดหัวประโยคออกไปซะแล้ว “เฮ้อ ต่อให้พี่จะพูดอะไรไป รายาก็ยังจะเข้าใจว่าพี่มีอะไรกับเลขาเหมือนเดิม พี่ไม่รู้จะอธิบายทำไม” “เลยจะปล่อยให้ฉันเข้าใจแบบนี้เหรอคะ แล้วพี่ก็หาว่าฉันเข้าใจผิด ก็เห็นกับตาแบบนั้น เมียที่ไหนจะคิดว่าผัวเรียกเลขามาทำงาน สภาพนั้นน่ะเหรอคะ? พี่อธิบายสิ ฉันต้องการคำอธิบาย !!” เขาบอกว่าเธอใช้อารมณ์ตัดสินเรื่องนี้ แต่เขากลับไม่อธิบายอะไรเลย ราวกับว่าต้องการให้เธอเข้าใจแบบนี้ เพื่ออะไร ? มีความสุขมากนักหรือไง “พี่จะไปไหน ?” “พี่เหนื่อย อยากพัก งานก็เยอะ ยังต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก” สายตาของเขาที่มองเธอเหมือนสายตาของคนที่กำลังเบื่อหน่ายอะไรสักอย่างและอยากไปให้พ้น ๆ จุดนี้สักที “คุยกันให้จบก่อนสิ พี่ยังไม่ได้บอกฉันเลย ว่าทำไมถึงอยู่กับเลขาสองต่อสอง แล้วพนักงานคนอื่นไปไหน” “ก็ถ้าบอก เราจะเชื่อไหม ถ้าไม่เชื่อก็ไม่ต้องฟังแต่แรกดีกว่าไหม” “พี่นุ..” เขาขึ้นเสียงใส่เธอ หันมาทำหน้าไม่พอใจ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันพร้อมกับถอนหายใจ สายตาแบบนี้มันไม่เหมือนสายตาของคนที่รักกันเขามองกันเลย “พี่ไม่มีอะไรจะพูดทั้งนั้น” “พี่มีความสุขหรือคะ ที่ทำให้ฉันเข้าใจผิดแบบนี้ แล้วพี่ก็เอาแต่ว่าฉัน แต่ตัวพี่ไม่ยอมพูดเลย ฉันเป็นเมียนะคะ คนเป็นเมียไม่มีสิทธิ์รับรู้อะไรของสามีเลยเหรอคะ” “มีสิทธิ์สิ แต่อย่าล้ำเส้น เรากำลังล้ำเส้นพี่อยู่นะรายา ตามพี่ไปถึงโรงแรม ไปอาละวาดจนงานพี่เกือบพัง ยังจะให้พี่คิดยังไงอีก” “มันขนาดนั้นเลย…เหรอคะ” พรรณรายาพูดเสียงสั่น แบบมาก ๆ เพราะไม่คิดว่าจะถูกมองแบบนี้ ทั้งที่เหตุการณ์เมื่อวานมันไม่ได้มีอะไรเลยด้วยซ้ำ เธอไม่ได้อาละวาดอย่างที่เขาบอกสักหน่อย ก็แค่ถามเท่านั้น แต่มันคุยไม่รู้เรื่อง “…..” “พี่มีคนอื่น พี่ก็เลยกำลังเบื่อฉัน เพราะมีของใหม่ คนเก่า ๆ น่าเบื่อแบบฉัน ก็เลยทำอะไรไม่ถูกใจพี่ไม่หมดเลย ใช่ไหมคะ ?” “คิดได้ไงรายา ?” “คิดตามความรู้สึก ตามที่ตัวเองเห็น ตามเซ้นส์ของผู้หญิง พี่บอกเองว่าจะเข้าใจแบบไหนก็แล้วแต่ แบบนี้ไงคะที่ฉันเข้าใจ” “ไร้สาระ !!” ร่างบางยืนตัวแข็งเมื่อถูกสามีตะคอกใส่ด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน สายตานั้นมองเธอด้วยความตำหนิ ก่อนที่เขาจะเดินหนีเธอออกไป ทิ้งไว้เพียงร่างบางที่ยืนท่ามกลางความเงียบงัน คำพูดตะคอกเมื่อครู่นี้มันเหมือนฟ้าฝ่าฟาดลงมากลางใจของเธอ มันทรมานเพราะเธอไม่ได้ตายในทันที สรุปแล้วไม่มีอะไรที่จบเลยนอกจากประโยคทิ้งท้ายของเขา ไร้คำอธิบาย ไร้การพูดคุย เธอเองก็ไม่ได้อยากมองในแง่ลบจริง ๆ แต่สิ่งที่เห็นมันก็อดคิดไม่ได้ ใครจะชอบบ้างที่สามีของตัวเองมาจองโรงแรมอยู่กับผู้หญิงสองต่อสอง ถึงจะบอกว่าเป็นเรื่องงาน มีข้ออ้างสารพัดก็ตาม พรรณรายายืนอยู่ตรงนั้นเหมือนหุ่น เหมือนร่างกายและความรู้สึกมันช็อตไปชั่วขณะนึง พอรู้สึกตัวแข้งขามันก็ไร้เรี่ยวแรงไปแล้ว เธอพาตัวเองที่จู่ ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงมานั่งที่โซฟา พร้อมกับคิดทบทวนกับตัวเองว่า เป็นเพราะเธอคิดมากไปหรือเปล่า เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ก็เพราะตัวเองหรือเปล่า เธอเอาแต่โทษตัวเองจริง ๆ #เวลาต่อมา “พี่จะไปไหนคะ ?” “นอนอีกห้อง ไว้อารมณ์เย็นแล้วค่อยมาคุยกันนะ พี่ไม่อยากทะเลาะ พี่เหนื่อย ไม่อยากเสียงาน” “แล้วฉันล่ะ ?” “ทำไม ?” “ห่วงงาน ห่วงคนของพี่ ห่วงความรู้สึกของเมียตัวเองบ้างมั้ย” “…..” “พี่เอาแต่ห่วงคนอื่น พอคนอื่นทำผิดพี่ไม่ต่อว่า แต่พอเป็นฉันทำไมมันแย่ไปหมดเลย ฉันมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอพี่นุ พี่ดีกับทุกคนยกเว้นฉันเพราะอะไร ?” “ก็เพราะแบบนี้ไง” “ ??? ” “ฟังเหตุผลกันบ้างสิ อย่างี่เง่า เป็นผัวเมียกันต้องไว้ใจกันสิ แต่สิ่งที่รายาทำคือการสงสัยพี่มีชู้ มันแปลว่ารายาไม่เชื่อใจพี่อีกแล้ว” “งั้นก็อธิบายสิ ฉันจะได้เข้าใจ” “ไว้อารมณ์เย็นแล้วค่อยมาคุยกันละกันนะ” “พี่นุ ! มาคุยกันก่อนเลยนะคะ อย่าเดินหนีกันแบบนี้สิ พี่นุ !” สงสัยเหรอ แล้วมันใช่ไหมล่ะ ตอนถามเขาไม่ตอบเลยแต่ก็ไม่ปฏิเสธหนำซ้ำกางปีกปกป้องเลขาคนนั้นออกหน้าออกตาด้วย ทำอย่างกับว่าตัวเองกำลังออกโรงปกป้องเมียของตัวเองงั้นแหละ นี่มันตามสเต็ปของคู่รักที่กำลังร้าวฉานเลยนี่นา ทะเลาะกัน เบื่อหน้ากัน เจอหน้ากันก็ทะเลาะ ทำอะไรไม่ยอมบอก หวงทุกอย่างที่เป็นของตัวเอง และตอนนี้เขาก็หอบผ้าไปนอนห้องอื่นเรียบร้อยแล้ว ‘จบเหรอ ถ้ามันจะจบมันมีอยู่แค่สองทางนะพี่นุ จบดีกับจบพัง ฉันแค่อยากรู้ว่าเราจะเป็นยังไงกันต่อ มันจะพังหรือเปล่า ความรักสิบปีของเรามันกำลังจะหมดลงแล้วใช่ไหม แล้วมันเมื่อไหร่กันล่ะ ที่เราไม่รักกัน เธอไม่รู้ตัวเลย ว่าเขาไม่รักแล้ว เพราะเธอยังรักเขามาตลอด รักเหมือนเดิม’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม