Perhaps Love

1360 คำ
ตอนที่ 3 หลายวันต่อมา แสงแดดยามเที่ยงส่องลอดหน้าต่างเข้ามาในร้านอาหาร พิมพ์มาดาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาระหว่างรออาหาร นิ้วเรียวเคาะแป้นพิมพ์ข้อความอย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ที่แต้มอยู่บนมุมปาก รอยยิ้มนั้นดูสดใสและมีชีวิตชีวากว่าหลายวันที่ผ่านมา ดวงตาที่เคยเศร้าสร้อยกลับเปล่งประกายความสุขเล็กๆ จนเกรชที่นั่งทานส้มตำอยู่ตรงข้ามเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง Phimmada: สวัสดีค่ะ..คุณวิน วันนี้ที่นี่แดดเปรี้ยงเลยค่ะ แล้วที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างคะ? “ยิ้มอะไรคนเดียวฮึ พิมพ์?” เกรชแซวขึ้นด้วยน้ำเสียงทะเล้น พลางเลิกคิ้วมองเพื่อนอย่างจับผิด ก่อนจะรีบชำเลืองมองข้อความที่เพื่อนแอบคุยกับหนุ่ม พิมพ์มาดาเห็นดังนั้นก็รีบเอามือปิดหน้าจอโทรศัพท์ทันทีด้วยท่าทางมีพิรุธ “มีหนุ่มคนใหม่แล้วเหรอ ถึงว่าล่ะ...หายเศร้าเป็นปลิดทิ้งเชียวนะ” เกรชยังคงแซวไม่เลิก พิมพ์มาดาหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อยก่อนจะรีบหุบรอยยิ้ม แต่ก็ไม่วายเหลือไว้ซึ่งความสุขเล็กๆ ที่ยังคงฉายประกายอยู่ในแววตา “บ้า! หนุ่มที่ไหนกันล่ะ..ไม่มี๊ แค่ก็...เพื่อนคุยกันน่ะ” พิมพ์มาดาเสียงสูงเล็กน้อย พยายามกลบเกลื่อน ในขณะที่เกรชจ้องมองเพื่อนรักด้วยสายตาที่ไม่เชื่อสนิทใจ “ชิ!!!..ยิ้มหวานซะขนาดนี้เนี่ยนะ? เพื่อนแบบไหนกันจ๊ะ ไหนบอกมาซิ๊” เธอส่งสายตาล้อเลียนอย่างเปิดเผย พิมพ์มาดาถอนหายใจแกล้งรำคาญ แต่ในใจกลับรู้สึกขอบคุณธาวินอย่างเงียบๆ ที่เข้ามาทำให้ความรู้สึกของเธอดีขึ้นมากจากหลายวันที่ผ่านมา “ก็...เพื่อนที่รู้จักในแอปที่เธอแนะนำให้ชั้นโหลดเมื่ออาทิตย์ก่อนนั่นแหละ” เธอตอบเสียงเบา แต่เกรชกลับเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “จริงดิ! ไหนเล่ามาซิๆ เป็นใครยังไง” เธอโน้มตัวเข้ามาใกล้เพื่อนอย่างรวดเร็วด้วยความอยากรู้อยากเห็น ในขณะที่เพื่อนซี้กำลังซักไซ้รายละเอียด พิมพ์มาดาก็ก้มลงพิมพ์ข้อความตอบกลับธาวินด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่หุบไม่ลง ระหว่างนั้นเอง การแจ้งเตือนข้อความใหม่ในมือถือของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง ธาวินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “แป๊บ ๆ เค้าตอบมาล่ะ” พิมพ์มาดาหันมาบอกกับเพื่อนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบก้มลงไปอ่านข้อความด้วยใจจดใจจ่อ Thawin: ที่นิวยอร์กฝนตกปรอยๆ ครับ อย่าลืมทานมื้อเที่ยงนะครับ ผมเป็นห่วง พิมพ์มาดาอมยิ้มกับความเป็นห่วงที่แสนจะอบอุ่นและน่ารักของธาวิน ความรู้สึกดีใจเล็กๆ แล่นริ้วไปทั่วหัวใจ ราวกับมีผีเสื้อกระพือปีกเบาๆ ในอก ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ของเขา ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้อีกต่อไป รอยยิ้มบางๆ นั้นยังคงประดับอยู่บนใบหน้าหวาน แม้เพื่อนสนิทอย่างเกรชจะยังคงจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ก็ตาม Phimmada: ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ กำลังจะทานพอดีเลยค่ะ แล้วคุณวินล่ะคะ ที่นั่นดึกแล้ว นอนหรือยังคะ พิมพ์รบกวนหรือเปล่า? Thawin: เปล่า ๆ ครับไม่ได้รบกวนอะไรเลย ผมเพิ่งเสร็จจากการทำงานวิจัยครับ กว่าจะเสร็จก็ดึกแทบทุกคืนเลย Phimmada: เก่งจังเลยค่ะ เอาใจช่วยขอให้งานวิจัยของคุณวิน ผ่านเร็ว ๆ นะคะ Thawin: ขอบคุณครับ กำลังใจจากคุณพิมพ์สำคัญที่สุดเลย Phimmada: ฝันดีนะคะ พิมพ์ไม่กวนแล้ว พักผ่อนเยอะๆ นะคะ Thawin: ทานมื้อเที่ยงให้อร่อยนะครับ แล้วคุยกันใหม่นะครับ พิมพ์มาดาวางโทรศัพท์ลงตรงหน้าข้างๆ จาน เธออมยิ้มให้กับตัวเองอย่างเขินอายปนสุขใจ เกรชยังคงจ้องมองเธอด้วยสายตาคาดคั้น “สรุปว่ายังไงยะ เล่ามาเดี๋ยวนี้!” เกรชเร่งเร้าด้วยน้ำเสียงอยากรู้สุดๆ พิมพ์มาดาหัวเราะเบาๆ อย่างมีความสุข ก่อนจะตอบคำถามของเพื่อนอย่างอารมณ์ดี “ก็ไม่มีอะไรหรอกเกรช แค่..คุยกันเล่น ๆ แก้เหงาน่ะ” แต่รอยยิ้มที่ยังคงแต้มอยู่บนใบหน้าของเธอก็ฟ้องว่า ผู้ชายในแอปที่เพื่อนรักคุยด้วย คงจะไม่ได้คุยกันธรรมดาเสียแล้ว ความรู้สึกพิเศษบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ในใจของเธอ หลังเลิกงาน พิมพ์มาดากลับมาถึงห้องพักด้วยความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างหมดแรง แต่ถึงกระนั้นความคิดถึงใครบางคนที่เข้ามาวนเวียนในห้วงความคิดตลอดทั้งวัน ก็ทำให้เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างเป็นนิสัย ราวกับเป็นกิจวัตรที่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว นิ้วเรียวสวยเลื่อนหน้าจอไปยังแอปพลิเคชันที่คุยเคยด้วยความรู้สึกโหยหาและรอคอยอย่างเงียบงัน Phimmada: ทำอะไรอยู่คะคุณวิน? ที่นั่นคงเช้าแล้วใช่มั้ยคะ ไม่นานธาวินก็ตอบกลับมา Thawin: ผมเพิ่งตื่นเมื่อกี้นี้ครับ กำลังชงกาแฟพอดีเลย แล้วก็..คิดถึงใครบางคนไปด้วย พิมพ์มาดาหน้าแดงเล็กน้อยกับคำพูดหยอกเย้าของเขา Phimmada: คิดถึงใครเหรอคะ Thawin: ก็แถวๆ นี้แหละครับ ว่าแต่เมื่อวานคุณบอกว่าเจอเรื่องแย่ ในที่ทำงาน เป็นยังไงบ้างครับ ดีขึ้นหรือยัง? ธาวินเปลี่ยนเรื่องแล้วถามด้วยความเป็นห่วง Phimmada: ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ แค่ได้คุยกับคุณวินก็เหมือนได้ชาร์จพลังแล้วค่ะ Thawin: ผมดีใจที่คุณพิมพ์รู้สึกแบบนั้นครับ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจอีกก็ระบายให้ผมฟังได้ตลอดเลยนะครับ จากนั้นธาวินก็เล่าเรื่องตลกสุดฮาที่เกิดขึ้นในคลาสเรียนให้เธอฟังอย่างออกรสออกชาติ ทั้งคู่ผลัดกันส่งสติกเกอร์หัวเราะ จนบรรยากาศเงียบเหงาในห้องพักของพิมพ์มาดาพลันอบอวลไปด้วยความสุขเล็กๆ ที่เธอไม่ได้สัมผัสมานานแสนนาน ข้อความที่ธาวินส่งมา ราวกับกุญแจดอกน้อยๆ ที่ค่อยๆ ไขเปิดประตูความรู้สึกที่ปิดตายในใจของพิมพ์มาดาอย่างอ่อนโยน เธอเริ่มพิมพ์เล่าเรื่องราวความรักที่เพิ่งจบลงอย่างละเอียด และถ่ายทอดความเจ็บปวด ความเสียใจ และความรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งอย่างหมดเปลือก ทุกตัวอักษรถูกกลั่นออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริง โดยไม่ได้คาดหวังสิ่งใดตอบแทนจากเขา ธาวินตอบกลับมาอย่างอดทนและเข้าใจ เขาไม่ได้แสดงความคิดเห็นตัดสินใดๆ ไม่มีการซ้ำเติมบาดแผลในใจเธอ มีเพียงคำพูดที่อ่อนโยนและให้กำลังใจ ราวกับเพื่อนสนิทที่รับฟังทุกเรื่องราวอย่างตั้งใจ พิมพ์มาดารู้สึกแปลกใจอย่างประหลาด ที่เธอสามารถเปิดเผยความอ่อนแอและความเปราะบางภายในให้คนแปลกหน้าคนนี้ฟังได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่าเธอรู้จักเขามานานแสนนาน บทสนทนาของคนแปลกหน้าสองคนดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ไหลรื่นราวกับสายน้ำ ทั้งสองแลกเปลี่ยนเรื่องราว ความคิดเห็น และความรู้สึกเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แม้จะไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนยกเว้นรูปในโปรไฟล์ แต่พิมพ์มาดากลับรู้สึกถึงความอบอุ่นและความจริงใจที่ส่งผ่านมาทางตัวอักษร เธอเริ่มรู้สึกดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ความเศร้าที่เคยปกคลุมหัวใจราวกับเมฆฝน เริ่มจางหายไปทีละน้อย แสงสว่างเล็กๆ เริ่มสาดส่องเข้ามา หลายวันผ่านไป ความสัมพันธ์ผ่านตัวอักษรของทั้งคู่ก็ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องราวส่วนตัว ความฝันเล็กๆ ในชีวิต ความชอบและรสนิยมที่ตรงกัน และมุมมองที่แตกต่างกันในชีวิต ธาวินเป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยม และมักจะมีคำพูดที่ทำให้พิมพ์มาดารู้สึกดีขึ้น เธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนมองโลกในแง่บวกและเริ่มรู้สึกว่าเขามีบางอย่างที่พิเศษและแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคนที่เธอเคยคบหามา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม