เนื้อคู่หรือเนื้อตุ๋น?

1358 คำ
ตอนที่ 5 ตลอดเวลาที่ว่างจากการทำงาน พิมพ์มาดาแทบจะก้มหน้าอยู่กับโทรศัพท์ นิ้วเรียวเลื่อนสัมผัสหน้าจอ พิมพ์ข้อความโต้ตอบกับธาวินอย่างมีความสุข เสียงหัวเราะเบาๆ กลับมาเยือนริมฝีปากเธออีกครั้ง บรรยากาศรอบตัวพิมพ์มาดาดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เกรชและเพื่อนสนิทคนอื่นๆ ในที่ทำงานต่างก็ดีใจที่ได้เห็นเพื่อนรักกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี “ฉันว่าแกจริงจังกับผู้ชายคนนี้มากไปรึเปล่า พิมพ์?” เกรชเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังยืนรอรถประจำทางกลับบ้านพร้อมกับเพื่อน แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องใบหน้าพิมพ์มาดาที่เริ่มมีสีชมพูระเรื่อ “เพิ่งคุยกันไม่กี่เดือนเองนะ แถมยังไม่เคยเจอตัวจริงด้วยซ้ำ” พิมพ์มาดาชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยวูบไหว เธอรู้ว่าเพื่อนหวังดี แต่ความรู้สึกที่เธอมีต่อธาวินมันก็มากพอที่จะทำให้เธอมั่นใจได้ ว่าเขาไม่ได้มาหลอกลวงเธอ “ฉันรู้น่า!...เกรช” พิมพ์มาดาถอนหายใจแผ่วเบา “แต่คุณวินเค้า...เค้าทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นจริงๆ นะ แกก็เห็นนี่ เค้าเข้าใจฉันทุกอย่างเลย” น้ำเสียงของพิมพ์มาดาบอกอย่างอ่อนโยน “คุยกันผ่านแอป ผ่านตัวอักษรน่ะ...มันง่ายนะแก” เกรชเน้นเสียงอย่างเป็นห่วง “แต่ตัวจริงเค้าอาจจะไม่ตรงปกก็ได้นะเว้ย แกลองคอลหาเขาหรือยัง” พิมพ์มาดาหลบสายตาเพื่อนเล็กน้อย แก้มของเธอร้อนผ่าว “ยังเลยอะ...ฉันยังไม่กล้าเปิดกล้องว่ะ อายเค้า ยังทำหน้าไม่ถูกเลย ฉันกลัวเค้าเห็นหน้าจริงฉันแล้ว เค้าจะเปลี่ยนใจน่ะสิ” น้ำเสียงเธอแฝงไปด้วยความไม่มั่นใจ “แกสวยออกขนาดนี้ ยังไม่มั่นใจอีกเหรอ” เกรชเอ่ยอย่างแปลกใจ “ไม่รู้สิ...ตั้งแต่ถูกพี่เชษฐ์ทิ้ง ฉันก็หมดความมั่นใจไปเลยอะแก” พิมพ์มาดาตอบเสียงแผ่ว ความเจ็บปวดในอดีตยังคงทิ้งร่องรอยไว้ในใจเธอ “สมัยนี้ผู้ชายหลอกฟันเล่นๆ ก็เยอะแยะ แกอย่าเพิ่งทุ่มใจไปหมดนะ” เกรชยังคงเตือนด้วยความเป็นห่วง “ฉันรู้...ว่าแกหวังดี” พิมพ์มาดาถอนหายใจ “แต่ฉันเชื่อใจคุณวินเค้านะ เขาดูเป็นคนจริงใจ แล้วเขาก็กำลังจะกลับมาเมืองไทยอาทิตย์หน้านี้แล้วด้วย” น้ำเสียงเธอมีความหวังเจืออยู่ “กลับมาก็ดีเหมือนกัน แกจะได้เห็นเค้าจะๆ ไปเลยว่า...ดูสิจะเป็นเนื้อคู่ หรือเนื้อตุ๋น” เกรชยังคงแซวแกมปราม แต่ในใจลึกๆ ก็ภาวนาให้เพื่อนเจอคนดีๆ จริงๆ สักที ค่ำคืนวันศุกร์ พิมพ์มาดาก็แทบจะนับวินาทีรอเวลาวิดีโอคอลกับธาวิน เธอเลือกชุดสวยที่สุดในตู้เสื้อผ้า แต่งหน้าอย่างพิถีพิถัน และนั่งรอหน้าจอโทรศัพท์ด้วยหัวใจที่เต้นระรัวราวกับกลองศึก เมื่อสัญญาณเรียกเข้าดังขึ้น ใบหน้าคมสันพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นที่เธอคุ้นเคยก็ปรากฏบนหน้าจอ “สวัสดีครับ...คุณพิมพ์ ฮื้อหื้อ!! ตัวจริงคุณสวยกว่าในรูปอีกนะครับเนี่ย” ธาวินทักทายด้วยคำชมที่อ่อนโยนที่ทำให้พิมพ์มาดาใจสั่นทันที “สวัสดีค่ะ...คุณวิน อันที่จริงเราน่าจะเปิดกล้องคุยกันตั้งนานแล้วเนอะ!” พิมพ์มาดาตอบกลับด้วยรอยยิ้มหวาน ดวงตาเป็นประกาย แต่ใจก็ยังคงสั่นเล็กน้อย “ไม่คิดเลยว่าคุณจะยอมคอลกับผม” ธาวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจือความแปลกใจ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความยินดี “ก็เราจะเจอกันอยู่แล้วนี่คะ เดี๋ยวตอนไปรับก็ไม่รู้จักกันพอดี” พิมพ์มาดาเอ่ยตอบกลับอย่างขี้เล่น แต่ในใจก็แอบประหม่าเล็กน้อย “แล้วผมตรงปกมั้ยครับ?” ธาวินถามพร้อมรอยยิ้มทะเล้น “ตรงปกค่ะ” พิมพ์มาดาตอบอย่างมั่นใจ “แล้วตรงสเปคคุณมั้ย?” ธาวินถามต่อด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง “ไม่บอกค่ะ” พิมพ์มาดาตอบพร้อมรอยยิ้มเขินอาย “อายผมเหรอครับ?” ธาวินหัวเราะเบาๆ “แต่คุณตรงสเปคผมเลยนะครับ ตั้งแต่แรกที่เห็นโปรไฟล์แล้วล่ะ” น้ำเสียงของเขาจริงจังขึ้นเล็กน้อย บทสนทนาผ่านวิดีโอคอลในคืนนั้นยาวนานกว่าทุกครั้ง ทั้งคู่พูดคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต มองหน้ากันผ่านหน้าจอ สื่อสารกันด้วยสายตา และรับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงที่เริ่มถักทอสายใยบางๆ ในหัวใจ ธาวินแสดงความอบอุ่น เอาใจใส่ และเข้าใจในทุกสิ่งที่พิมพ์มาดาพูด ทำให้ความเชื่อมั่นในตัวเขาแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น “คุณพิมพ์ครับ!!!...” ธาวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น มองตรงมาที่กล้อง “ผมอยากให้คุณรู้ว่า...ผมไม่ได้คุยกับคุณแค่แก้เหงา ผมรู้สึกดีกับคุณจริงๆ นะครับ ดีมากๆ ด้วย และผมก็อยากเริ่มต้นกับคุณอย่างจริงจังเมื่อผมกลับไปถึงไทย” ดวงตาของเขาฉายแววความจริงใจ พิมพ์มาดามองใบหน้าของเขาผ่านหน้าจอ น้ำตารื้นด้วยความตื้นตัน หัวใจเธออบอุ่นจนล้น “ฉันก็รู้สึกเหมือนกันค่ะ คุณวิน...ฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนดี” น้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อย “ขอบคุณนะครับที่เชื่อใจผม” ธาวินยิ้มกว้าง รอยยิ้มที่ทำให้พิมพ์มาดารู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด “อดทนรออีกนิดนะครับ อีกสองวันเราก็ได้เจอกันแล้ว” ถึงแม้เกรชจะยังคงเตือนให้พิมพ์มาดาเผื่อใจไว้บ้าง แต่ในใจลึกๆ พิมพ์มาดาก็เริ่มวาดฝันถึงวันที่เธอจะได้พบกับธาวินตัวจริง เธอหวังว่าผู้ชายที่เธอรู้สึกผูกพันด้วยอย่างรวดเร็วผ่านโลกออนไลน์คนนี้ จะเป็น ‘เนื้อคู่’ ที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตเธอ ไม่ใช่แค่ ‘เนื้อตุ๋น’ อย่างที่ผ่าน ๆ มา ที่เข้ามาในชีวิตเธอแล้วก็เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงร่องรอยของความเจ็บปวด พิมพ์มาดานั่งคอยอยู่ที่สนามบินด้วยความประหม่า ดวงตาก็จับจ้องอยู่ที่ป้ายบอกทางไปยังอาคารผู้โดยสารขาเข้า สนามบินสุวรรณภูมิในยามเช้าคึกคักไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่เดินทางเข้าออกประเทศ เสียงล้อลากกระเป๋า เสียงพูดคุยจอแจ และเสียงประกาศเที่ยวบินดังเป็นระยะ ราวกับเป็นเพลงประกอบฉากให้กับความรู้สึกที่ปั่นป่วนอยู่ในอกของพิมพ์มาดา หัวใจของเธอเต้นระรัวราวกับกลองศึกในสมรภูมิ เสียงรอบข้างนั้นเลือนราง ไม่ชัดเจน ราวกับโลกทั้งใบกำลังโฟกัสไปที่ความคิดถึงและความคาดหวังถึงอนาคตอันใกล้นี้ ความตื่นเต้น ความประหม่า และความหวังดีดตัวขึ้นมาเป็นระยะๆ จนเธอรู้สึกว้าวุ่นไปหมด ราวกับมีผีเสื้อนับร้อยตัวกำลังโบยบินอยู่ในช่องท้อง หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้ง นิ้วเรียวงามเลื่อนหาดูข้อความที่คุยกับธาวินครั้งล่าสุดก่อนที่เขาจะขึ้นเครื่อง ในข้อความบอกว่าเที่ยวบินจากนิวยอร์ก จะมาถึงกรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 06:30 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลานั้นแล้ว พิมพ์มาดายังไม่เคยเดินทางไปนิวยอร์ก จึงได้แต่นั่งนึกภาพถึงการเดินทางที่แสนอันยาวนานกว่า 17 ชั่วโมงบนเครื่องบินจากคำบอกเล่าของชายหนุ่ม ธาวินคงจะเหนื่อยมากทีเดียว ความรู้สึกเห็นใจและอยากดูแลเขาพลันก่อตัวขึ้นมา ซึ่งทั้งคู่ได้ตกลงกันเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวกันต่อ ก่อนที่เขาจะเดินทางกลับบ้านที่เชียงใหม่บ้านเกิด สายตาของพิมพ์มาดากวาดมองไปยังกลุ่มคนที่ทยอยเดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า เธอพยายามสอดส่องหาร่างคุ้นตา ทั้งจากภาพถ่ายบนโปรไฟล์ที่เธอจำได้ขึ้นใจ และภาพใบหน้าของเขาที่เพิ่งจะได้เห็นผ่านวิดีโอคอลเมื่อเร็ว ๆ นี้ ความตื่นเต้นทำให้ทุกใบหน้าผู้โดยสารหลายคนดูคล้ายคลึงกันไปหมด เธอหวังว่าเขาจะไม่สวมแมส หรือใส่หมวกเดินออกมา พิมพ์มาดาพยายามตั้งใจเพ่งมองหนุ่ม ๆ หลายคนเป็นพิเศษ เพื่อหวังจะพบเจอคนที่หัวใจของตนเองเรียกร้อง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม