EP. 6 จะหนี ก็หนีไม่พ้น

1584 คำ
ห้องประชุมคณะบริหาร บรรยากาศเคร่งขรึม รายล้อมด้วยอาจารย์หลายท่านและคณะกรรมการวิชาการจากโรงพยาบาลใหญ่ ฉันที่โดนอาจารย์ยัดเยียดหน้าที่ตัวแทนนักศึกษา มาช่วยเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟกาแฟ ฉันยืนถือถาดแก้วอย่างเกร็ง ๆ “ไม่นะ! ทำไมโชคชะตาต้องกลั่นแกล้งฉันขนาดนี้ด้วย!” เพราะคนที่นั่งเด่นสง่าอยู่หัวโต๊ะประชุมก็คือ นพ.เนม อชิรวัฒน์กุล คุณหมอเจ้าปัญหาที่ทำเอาฉันหัวหมุนตั้งแต่เมื่อคืน เขายังคงหล่อเกินมนุษย์ในชุดสูททับกาวน์สีขาว ผมเรียบเนี้ยบ สายตาคมกริบที่จับจ้องเอกสารตรงหน้า แต่พอฉันวางแก้วน้ำลงข้างตัวเขาเท่านั้น! “ขอบคุณครับ คุณเฌอ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยชื่อฉันอย่างจงใจ แถมยังเงยหน้าขึ้นมาสบตาตรงๆ อีก หัวใจฉันเต้นแรงจนแทบทำถาดหลุดมือ “คุณหมอจำชื่อนักศึกษาได้ด้วยเหรอคะ” ฉันกัดฟันพูดเบาๆ พอให้ได้ยินแค่สองคน “แน่นอนครับ คนไข้พิเศษแบบคุณ จะให้ลืมง่ายๆ ได้ยังไง” มุมปากเขายกขึ้นเล็กน้อย “คุณ!” ฉันแทบจะหลุดเสียง แต่รีบเม้มปากไว้เมื่อเห็นอาจารย์ใหญ่ปรายตามามอง เขาหัวเราะเบาๆ ในลำคอเหมือนจงใจ ก่อนก้มหน้ากลับไปอ่านเอกสารอย่างสุภาพเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันเดินหนีออกมานั่งข้างห้อง ใบหน้าร้อนผ่าวจนแทบไหม้ ขณะที่เสียงอาจารย์กำลังอธิบายหัวข้อประชุมไปเรื่อยๆ แต่สมาธิฉันกลับจมอยู่กับคำพูดและรอยยิ้มกวนประสาทของเขาทั้งหมด และหัวข้อในการประชุมครั้งนี้ เป็นงานประชุมวิชาการร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำ เพื่อพัฒนาหลักสูตรและความร่วมมือด้านการแพทย์และการจัดการธุรกิจสุขภาพ โรงพยาบาลที่เนมสังกัดเป็น “โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่” ที่มีชื่อเสียง และยังเป็น ธุรกิจครอบครัวของตระกูลเขา นอกจากเนมจะเป็นแพทย์สูตินรีเวชที่เก่งและดังในแวดวงแล้ว เนมยังเป็น หนึ่งในคณะผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่ครอบครัวผลักดันเข้ามาดูแลด้านกลยุทธ์การแพทย์และการพัฒนาความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ทำให้เขาต้องเข้าประชุมกับคณะบริหารมหาวิทยาลัยโดยตรง ขณะที่เขาอยู่ในห้องประชุม ฉันเลยถือโอกาสเข้ามาร่วมฟังด้วย ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเวลาที่เขาจริงจังกับงาน ท่าทางเขาช่างดูสงบ สุขุม ภาพลักษณ์เป็น “หมอรุ่นใหม่ไฟแรง” ที่มีวิสัยทัศน์ธุรกิจและการแพทย์ที่เฉียบคม จนทำให้ทั้งอาจารย์และคณะกรรมการต่างเคารพในความสามารถของเขา มันช่างตรงกันข้ามกับด้าน “เจ้าชู้ แพรวพราว” ที่ฉันเจอเมื่ออยู่นอกรอบซะเหลือเกิน ก่อนที่ฉันจะเคลิบเคลิ้มกับภาพลักษณ์ของเขาไปมากกว่านี้ “หยุดนะ ยัยเฌอ!!” ฉันรีบดึงสติตัวเองกลับมาทันที เฌอส่ายหน้าเบาๆ แต่เธอไม่ทันสังเกต ว่ามีดวงตาคมกริบแอบมองเธออย่างเอ็นดูกับท่าทางของคนตัวเล็กที่อยู่อีกมุมของห้องประชุม ห้องโถงหน้าห้องประชุมช่วงพักเบรก นักศึกษาช่วยงานเดินแจกกาแฟและขนม ฉันเองก็กำลังยกถาดแก้วน้ำออกมาเติมใหม่ พยายามทำตัวเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไม่รอดสายตาคมกริบของใครบางคน “คุณเฌอ” เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นข้างหลัง ฉันสะดุ้งจนแทบทำถาดร่วง รีบหันกลับมา เจอร่างสูงในชุดกาวน์คลุมสูทยืนกอดอกพิงกำแพง มุมปากยกยิ้มแพรวพราวจนหน้าหมั่นใส้ “คุณหมอ” ฉันกัดฟันก่อนจะเอ่ยออกไปอย่าสุภาพ ต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าคะ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “ไม่ต้องการอะไรครับ แค่จะมาบอก คุณทำได้ดีนะเมื่อกี้ เสิร์ฟน้ำไม่หกเลยสักแก้ว” “นี่คุณหมอ!” ฉันแทบอยากจะปาแก้วใส่หน้าหล่อๆ นั่น แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์เพราะอาจารย์เดินผ่าน เนมยกยิ้มที่มุมปาก ก้มหน้าลงใกล้จนลมหายใจอุ่นเฉียดแก้ม “แค่จะแวะมาย้ำ อย่าลืมที่หมอนัดนะครับ” ฉันชะงัก “นัด อะไร” “ตรวจซ้ำไงครับ” เขาตอบเสียงเรียบ แต่สายตาเจือประกายกวน “หมอเคยบอกแล้ว ว่าต้องมาตรวจอีกครั้งหลังครบเจ็ดวัน” เลือดฉันสูบฉีดขึ้นหน้าทันที นี่เขากำลังพูดถึงเรื่องในห้องตรวจ ต่อหน้าคนเต็มโถงแบบนี้เลยเหรอ! “คุณหมอ!” ฉันกดเสียงต่ำ หน้าแดงจนแทบไหม้ ทำไมต้องมาพูดอะไรแบบนั้นตรงนี้ด้วย” เขายิ้มมุมปาก ยกกาแฟขึ้นจิบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “หมอพูดถึงเรื่องตรวจสุขภาพนะครับ คุณเฌอคิดไปไกลทำไม” “ฉ ฉันไม่ได้คิดไปไกลซะหน่อย!” ฉันสะบัดเสียง แต่หัวใจกลับเต้นรัวไม่หยุด เนมหันมาสบตาตรงๆ ดวงตาคมฉายประกายเจ้าเล่ห์ “ก็ดีแล้วครับ เพราะหมอเองต่างหากที่คิดไปไกล” ฉันอ้าปากจะเถียง แต่เสียงอาจารย์ใหญ่เรียกให้ทุกคนกลับเข้าห้องประชุมดังขึ้นพอดี หมอเนมจึงแค่ยักคิ้วให้เบาๆ แล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไป ทิ้งฉันยืนตัวแข็ง ใบหน้าร้อนผ่าวจนแทบละลายอยู่กลางโถง บ้าชะมัด! อีตาคุณหมอนี่มันไม่ปล่อยให้ฉันหายใจทั่วท้องเลยจริงๆ! หลังการประชุมจบลง ที่ลานจอดรถมหาวิทยาลัย ผมก้าวออกมาจากอาคารเรียนหลังเสร็จสิ้นการประชุมกับคณะบริหาร อากาศบ่ายคล้อยอุ่นๆ แต่สมองผมยังไม่เลิกวนเวียนถึงสายตากวนๆ ของ “คนไข้ตัวแสบของผม” เมื่อครู่เลยสักนิด “ยัยเด็กนี่ ตัวเล็กแต่ไฟแรงชะมัด ยิ่งพยายามเถียงเท่าไหร่ ผมยิ่งอยากกดเธอให้อยู่หมัดมากขึ้นเรื่อยๆ” แต่พอผมออกมาจากห้องประชุม ก็ไม่เห็นเธออยู่ตรงนั้นแล้ว หลังจากเสร็จจากการประชุมผมก็มาเข้าเวรต่อทันที ห้องพักแพทย์โรงพยาบาล เสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้นขัดจังหวะขณะที่ผมกำลังนั่งอ่านเคสผู้ป่วยรายใหม่อยู่ “สวัสดีค่ะ แผนกสูติฯค่ะ “สวัสดีค่ะ หนู…หนูอยากขอเปลี่ยนคุณหมอค่ะ” เสียงเล็กๆ ที่ลอดมาตามสายทำให้พยาบาลเวรหันไปสบตากับเพื่อนร่วมงาน ก่อนกดรับข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ “ขอทราบค่ะ รบกวนขอชื่อคนไข้ได้มั๊ยคะ” “ชื่อ น.ส.เฌอลีน วัฒนกุลค่ะ” เสียงเธอสั่นนิดๆ “เออ คือ หนู…ไม่สะดวกตรวจซ้ำกับคุณหมอเนมแล้วค่ะ อยากเปลี่ยนเป็นหมอผู้หญิง” พยาบาลพยักหน้า รับคำแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะดำเนินการส่งเรื่องให้นะคะ” ไม่ถึงสิบนาทีหลังจากนั้น ประตูห้องพักแพทย์ก็ถูกเคาะเบาๆ “คุณหมอคะ มีเรื่องแจ้งค่ะ” พยาบาลสาวเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง “คุณเฌอลีน คนไข้ที่หมอนัดตรวจซ้ำ เธอโทรมาขอเปลี่ยนหมอค่ะ บอกว่าอยากได้หมอผู้หญิงแทน” มือที่กำลังพลิกแฟ้มของผมหยุดชะงักทันที ดวงตาหรี่ลงช้าๆ ก่อนมุมปากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เปลี่ยนหมอ?” ผมทวนคำเบาๆ แล้วหัวเราะในลำคอ “คิดจะหนีผมงั้นเหรอ เด็กซนจริงๆ” พยาบาลมองหน้าอย่างเกรงๆ “แล้วจะให้จัดการยังไงดีคะคุณหมอ” ผมวางปากกาลงบนโต๊ะ เคาะนิ้วเป็นจังหวะ ดวงตาเต็มไปด้วยแผนการ “ไม่ต้องเปลี่ยน” “คะ?” “บอกเธอไปว่า หมอเนมเป็นผู้ดูแลเคสนี้ตั้งแต่ต้น การรักษาต้องต่อเนื่อง ไม่สามารถเปลี่ยนได้ตอนนี้ แล้วก็นัดวันเวลาไว้ตามเดิม” เสียงหมอเนมสุขุม แต่เจือรอยยิ้มร้ายกาจ พยาบาลอ้าปากค้าง แต่ก็พยักหน้ารับคำอย่างไม่กล้าเถียง ทันทีที่เธอออกไป ผมเอนหลังพิงเก้าอี้ หัวเราะเบาๆ กับตัวเอง “คิดจะหนีผมงั้นเหรอเฌอ ยิ่งคุณหนี ผมยิ่งอยากจับไว้ให้แน่นกว่าเดิม” ปลายนิ้วผมกดเบาๆ ลงบนแฟ้มคนไข้ตรงชื่อ “เฌอลีน” สายตาคมกริบฉายประกายบางอย่างออกมา “เกมนี้ ผมจะเป็นคนกำหนดเอง” ตอนค่ำในวันเดียวกันหลังจากที่ฉันโทรไปเปลี่ยนหมอเรียบร้อย ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างสบายใจ แต่ทว่าอยู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น “สวัสดีค่ะ โทรจากแผนกสูติฯ โรงพยาบาลไพรม์เฮลธ์ค่ะ” ขอเรียนสายคุณเฌอลีน วัฒนกุลค่ะ “พูดอยู่ค่ะ” ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ “คุณเฌอลีนใช่ไหมคะ ทางเราได้รับเรื่องแล้วค่ะ ดิฉันจะโทรมาแจ้งว่า ไม่สามารถเปลี่ยนหมอได้ค่ะ” ฉันผุดลุกขึ้นนั่งแทบจะทันที “ทำไมคะ! ก็แค่เปลี่ยนหมอเองนี่คะ!” “เพราะคุณหมอเนมเป็นผู้ดูแลเคสของคุณตั้งแต่ต้นค่ะ และเพื่อความต่อเนื่องในการรักษา ทางโรงพยาบาลจึงกำหนดว่า คนไข้ต้องพบแพทย์ท่านเดิมจนกว่าจะสิ้นสุดการรักษาค่ะ” ฉันกัดฟันแน่น กำโทรศัพท์จนข้อนิ้วขาว “นี่มัน…นี่มันไม่แฟร์เลยนะคะ!” พยาบาลยังคงพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพเหมือนหุ่นยนต์ “คุณหมอได้กำหนดวันนัดไว้แล้วนะคะ ขอรบกวนคุณเฌอลีนมาตามนัดด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ” ติ๊ด! สายถูกตัดไป เหลือฉันที่นั่งตาโต หน้าแดงก่ำ ทั้งโกรธ ทั้งอาย ทั้งทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากทิ้งตัวลงกับหมอนแล้วกรี๊ดออกมาอย่างหงุดหงิดสุดขีด “อ๊ากกกกก!! อีตาหมอนั่นมันเล่นตุกติกแน่ๆ!” ฉันพลิกตัวไปมา มือทึ้งผมยุ่ง ๆ ให้ตายสิ นี่ฉันจะต้องกลับไปเจอหมอเนมจริงๆ เหรอเนี่ย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม