วันต่อมา...
คริสเตียนนั่งอยู่ในห้องทำงานด้วยอารมณ์หงุดหงิด อาการนี้เกิดขึ้นตั้งแต่กลับมาจากทานข้าวเมื่อคืน ทุกครั้งที่เขานึกถึงเธอ ภาพของหมอหนุ่มคนนั้นก็จะลอยเข้ามาในหัวของเขาตลอด
“บอกอเล็กซ์เข้ามาพบผมด่วน” คริสเตียนทนไม่ไหวจนต้องโทรบอกเลขาให้ตามอเล็กซ์เข้ามาพบ ไม่นานร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิทก็เดินเข้ามา
“อเล็กซ์เรื่องที่ให้ไปจัดการได้เรื่องหรือยัง” คริสเตียนถามออกไปอย่างไม่รั้งรอ
“ก็ได้มานิดหน่อยครับ” อเล็กซ์ตอบไปตามตรง ปกติเขาก็ไม่ใช่คนที่ทำงานล่าช้า แต่ครั้งนี้เขาต้องยอมแพ้ให้กับความใจร้อนของเจ้านาย ที่สั่งงานยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ
“เธอแต่งงานกับใคร”
“เธอยังไม่ได้แต่งงานหรอกครับ”
คริสเตียนถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมกับสิ่งที่ได้ยิน เธอยังไม่แต่งงานอย่างนั้นเหรอ แล้วที่เธอบอกกับเขาเมื่อคืนหมายความว่ายังไง ทำไมเธอต้องโกหกเขาด้วย
“จากที่ให้คนไปสอบถามจากคนรู้จักของเธอ และสืบค้นจากข้อมูลในประวัติของเธอ เธอไม่เคยแต่งงาน และเธอก็ลาออกจากวงการหลังจากเสร็จงานที่อิตาลี เมื่อห้าปีก่อน เธอยอมจ่ายเงินก่อนโตเพื่อจบสัญญากับต้นสังกัด แล้วก็ไม่มีใครเจอเธออีกเลย”
คริสเตียนคิดตามคำพูดที่ได้ยิน บวกกับสถานการณ์ที่ผ่านมา เขาจำได้ว่าเธอส่งข้อความมาตัดความสัมพันธ์จากเขา ทั้งๆ ที่เขาตั้งใจจะอธิบายให้เธอเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ติดต่อเธออีกเลย
“แล้วคิริณหล่ะ” คริสเตียนถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป หัวใจแกร่งเริ่มเต้นผิดจังหวะเมื่อนึกถึงแววตาของเด็กน้อย
“ในประวัติที่โรงพยาบาล เธอไม่ได้กรอกชื่อพ่อของเด็ก”
ไม่ได้กรอกชื่อพ่อของเด็กอย่างนั้นเหรอ ทำไมหล่ะ ในเมื่อคริสติน่าบอกว่าสามีของเธออยู่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอ ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่
“พอจะหาได้มั้ยว่าเธอเคยควงกับใครหรือมีความสัมพันธ์อะไรกับใครหรือเปล่า”
คริสเตียนถามออกไปด้วยท่าทางจริงจัง ในหัวจินตนาการไปไกล จนหัวใจแทบหยุดเต้น ถ้าสิ่งที่เขาคิดมันเป็นเรื่องจริง
“ผมว่าเรื่องแบบนั้นคงจะยากหน่อย”
“ลองสืบให้หน่อยก็แล้วกัน”
“ครับ”
อเล็กซ์รับคำสั่งแล้วเดินออกไปทันที ปล่อยให้เจ้านายได้คิดทบทวนอะไรบางอย่างด้วยตัวเอง
...
@ สตูดิโอ
นางแบบตัวน้อยยืนโพสต์ท่าถ่ายรูปคู่เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า ในคอนเซปแม่ลูกคู่สวย ทีมงานทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งสองคนเหมือนแม่ลูกกันจริงๆ ไม่ใช่แค่มโนภาพ
“ภาพสุดท้ายนะครับ โอเคครับ”
เสียงของช่างภาพหนุ่มที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนรักของคริสติน่า เขาบอกนางแบบทั้งสองคน แล้วกดถ่ายภาพสุดท้ายในชุดสุดท้าย หลังจากที่เหนื่อยกันมาทั้งวัน
“โอเค เสร็จแล้วครับ” สิ้นเสียงช่างภาพ คุณแม่คนสวยก็รีบเข้าไปหาลูกสาวทันที แล้วถามออกไปด้วยท่าทางเป็นห่วง
“เหนื่อยมั้ยคะ” ไอยลดาถามออกไปพร้อมกับเอาน้ำให้ลูกดื่ม ราวกับว่ากลัวลูกสาวจะเหนื่อยล้ากับสิ่งที่ทำอยู่
“ไม่ค่ะ สนุกมากๆ เลยค่ะ” แต่ลูกสาวกลับยิ้มกว้างโชว์พลังที่เหลือล้นให้ผู้เป็นแม่ดู
“คิริณเก่งมากๆ เลยค่ะ คุณดาสอนลูกได้ดีมากๆ เลยนะคะ” คริสติน่าเอ่ยชมจากใจ ปกติเธอก็รู้สึกเอ็นดูคิริณอยู่แล้ว แล้วยิ่งได้ทำงานร่วมกันได้เห็นความอดทนของเด็กวัยสี่ขวบ ก็ยิ่งทำให้เธอเอ็นดูขึ้นไปอีก จนอยากจะได้เด็กน้อยมาเป็นครอบครัวเดียวกัน
“ฉันไม่ได้เลี้ยงดีอะไรหรอกค่ะ คิริณแกเรียนรู้ด้วยตัวเองซะมากกว่า” คนเป็นแม่พูดจาถ่อมตัวตามนิสัย
ไอยลดาพาลูกสาวมาเปลี่ยนชุดแล้วรีบกลับมาบ้านทันที ก่อนที่จะมีใครบังเอิญมาเจอเข้า แล้วทำอะไรบ้าๆ เหมือนตอนที่อยู่ร้านอาหาร
เพียงแค่นึกถึงคำพูดและการกระทำของเขาเมื่อวาน ก็ทำเอาเธอนอนไม่หลับแทบทั้งคืน กลัวว่าเขาจะรู้ความจริงที่ซ่อนอยู่
..
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องของเธอ คริสเตียนก็ไม่มีสมาธิทำงานเลย ภาพของเด็กน้อยมันวนเวียนอยู่ในหัวของเขาจนเริ่มนั่งไม่ติด
“ยกเลิกงานวันนี้ให้ผมด้วย”
คริสเตียนสั่งเลขาหน้าห้องก่อนจะเดินตรงมาที่ห้องทำงานอเล็กซ์ด้วยท่าทางร้อนใจ
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกโดยที่ไม่ได้ส่งสัญญาณให้คนในห้องรู้เลยสักนิด คริสเตียนหยุดมองสองร่างที่กำลังจูบกับอย่างดูดดื่มอยู่ที่โต๊ะทำงาน โดยมีหญิงสาวนั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มในท่าทางล่อแหลม
“เอ้ย!! ทำไมไม่เคาะประตูหล่ะครับ”
อเล็กซ์ตกใจรีบกอดรัดร่างเล็กไว้ เพราะกลัวเจ้านายจะเห็นเรือนร่างของหญิงสาว
“ถ้าเคาะประตู จะได้ดูหนังสดเหรอวะ”
คริสเตียนพูดออกไปด้วยน้ำเสียงยียวนแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา รอให้อเล็กซ์จัดการตัวเองซะก่อน ถึงแม้ว่าข้างในจะร้อนรนจนอยากจะไปตามสืบด้วยตัวเองก็ตาม
“กลับไปทำงานก่อน เดี๋ยวฉันโทรหา”
อเล็กซ์บอกพนักงานสาวที่กำลังจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเอง
“ค่ะ”
เธอตอบไปด้วยท่าทางเขินอายแล้วรีบเดินออกไปจากห้องทำงานของรองประธานทันที
ใช่แล้ว! อเล็กซ์ไม่ใช่แค่ลูกน้องคนสนิทธรรมดา แต่เขามีตำแหน่งเป็นถึงรองประธาน แต่ที่เขายังทำตัวเหมือนเป็นลูกน้องของคริสเตียนตลอดเวลา ทั้งการกระทำและคำพูด ก็เพราะว่าเขาไม่ชอบความวุ่นวาย โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง ที่เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ ถ้ารู้ว่าเขาไม่ได้เป็นพนักงานธรรมดา
“มีอะไรด่วนเหรอครับ ทำไมถึงได้มาหาผมในยามวิกาลขนาดนี้”
อเล็กซ์ถามออกไปพร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟาที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
“จะเป็นไปได้มั้ยวะ ที่ฉันจะเป็น...” คริสเตียนหยุดชะงักไป
“พ่อของลูกคุณไอยลดา” อเล็กซ์ตอบไปอย่างรู้ทัน
“อืม”
“อันนี้ผมก็ตอบไปไม่ได้หรอกครับ เพราะคนที่รู้ดีน่าจะเป็นเจ้านายมากกว่า”
คริสเตียนนั่งนิ่งคิดทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น เขายอมรับว่าเขาตื่นเต้นกับความบริสุทธิ์ของเธอจนไม่ได้ป้องกัน และที่สำคัญ เขายังปลดปล่อยในตัวเธอทุกรอบ
“ติดต่อหมอให้หน่อย ฉันอยากตรวจดีเอ็นเอ”
คริสเตียนตอบไปด้วยท่าทางรีบร้อน
“ผมว่ามันคงไม่ง่ายขนาดหรอกครับ ที่อยู่ๆ จะไปเอาลูกสาวเขามาตรวจดีเอ็นเอ คุณไอยลดาคงไม่ยอมแน่”
อเล็กซ์พูดออกไปตามที่คิด และเขาก็รู้ดีว่าคริสเตียนใจร้อนจนแทบจะรอไม่ไหว
คริสเตียนกลับเข้ามาในบ้านในช่วงหัวค่ำ ตอนนี้เขาอยากจะปรึกษาใครสักคน และคนนั้นคือน้องสาวของเขา
ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ ต่างจากน้องสาวที่นั่งคุยกำลังมารดาด้วยท่าทางมีความสุข
“คิริณน่ารักมากๆ เลยนะคะคุณแม่ มีแต่คนบอกว่าหน้าตาเหมือนหนูตอนเด็กๆ หนูอยากให้คุณแม่ไปเห็นเอง”
“แม่ก็อยากจะเห็นเหมือนกัน ว่างๆ พามาหาแม่บ้างสิ”
คุณหญิงมองรูปที่ลูกสาวเอามาให้ด้วยแววตาเอ็นดูอยู่ไม่น้อย ปกติท่านก็เป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว แล้วยิ่งได้เห็นหน้าตาของเด็กน้อยที่หน้าตาเหมือนลูกสาวก็ยิ่งเอ็นดูเข้าไปใหญ่
“หนูก็อยากจะพามานะคะ แต่คุณดาคงไม่ยอม” คริสติน่าพูดออกไปตามตรง เธอพอจะดูออกว่าไอยลดาไม่ค่อยชอบหน้าพี่ชายของเธอเท่าไหร่
“ทำไมหล่ะลูก เราก็แค่ชวนมาทานข้าวที่บ้าน ไม่ได้มีอะไรเสียหายหนิ”
“เอาไว้หนูจะลองชวนดูนะคะ” คริสติน่าพูดออกไปด้วยท่าทางลำบากใจ ก่อนจะหันไปเจอพี่ชายที่มองอยู่พอดี
“พี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ”
“ได้สิคะ”
“พี่ไปรอที่ห้องทำงานนะ”
“พี่เราเป็นอะไรหรือเปล่า วันนี้ดูท่าทางแปลกๆ นะ”
“ไม่รู้สิคะ เดี๋ยวหนูมานะคะ”
คริสติน่าเดินตามคริสเตียนเข้าไปในห้องทำงานทันที เธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพี่ชายเครียดเรื่องอะไร
“มีอะไรเหรอคะ ทำไมถึงได้ทำหน้าเคร่งเครียดขนาดนั้น หรือว่าพี่ไปทำผู้หญิงท้อง!!”
คำถามของน้องสาว ทำเอาพี่ชายสะดุ้งเลยทีเดียว แต่ก็ยังคงทำหน้านิ่งไว้ เผื่อบางทีมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด และคงต้องรอพิสูจน์จากอะไรหลายๆ อย่างก่อน
“ใจเย็นๆ นั่งลงก่อน”
“วันนี้พี่ดูแปลกๆ นะคะ” คริสติน่าพูดออกไปพร้อมกับเดินไปนั่งที่ว่างฝั่งตรงข้ามพี่ชาย
“เอ่อ... น้องว่าคิริณเป็นยังไง” คริสเตียนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน จึงได้แต่ถามออกไปอย่างนั้น
“ก็น่ารักดีค่ะ พี่มีอะไรหรือเปล่า” คริสติน่าขมวดคิ้วด้วยความสงสัย บอกตามตรงว่าเธอไม่เคยเห็นพี่ชายในมุมนี้เลย
“เอาตรงๆ เลยนะ”
“ค่ะ น้องรอฟังอยู่” ตากลมโตจ้องที่ใบหน้าพี่ชายราวกับว่ากำลังจับผิด
“พี่กับไอยลดาเคยมีอะไรกัน”
OxO!!
“พี่จะบอกว่าพี่เป็นชู้กับคุณดาเหรอคะ มิน่าหล่ะ คุณดาถึงทีท่าทางแปลกๆ เวลาเจอพี่ เลิกเถอะนะคะ ก่อนที่สามีคุณดาจะรู้”
“ไปกันใหญ่แล้ว เรื่องของพี่กับไอยลดามันตั้งนานแล้ว แล้วพี่ก็ไม่ได้เป็นชู้ด้วย”
“น้องเริ่มงงแล้วนะคะ”
“พี่กับไอยลดามีอะไรตั้งแต่ก่อนที่เธอจะมีลูกซะอีก”
“.. ? ..” คริสติน่ายังคงทำหน้าไม่เข้าใจ
“แล้วก็ก่อนเธอจะลาออกจากวงการได้ไม่นาน”
“พี่ป้องกันหรือเปล่า”
คริสติน่าถามออกไปด้วยท่าทางตื่น ในหัวคิดอะไรไปไกลยิ่งกว่าพี่ชายซะอีก แล้วถ้าสิ่งที่เธอคิดมันเป็นความจริง เธอคงจะดีใจมาก
“ไม่!”
“ทำไมหล่ะคะ ถ้าน้องจำไม่ผิด ตอนนั้นพี่กำลังจะแต่งงานไม่ใช่เหรอคะ”
“มันก็ใช่ ตอนนั้นพี่ไม่คิดจะจริงจังกับเธอ ก็แค่นึกสนุกตามปะสาผู้ชาย” คริสเตียนตอบไปตามตรง
“ถ้าไม่จริงจัง แล้วทำไมพี่ไม่ป้องกันคะ ถ้าตอนนั้นคุณดาท้องพี่จะทำยังไง...” คริสติน่าหยุดชะงักไป แล้วทบทวนกับคำพูดของตัวเอง
“น้องว่าคิริณมีโอกาสจะเป็นลูกของพี่มั้ย” คริสเตียนถามออกไปด้วยความสับสน ตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ออกจริงๆ
“น้องก็ไม่แน่ใจ แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นไปได้นะคะ”
คริสติน่าพูดออกไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวนั่งฟังในสิ่งที่พี่ชายกำลังเล่าให้ฟัง เธอรู้สึกดีตั้งแต่ยังไม่รู้ความจริงด้วยซ้ำ มันมีสิทธิ์มากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำที่คิริณจะเป็นลูกของคริสเตียน