ตอนที่ 2 เจ็บต่อไป

1002 คำ
สามสิบนาทีต่อมา….. @ร้านอาหาร “ไหนบอกว่าไม่หิว?” คนที่บอกว่าไม่หิวก่อนหน้านี้ มาถึงร้านก็สั่งอาหารชนิดที่ว่าโต๊ะแทบไม่มีพื้นที่ให้วางแล้วนะ “สั่งให้นายไง เห็นอยากกินมาก” “หึ” ผมได้แต่มองเจ้าของใบหน้าเรียวสวยได้รูปที่หันไปสั่งอาหารกับพนักงานประมาณสิบกว่าอย่าง คือกินกันสองคนยังไงให้หมด และไม่นานอาหารที่ควีนสั่งไปก็ทยอยมาเสิร์ฟ “อันนี้อร่อยมาก” เธอตักต้มยำกุ้งเข้าปาก ก่อนจะเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วหันไปตักผัดผักรวมอีก “ทำไมนายไม่กิน?” เธอถามผมอย่างสงสัย “กลัวเธอกินไม่อิ่ม” ความจริงก่อนหน้านี้ผมกินข้าวมาแล้วนะ แต่เห็นว่าควีนยังไม่ได้กินอะไร บวกกับที่เธอเอาแต่จะดื่มเหล้าท่าเดียว ผมก็เลยพาเธอออกมาหาอะไรกินข้างนอก “ฉันไม่ได้กระเพาะควายนะ เอ้านี่กินเลย” เธอหันไปตักข้าวผัดปูมาใส่จานให้ผม ก่อนจะตักให้ตัวเองแล้วนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย ผมนั่งมองร่างบางที่นั่งเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ พลันนึกไปถึงคำพูดที่เธอพูดตอนอยู่คอนโดเมื่อกี้ ‘ไม่ไป ไม่หิว’ ‘ไม่หิวก็ต้องกิน’ ‘ไม่กิน’ “ยิ้มอะไร?” เสียงใสเอ่ยถามผมอย่างสงสัยอีกครั้ง “เปล่า” ขืนถ้าบอกไปตามตรง มีหวังคนตรงหน้าต้องหยุดกินแน่ๆ อีกอย่างเธอพึ่งกินไปได้แค่สี่ห้าคำเอง เราสองคนใช้เวลากินข้าวประมาณหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่ควีนจะชวนผมไปซื้อของต่อบนห้าง ซึ่งผมก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะผมรู้ดีว่าเวลาที่ควีนมีเรื่องอะไรในใจเธอมักจะหาที่ระบายด้วยการใช้เงิน “ชุดนี้สวยไหม?” “สวยดี” “แล้วชุดนี้ล่ะ?” “ก็ดี” ผมมองร่างบางที่หยิบชุดนั้นชุดนี้ขึ้นมาทาบบนตัวของตัวเองแล้วหมุนตัวอยู่หน้ากระจกแบบสามร้อยหกสิบองศา พร้อมกับตอบคำถามของเธอ คือเอาจริงๆควีนเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆคนนึงเลยนะ สวยชนิดที่แบบว่าทำใจผมสั่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เธอเลยก็ว่าได้ “เอาหมดนี่เลยค่ะ แล้วก็เอาชุดนั้น ชุดนั้น ชุดนั้น ด้วยนะคะ” เธอหันไปบอกพนักงานพร้อมกับชี้นิ้วไปยังชุดเดรสที่แขวนอยู่บนราวสองสามตัว “ซื้อไปขาย?” ผมมองตามพนักงานที่ถือชุดเดรสแบรนด์ดังประมาณสิบกว่าชุดไปคิดเงินที่เคาน์เตอร์ ก่อนจะหันไปถามควีนทั้งๆที่ก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว “ซื้อไปใส่ไม่ได้ซื้อไปขาย เดี๋ยวขอไปดูรองเท้าอีกสักสองสามคู่นะ” แล้วควีนก็เดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ก่อนที่เธอจะยื่นถุงกระดาษที่รับจากพนักงานมายื่นให้ผม ซึ่งผมก็รับมันมาอย่างว่าง่าย เราสองคนพากันเดินซื้อของแทบจะทุกช้อปที่อยู่บนห้าง เดี๋ยวก็แวะร้านกระเป๋า เดี๋ยวก็แวะร้านนาฬิกา แล้วก็ร้านอื่นๆอ**บราๆๆ จนตอนนี้มือผมแทบจะไม่เหลือที่ว่างให้หิ้วอะไรแล้วนะ “เดี๋ยวขอเข้าร้านนั้นอีกร้านนึงนะ” ควีนชี้นิ้วไปยังร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง จนผมต้องเอ่ยปากพูดออกไป “แค่ที่ฉันถือ กับที่คอนโดเธอ ใส่ยันชาติหน้าก็ไม่หมดแล้วนะ” “จิ๊ส์ งั้นนายจะซื้ออะไรไหม ฉันไม่มีอะไรที่อยากได้แล้ว” “ไม่มี” “ไม่มีงั้นก็กลับ” ใช้เวลาไม่นานผมก็ขับรถมาส่งควีนที่คอนโดของเธอ พร้อมกับหิ้วถุงเกือบยี่สิบถุงขึ้นไปส่งเธอบนห้อง “จะกลับเลยไหม?” “ใช้งานฉันเสร็จก็ไล่เลยเหรอ” “เปล่าไล่ แค่ถามเฉยๆปะ” ฟุ่บ!! ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาขนาดใหญ่ในห้องของเธอพร้อมกับเอ็นหลังพิงพนักโซฟา แล้วยกขาขึ้นพาดบนโต๊ะกระจก ส่วนควีนก็เดินไปหยิบขวดน้ำเปล่าในตู้เย็นออกมา พร้อมกับแก้วอีกหนึ่งใบ แล้วยื่นมาให้ผม “รับไปสิ” “รินใส่แก้วให้ด้วย” เพราะตอนนี้แขนผมล้าไปหมดแล้วนี่พูดจริง แทบไม่มีแรงเปิดฝาขวดน้ำอะคิดดู “ฉันไม่ใช่ขี้ข้านายนะ” “ฉันก็ไม่ใช่ขี้ข้าเธอเหมือนกันแต่ฉันก็หิ้วของพวกนั้นเกือบสองชั่วโมง แล้วยังต้องหิ้วขึ้นมาส่งให้เธอบนนี้อีก” ผมพยักพเยิดหน้าไปยังถุงกระดาษที่วางอยู่บนพื้น ก่อนจะหันไปมองหน้าควีน “จิ๊ส์ อะเอาไป” เธอทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ แต่สุดท้ายก็ยอมรินน้ำใส่แก้วให้ผม ซึ่งผมก็รับมาดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว ก่อนจะยื่นแก้วเปล่าคืนให้เธอ “สบายใจขึ้นแล้วใช่ไหม?” หลังจากที่ควีนเดินมานั่งที่โซฟาตรงข้ามกับผม ผมก็เอ่ยถามเธอออกไป “ไม่” “ก็บอกว่าให้ตัดใจ” ตัดใจจากองศาแล้วหันมามองฉันบ้างได้ไหมควีน ผมได้แต่พูดประโยคนี้อยู่ในใจ จะพูดออกไปก็กลัวจะเสียเพื่อน “มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นไงเจเดน ฉันรักของฉันมากี่ปีนายเองก็รู้” ก็เพราะรู้ไงฉันถึงไม่เคยบอกความในใจของฉันกับเธอ ประโยคนี้ผมได้แต่พูดในใจ “งั้นก็เจ็บต่อไป ฉันกลับล่ะ” พูดจบผมก็หยัดกายขึ้นเต็มความสูงของตัวเอง ก่อนจะเดินออกจากห้องของควีนมาด้วยอารมณ์บางอย่าง บางอย่างที่มันอัดอั้นอยู่ในใจของผมตอนนี้!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม