บรรยากาศภายในห้องสมุดเล็กภายคฤหาสน์เต็มไปด้วยความตรึงเครียด หลังจากที่หญิงสาวหน้าตาสะสวยกำลังเคร่งเครียดกับผลสอบมหาวิทยาลัยดังในอังกฤษ ที่ตัวเองพยายามจะสอบเข้าเกือบสองปีแต่ก็พลาดมาตลอด ตอนนี้เธอจะอายุ 24 ปีแล้ว ถ้ายังไม่ได้เธอคงต้องเรียนต่อปริญญาโทที่ไทยแล้วจริงๆ สินะ
"โอ๊ยยยย ขอให้ผ่านทีเถอะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบ้านหลังนี้ ถ้ารอบนี้ลูกสอบติดจะถวายหัวหมู 9 หัว ไข่ต้ม 99 ฟองเลย" พราวรีบยกมือไหว้ตามที่เพื่อนสนิทบอกมา ในเมื่อพึ่งความฉลาด พึ่งดวงไม่ได้ คราวนี้เธอคงต้องพึ่งสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นแล้ว
ติ๊ง!!
ไม่นานจดหมายประกาศผลการสอบแบบออนไลน์ก็ถูกส่งเข้าอีเมลของเธอ คนที่รอเวลานี้มานานถึงกับใจเต้นแรง ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่มีการสอบหรือประกาศผล เธอก็จะตื่นเต้นแบบนี้ทุกครั้ง ในที่สุดนิ้วเรียวสวยก็กดไปที่แป้นพิมพ์ ข้อความถูกส่งมาทำให้เธอใจเต้นแรงมากจนจะทะลุออกมาอยู่แล้ว
"กรี๊ดดดดดดด~"
ปัง!!
"เกิดอะไรขึ้น พราวเป็นอะไรลูก"
คนเป็นพ่อที่อยู่ห้องใกล้ๆรีบวิ่งหน้าตาตื่นมาดูหลังจากได้ยินเสียงกรี๊ดดังเพราะกลัวลูกสาวจะเป็นอะไร พอมาถึงเห็นลูกนั่งน้ำตาไหลอาบแก้ม เขาก็ฉุกคิดได้ทันทีวันนี้ผลสอบของลูกสาวออก คงจะผิดหวังอีกแล้วสินะ
"โถ่~ลูกพ่อไม่เป็นไรนะ มหาวิทยาลัยที่ไทยเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องจบมาจากอังกฤษเหมือนพ่อกับแม่ก็ได้ ไว้เดี๋ยวพ่อจะมหาลัยชั้นนำให้เลยดีไหม" พงศ์เดินเข้ามาใกล้ๆ ลูกสาวก่อนจะวางมือไว้บนผมนุ่มแล้วลูบไปมาเบาๆ อย่างปลอยโยน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ดีใจนะเพราะถ้าไม่ติดลูกก็ไม่ต้องไปอยู่ไกลๆ
"พ่อคะ พราวสอบติดแล้ว"
"ไม่เป็นไรลูกแค่สอบติดมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร...ห๊ะ!! สอบติด พราวสอบติดแล้วเหรอลูก...ที่รักครับ!! ลูกเราสอบติดแล้ว ที่ร้ากกกกกก"
กลายเป็นว่าตอนนี้พ่อจะดีใจมากกว่าลูกสาวซะอีก เสียงโวยวายที่แสนดีใจของพงศ์ทำให้ทั้งคนรับใช้ คนสวย พ่อครัวและภรรยาที่กำลังนั่งจัดดอกไม้อยู่ยิ้มอย่างมีความสุข รวมถึงพราวที่ยิ้มกว้างออกมาจนเห็นลักยิ้มทั้งสองข้างเพราะกับความดีใจของพ่อที่มีมากกว่าเธอไม่ได้ สุดท้ายแล้วพ่อก็หวังในใจลึกๆ ให้เธอสอบติดที่นั่นสินะ
"ฉลอง! แบบนี้ต้องฉลองสักหน่อย"
เกือบสองชั่วโมงแล้วที่รู้ข่าว แต่พงศ์ก็ยังไม่หยุดตื่นเต้นและก็ดีใจ ทำเอาคนเป็นภรรยากับลูกมองหน้ากันแล้วถอนหายใจยาวออกมา
"พ่อคะ ไว้ฉลองวันหลังนะคะ วันนี้พราวจะขอออกไปฉลองกับพวกระสาที่คลับสักหน่อย"
"เอ๊~ ฉลองที่บ้านเราก็ได้นะลูก ไม่ไปไม่ได้เหรอมันอันตรายนะ" พอได้ยินว่าลูกสาวจะไปที่อโคจร พงศ์ก็อดห่วงไม่ได้แม้ว่าลูกจะโตแล้วก็ตาม
"พราวโตแล้วนะคะ อีกอย่างก็ไม่ได้ไปครั้งแรกสักหน่อย นะคะพ่อให้พราวไปนะคะ" พราวใช้สายตาที่เต็มไปด้วยการอ้อนวอนขอร้องพ่อ เธอรู้ดีว่าการทำแบบนี้จะทำให้พ่อใจอ่อน
"เฮ้อ~ ก็ได้ลูก แต่ว่าห้ามเกินเที่ยงคืนนะแล้วถ้าดื่มก็โทรศัพท์มาบอก พ่อจะให้คนขับรถไปรับ"
ถึงจะอนุญาตแต่พงศ์ก็ยังอดห่วงไม่ได้ เพราะลูกสาวของเขายิ่งโต ยิ่งสวย ทำเอาเขาอดห่วงไม่ได้ แล้วตอนนี้เขายิ่งต้องคิดหนักกว่าเดิมเพราะลูกสาวจะต้องไปอยู่ที่อังกฤษคนเดียวหรือเขากับภรรยาควรย้ายไปอยู่ด้วยเลย
"ได้เลยค่ะ ถ้าพราวดื่มเมาจนจะรีบโทรศัพท์หาพ่อเลย ดีไหมคะ งั้นพราวขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะพ่อ"
พูดจบพราวก็วิ่งออกไปทันที ทิ้งให้พ่อนั่งถอนหายใจยาว ส่วนภรรยาที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างสงสัยว่าลูกสาวรีบเดินออกไปไหน
"คุณคะลูกไปไหนเหรอ?"
"ลูกบอกว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนนะ"
"อ่อ...แล้วคุณเป็นอะไรคะ ทำไมทำหน้าเคร่งเครียดขนาดนั้น" นิชานั่งลงข้างๆ สามีก่อนจะดึงแก้มทั้งสองข้างของคนรักที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาตั้งแต่เด็กออกจนหน้ายืดเหมือนคนกำลังยิ้ม
"ที่รักครับ ผมห่วงลูกจัง ถ้าลูกไปอยู่ที่นั่นคนเดียวจะเป็นอันตรายไหม ควรซื้อบ้านให้ลูกหรือว่าให้อยู่หอในหอหรือพวกเราควรย้ายไปอยู่ที่นู่นเลย"
พงศ์จับมือของนิชาที่ดึงหน้าตัวเองมาเกาะกุมไว้แล้วโน้มตัวเอาหัวตัวเองไปนอนซบที่ตักของคนรัก
"ว่าแล้วคุณต้องคิดเรื่องนี้ เรามีตัวเลือกที่ดีกว่าสิ่งที่คุณคิดอยู่ไม่ใช่เหรอคะ"
"ตัวเลือกที่ดีกว่า?"
"อย่าลืมสิคะว่าแต่ก่อนเรามีเพื่อนสนิทที่ไปอาศัยอยู่ที่บ้านเขา ถ้าจะขอร้องให้เขาช่วยพาลูกสาวเราเข้าไปดูแลอีกคนคงไม่เป็นไร"
คำพูดของนิชาทำให้พงศ์นึกถึงเพื่อนสนิทที่ขาดการติดต่อไปเกือบ 3 ปี นับตั้งแต่ที่เขาได้ยินข่าวการหย่าร้างสายฟ้าแลบพอ ๆ กับข่าวแต่งงาน
"แต่มันออกจากเกาะไข่มุกหรือยังเถอะ"
"คงต้องลองติดต่อดู ไม่อย่างนั้นอาทิตย์หน้าคุณก็จะบินไปอเมริกา บินไปอังกฤษต่อก็ได้นิคะ"
"นั่นสิ...ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะให้เลขาเตรียมตั๋วเครื่องบินไว้ให้ด้วย"
หลังจากที่เขาได้ยินทางออกที่ดีสำหรับเรื่องที่กำลังกังวลใจ เขาก็ไม่ชักช้าที่จะรีบหาทางติดต่อกับเพื่อนทันที
MAx KUB
"ไงว่าที่นักเรียนนอกคนใหม่ป้ายแดง"
แสงไฟสลัวที่ส่งกระทบคนตัวเล็กที่ใส่ชุดสีขาวสะอาดตากำลังเดินเข้ามาที่โต๊ะ ทำให้ระสารีบแซ่วขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่มาคือเพื่อนสนิทที่คบหากันตั้งแต่เด็กและเป็นคนที่นัดเธอออกมาวันนี้
"เหอะ น่าภูมิใจตายแหละจะสองปีแล้วเพิ่งจะสอบติด ส่วนพวกแกเรียนคนจะจบโทต่อเอกกันอยู่แล้ว"
ใบหน้าประชดประชันของพราวทำให้ระสาอดขำไม่ได้ ทุกคนอาจจะคิดว่าทำไมพราวถึงต้องพยายามสอบให้ติดมหาวิทยาลัยนี้เท่านั้นเพราะอยากเรียนตามพ่อกับแม่ แต่ความจริงแล้วพราวแค่อยากเอาชนะที่ถูกปฏิเสธเท่านั้นเอง
"เข้ามหาลัยเดียวกับฉันก็จบ"
"ช่างเถอะยังไงก็สอบติดแล้ว จริงสิยัยวาเล่าให้ฉันฟังว่าแกเลิกกับพี่มาร์คเหรอ" พราวถามพลางยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่ม
"อืมมม...ฉันจับได้ว่ามันไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น"
"ฉันบอกแกแล้วว่าไอ้พี่คนนี้มันดูไม่ซื่อสัตย์ ดูแบบเป็นพวกที่แว้งกัดคนที่เลี้ยงดูตัวเองเป็นอย่างดีตลอดเวลา"
พอนึกถึงใบหน้าของคนรักเพิ่งเก่าของเพื่อนก็อดหงุดหงิดไม่ได้ เพราะชอบส่งสายตาให้เธอ ทั้งที่เพื่อนเธอทำดีด้วยทุกอย่างทั้งช่วยเรื่องค่าเทอม ค่าที่พัก ยังกล้าหักหลังระสาอีก
"ช่างมันเถอะ ถือว่าทำทานให้หมามันแดก"
"เฮ้อ~ แกจะสอบไปแลกเปลี่ยนที่อังกฤษไหม"
"ทำไมกลัวว่าจะไม่มีเพื่อนเหรอ แต่พี่คนนั้นเขาก็อยู่ที่นู่นนิ...พวกยัยเจนบอกว่าแกอยากเรียนที่นู่นเพราะผู้ชายคนนั้น"
"ฮ่า ๆ ฉันจำเรื่องของเขาไม่ได้เลยสักนิด คบกันแค่ 2 ปี ไม่ได้ทำให้ฉันต้องลงทุนลงแรงขนาดหรอก"
พราวนึกถึงใบหน้าของแฟนเก่าที่แสนจะเลือนรางไปแล้วอีกครั้ง ความจริงเธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาเรียนอยู่ที่อังกฤษหรือเธอควรจะยกเลิกแล้วเรียนต่อที่ไทยดีนะ แต่ก็ช่างเถอะโลกคงไม่กลมขนาดนั้นหรอกมั้ง เธอเลือกที่จะเลิกนึกถึงเรื่องเก่าที่ผ่านมาแล้วสนุกกับเมืองไทยเป็นวันสุดท้าย ก่อนจะจากไปอยู่ที่อื่น