บทที่ 12 : ฉันโชคดีที่เจอเธอ

1224 คำ
หลังจากที่หลุดพ้นจากความวุ่นวายจากกลุ่มเพื่อนของนธี เมื่อทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยก็แยกย้ายทางใครทางมัน โดยที่น้ำอิงและนธีก็กลับไปยังคลินิกที่เอานีโม่ไปฝากไว้ “อีกสองสัปดาห์ต้องพาน้องมารับวัคซีนด้วยนะคะ ตอนนี้น้องยังเล็กเกินไป และน้ำหนักน้อยมากควรให้นมทุก ๆ สองถึงสามชั่วโมง และกระตุ้นการขับถ่ายไปก่อน” หลังจากคุณหมอแนะนำการเลี้ยง นธีก็ถามเพิ่มเติมไปหลายคำถามจนกระทั่งหมดข้อสงสัยเขาก็เดินเพื่อไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์ จนน้ำอิงถึงกับนิ่วหน้ากับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของวันนี้ แต่ถึงเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่บ่นอะไรออกมาเลย มือเล็กยกตะกร้าขึ้นมาพบว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตมีขนที่ทำให้นธีเงินสะพัดไปทั่วนั้นหลับปุ๋ยสบายใจจนอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มออกมา “หลับเหรอ” “ใช่ ไม่เห็นสนใจพวกเราเลย” ร่างสูงที่ชำระเงินเรียบร้อยเดินกลับมาหาเห็นน้ำอิงมองลอดผ่านกรงไปจ้องก้อนกลม ๆ ก็เอ่ยถาม คนตัวเล็กที่ก่อนหน้านี้เป็นตายยังไงก็ไม่ยอมเลี้ยงบัดนี้ยังไม่มีวินาทีไหนที่หยุดยิ้มเลยตั้งแต่มารับลูกแมวไปถือ เป็นภาพที่น่ารักดี แต่ถึงอย่างนั้นมือหนาก็รับกรงไปถือแทนเพราะต้องรีบกลับไปจัดการของต่าง ๆ ให้น้ำอิงและเจ้าตัวเล็กอีกมาก ใช้เวลาไม่นานรถหรูก็จอดที่ใต้หอ กว่าจะขนของทั้งหมดขึ้นมาด้านบนหมดก็เล่นเอาทั้งคู่เหนื่อยหอบ ดวงตาคมกวาดมองไปทั่วห้องที่ค่อนข้างกว้างกว่าที่เขาคิดมาก และยกยิ้มขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวเมื่อพบว่าภายในห้องนั้นเรียบร้อยมาก ๆ แม้ว่าคำพูดคำจาจะไม่ค่อยเข้ากับหน้าตา แต่ดูเหมือนนิสัยจะเรียบร้อยเหมือนหน้าตาอยู่บ้างนะ เขามาที่หอนี้อยู่หลายครั้งแต่ก็อยู่ได้แค่ด้านล่างและร้านก๋วยเตี๋ยว นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ก้าวเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของอีกฝ่าย “เดี๋ยวต้องเลื่อนโซฟาไปติดฝั่งประตูไหม แล้วคั่นคอกไว้อีกฝั่งใกล้ห้องนอนพอดี” เขาละความสนใจจากรอบห้องไปหาคนที่ยืนจัดแจงพื้นที่อยู่ และเริ่มค้นของจากถุงที่ไปซื้อจากห้างมาวางเกลื่อนกลาด “ต่อเป็นเหรอ” นธีถามเมื่อน้ำอิงหยิบคอกที่ไว้สำหรับกั้นสัตว์เลี้ยงออกมา “อย่าดูถูกนะ แค่นี้ทำไม่เป็นได้ไง” “ต่อเป็นแล้วจะเสร็จตอนไหนเถอะ ช่วยกันดีกว่า” “งั้นก็ลุกสิ นายจะนอนกินแรงอีกนานไหมล่ะ” ใบหน้าหล่อกลอกสายตาผ่านแว่นสายตา ใจคอคนตัวเล็กคงจะลืมไปแล้วว่าเขาเป็นคนขนของทั้งหมดขึ้นมา แต่คนที่พูดนั้นยกเพียงแค่ตะกร้าใส่แมวเท่านั้น ใครกันแน่ที่กินแรง ถอนหายใจนิดหน่อย เขาก็เข้าไปนั่งร่วมวงด้วยจะได้ทำอะไรให้เสร็จ ใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่ทุกอย่างจะเรียบร้อย น้ำอิงที่ตอนแรกออกตัวว่าต่อเป็น สุดท้ายก็ล่าถอยไปทำอย่างอื่นแทน “ว้าวว บ้านน้องเสร็จแล้วครับผม” เสียงใสพูดกับลูกแมวที่ยังนอนอุตุอยู่ในกรง “ตื่นมาดูหน่อยไม่ได้หรือไง คนอุตส่าห์ต่อกันแทบตายนะเนี่ย” ร่างสูงหลุดหัวเราะที่คนทะเลาะกับแมวหลับได้ด้วย น้ำอิงมองค้อนใส่เจ้าลูกแมวน้อยอย่างไม่จริงจังนัก ก็วางมันลงที่เบาะนุ่มที่นธีเป็นคนเลือก แมวน้อยที่รู้สึกแปลกที่แปลกทางก็เดินไปรอบ ๆ ครู่หนึ่งเงยมองเจ้าของทั้งสองคนครู่ใหญ่ก่อนจะร้อง... “เหมียว~” ก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วรู้สึกอะไรกันแน่ แต่ก็ขอมโนไปเองว่า นีโมชอบมันมากก็แล้วกันนะ ! “อะไรเนี่ย นอนอีกแล้ว” “ลูกแมวก็นอนเยอะแบบนี้แหละ หรือไม่ก็ติดนิสัยนอนเยอะจากเธอ” “วันนี้นายก็แอบนอนหลับในห้องเหมือนกันไม่ต้องมาแซวคนอื่น” “ก็หาข้อมูลเลี้ยงแมวน่ะสิ” “ฉันก็เหมือนกัน” “เหรออ” ใบหน้าสวยคว่ำลง นี่เธอพูดจริงนะเนี่ย ! ทำไมถึงไม่เชื่อกันมั่ง ไม่ใช่แค่เขาที่อยากเลี้ยงเจ้าตัวเล็กให้ดีคนเดียวซักหน่อย เธอก็จะทำมันให้ดีด้วยเหมือนกัน หน้าเขายิ้มเหมือนล้อเลียนว่าถึงไม่มีแมวเธอก็แอบหลับในห้องอยู่ดี นธีลุกขึ้นไปล้างมือก่อนจะกลับมาแล้วก้าวเข้าไปนั่งในคอกแมว พักเดียวเท่านั้นลูกแมวที่รับรู้ว่ามีบางอย่างอยู่ในบ้านก็ตื่นขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะมันรู้สึกได้หรือเปล่าว่านธีคือผู้มีพระคุณ มันถึงเดินมาหาและพยายามปีนไปนอนบนตัก เมื่อฝ่ามือหนาลูบเบา ๆ ที่หัวมันก็นอนต่ออย่างกับอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย เป็นภาพที่เห็นทำเอารู้สึกบอกไม่ถูก เกิดมาแม่ก็ทิ้งทั้งที่ยังไม่ลืมตาเลย ส่วนตัวอื่นที่เกิดมาด้วยกันก็ตายจากไปจนหมด คงจะเหงาน่าดู เมื่อวานนีโม่ยังนอนหนาวอยู่ในลังกระดาษเก่า ๆ ไม่รู้ว่าจะอดหรือตัวอะไรจะมากัดหรือเปล่าอยู่เลย แต่วันนี้กลายเป็นแมวไฮโซได้รับการรักษาอย่างดี มีที่นอน ข้าวของราคาแพง และเจ้าของที่ใส่ใจไม่เหงาอีกต่อไปแล้ว เพราะมาเจอผู้ชายใจดีอย่างนธี อาจจะเพราะจริง ๆ ในใจลึก ๆ นั้นน้ำอิงก็รู้สึกขอบคุณเขาอยู่ตลอด เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกต่างจากแมวตัวนี้ซักเท่าไหร่ เหมือนนธีก็เก็บเธอมาจากข้างทาง เพราะรู้จักเขาเธอก็เลยมีเพื่อนหลายคน มีทั้งคนช่วยสอนหลายอย่างที่คนแบบเธอไม่รู้ ทุกอย่างเหมือนง่ายไปหมดเพราะมีนธี “ขอบคุณนะ...” “หือ ?” มือที่ลูบหัวแมวชะงักเมื่อได้ยินเสียงเบา ๆ ดังมาจากด้านหลังจนต้องหันกลับไปมอง เห็นคนที่นั่งพื้นอยู่ด้านนอกที่กั้นแมว ใบหน้าสวยยิ้มด้วยสายตาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน “มองอย่างงั้นทำไม” “ลูกแมวพูดไม่ได้ ก็เลยขอบคุณแทน ถ้านีโม่ไม่เจอนายจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้” “งั้นก็ขอบคุณเธอด้วย” “ฉันก็แค่ให้ที่อยู่เองนะ ไม่ได้หนักหนาอะไรขนาดนั้น” “ขอบคุณที่ฉันเจอเธอนะ...” คนตัวเล็กนิ่งงัน เพิ่งจะนึกขอบคุณเขาอยู่ในใจเมื่อครู่ แต่กลับกลายเป็นเขาที่พูดขอบคุณเธอเสียเอง ทั้งที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลยด้วยซ้ำ ใบหน้าหล่อหันกลับไปมองลูกแมวที่นอนอยู่บนตัก “ฉันอยากเลี้ยงแมวมานานแล้วแต่อย่างที่บอกไปที่บ้านไม่เอื้ออำนวยก็เลยไม่ได้เลี้ยงซักที” “...” “นีโม่อาจจะโชคดีที่เจอฉัน แต่ถ้าฉันไม่เจอเธอก็คงทำอะไรไม่ได้ พูดให้ถูกคือทั้งฉันและนีโม่ โชคดีที่เจอเธอนะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม