บทที่ 13 : เอ็นดู

1952 คำ
พิธีเปิดงานกีฬามหาวิทยาลัย CCU ภายในห้องที่เต็มไปด้วยช่างแต่งหน้าที่กำลังเร่งทำเวลาในการแต่งหน้าของตัวแทนคณะทุกคน ไม่ว่าจะเป็นถือป้าย หลีดมหาวิทยาลัย ซึ่งแต่ละคนมากันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างจนตอนนี้หลายคนแต่งหน้ากันเสร็จเรียบร้อยก็พากันออกไปเพื่อถ่ายรูปจนถึงคิวของคนถัด ๆ ไป "คอหนูค่อนข้างยาวเดี๋ยวพี่มวยผมต่ำดีกว่าเนอะโชว์ต้นคอเยอะ ๆ" "ค่ะ" คนที่ไม่ค่อยประสีประสาพยักหน้าตอบรับ อะไรที่ช่างบอกดีน้ำอิงก็ว่าดี เธอค่อนข้างจะง่วงเนื่องจากช่วงนี้เลี้ยงแมวด้วยต้องลุกขึ้นมากลางดึกบ่อย ๆ กิจวัตรคือการป้อนนมเจ้าตัวเล็ก โชคดีที่วันนี้เธอมีคนไปรับตั้งแต่เช้า ระหว่างที่อาบน้ำและเก็บของที่จำเป็นเพื่อเอาไปเปลี่ยนที่มหาลัยฯ ตอนเช้าก็เลยให้นธีเป็นคนป้อนนมลูกชายของเขาแทน ประมาณครึ่งชั่วโมงที่พวกพี่ ๆ จัดการแปลงโฉมให้คนที่นอนไม่พอได้ดูสดใสจนเหมือนเป็นคนละคน สเปรย์ล็อกหน้าและผมจนคลุ้งไปทั่วห้องเป็นอันเสร็จสิ้น "หนูไปใส่ชุดได้เลยค่ะ กินมื้อเช้าระวังลิปสติกเลอะด้วยน้า" "ค่า" เป็นความโชคดีอย่างหนึ่งที่คนถือป้ายใส่เป็นชุดพิธีการทำให้ขั้นตอนไม่ยุ่งยากเท่ากับหลีด กับคฑากรที่แต่งกันแบบจัดเต็ม แต่โชคร้ายตรงที่เธอเป็นคนตัวค่อนข้างเล็กก็เลยต้องใส่รองเท้าส้นสูง 6นิ้ว และแน่นอนได้รับสปอนเซอร์มาจากพี่ออย ทางมหาวิทยาลัยมีมื้อเช้าให้เป็นขนมปังแต่เธอเห็นว่าคงจะทานลำบากก็เลยเก็บไว้ก่อน นั่งหาวหวอด ๆ อยู่อีกฝั่งของห้องจากที่หวังจะงีบซักพักโทรศัพท์ในมือก็สั่นขึ้น -นธี- [แต่งตัวเสร็จยัง] "เสร็จแล้ว ง่วงมากเลยกำลังจะแอบหลับแล้วเนี่ย" [ออกมาหาอะไรกินหน่อย เอากระเป๋าออกมาด้วยเดี๋ยวเอาไปไว้ที่รถให้] คนตัวเล็กลุกขึ้นด้วยความท้อแท้ ใบหน้าถูกแต่งเติมที่ขนาดเห็นเองก็ยังไม่คุ้นชิน ง่วงก็ง่วง หิวก็หิว เดินหอบหิ้วกระเป๋าที่บรรจุเสื้อผ้าหลังเปลี่ยนเป็นชุดพิธีการแสนเรียบร้อยออกมาด้านหน้าห้องที่ถูกใช้เป็นพื้นที่แต่งตัวก็เห็นผู้ชายใบหน้าแสนคุ้นเคยแต่แปลกตาที่เขาใส่ชุดนิสิตอย่างถูกระเบียบเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า ปกติเขาเป็นพวกใส่แบบผิดระเบียบมาโดยตลอดพอแต่งแบบนี้ก็ดูดีไปอีกแบบ ร่างสูงโปร่งนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้หินอ่อนด้านหน้าตึก มือหนึ่งยกขนมปังเข้าปาก มืออีกข้างก็มีนมอีกกล่องหนึ่งที่ยังไม่ถูกเจาะ "..." "ธีช่วยหน่อย" ดวงตาคมหันไปตามเสียงก่อนจะชะงักกับใบหน้าสวยที่ดูดีผิดปกติทั้งที่ก็ดูดีอยู่แล้วในทุกวัน บัดนี้หน้าบูดบึ้ง เหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังจะงอแงในไม่ช้า เขารีบหยัดตัวลุกเดินไปหาคว้ากระเป๋ามาไว้ในมือตัวเอง แล้วเปลี่ยนให้นมกล่องไปอยู่ในมือเล็กแทน "กินนมไปก่อน หิวไหม" "หิวมาก" "พวกไอ้มาร์ชไปซื้อของมากินอยู่ อยากกินอะไรมั้ย" "กินอะไรไม่ได้หรอก เดี๋ยวปากเลอะ" "เลอะก็ค่อยเติม" เขาพูดแค่นั้นก่อนจะยกโทรศัพท์แนบหูหาใครซักคนที่เธอไม่ได้สนใจในเวลานี้เท่าไหร่ เห็นสายตาคมกวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของเธออีกครั้งแล้วหันไปพูดกับคนในสายอีกรอบ "นธี~ ง่วงนอนของงีบในรถแป๊บได้เปล่า" "ไม่ให้ได้ด้วยหรือไง หน้าตาเหมือนพร้อมจะหลับกลางอากาศขนาดนั้น" ขณะพูดมือหนาก็กดปลดล็อกให้คนตัวเล็กเข้าไปนั่งรอ "นธี~ ปรับแอร์หน่อยสิ หนาวอ่ะ" คนที่นั่งอยู่ด้านข้างลอบพ่นลมหายใจ เมื่อคนที่ปรับเบาะนอนอยู่ช้อนดวงตากลมโตขึ้นมามอง ปากก็สั่งเขาไม่หยุด มือหนาเอื้อมไปด้านหลังหยิบเสื้อคลุมที่พอจะคลุมให้หายหนาวได้บ้างก่อนจะปรับแอร์ให้คนตัวเล็กตามที่ขอ "นธี~" "..." "หิวอ่ะ" ร่างสูงกุมขมับเหมือนกำลังต่อสู้กับคนนอนไม่เต็มอิ่มที่เอาแต่งอแงซึ่งเขาก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ได้แต่เร่งไอ้มาร์ชไปอีกที มันก็บ่นเหมือนกันเพราะร้านสะดวกซื้อในมหาลัยคนเยอะมากกว่าปกติเพราะงานพิธีเปิดมีทั้งคนนอกคนในเข้ามาร่วมงานค่อนข้างจะเยอะ "กินนมไปก่อนได้ไหม เร่งให้อยู่" "..." ริมฝีปากจิ้มลิ้มเบะปากคว่ำอย่างขัดใจ ผ่านพิธีนี้ไปสัญญาว่าจะไม่ให้เธอลงกิจกรรมห่าอะไรที่ตื่นเช้าอีกเลย เพราะคนรับกรรมคือเขาคนเดียว "ไม่เกินสิบนาที อิงนอนไปก่อน" มือหนาพูดเสียงอ่อนมือหนึ่งก็เอื้อมไปลูบหัวเบา ๆ เหมือนกล่อมลูกแมวตัวน้อยนอน อีกมือก็พิมพ์เร่งเพื่อนตัวเองยิก ๆ ให้มันเร็ว ๆ ก่อนที่มันจะได้เห็นน้ำอิงร้องไห้ ตาเหลือบไปเห็นรถมัสแตงสีแดงมาจอดด้านข้างดูรถคุ้น ๆ แถมคนที่เดินออกมาจากรถก็คุ้นยิ่งไปใหญ่ "เฮ้ยเจ้" เปิดกระจกเรียกร่างเพรียวระหงโดดเด่น ใบหน้าสวยจัดหันกลับมากำลังเอ่ยทักทายก็ต้องปิดปากฉับเมื่อร่างสูงนาบนิ้วชี้ไปที่ปากเพื่อให้เธอพูดเบา ๆ "อะไร...พี่จะหาเจโร" นับเก้า เท้าเอวกับท่าทางแปลก ๆ ของเพื่อนแฟนตัวเองพอเพ่งสายตาไปด้านในก็เห็นผู้หญิงหน้าตาสวยใสนอนอยู่ที่นั่งข้างคนขับก็ตกใจนิดหนึ่ง เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าเพื่อนแว่นหน้ามึนแสนกวนประสาทของเจโรนั้นมีหญิงกับเขาด้วย "มีลิปสีแดง ๆ ชมพู ๆ ซักแท่งป่ะ" "เอาไปทำอะไรยะ ให้น้องคนสวยคนนั้นเหรอ ใครอ่ะ" "ยุ่งน่า ! เอาลิปมาแท่งหนึ่งก็พอ" "อ้าวไอ้นี่ ! ไม่ให้ล่ะ ถามดี ๆ ดันตอบกวนประสาทอีก" นธีกลอกสายตาใส่แฟนรุ่นพี่ของเพื่อนตัวเองที่พูดมาก ใครกันแน่ที่กวนประสาท "ซื้อต่อก็ได้" เขารู้ว่าเดี๋ยวน้ำอิงอาจจะงอแงจนไม่ยอมเอาอะไรเข้าปากเพราะกลัวลิปสติกเลอะ และวันนี้คงจะต้องอยู่กลางแจ้งนานถ้าไม่เอาอะไรลงท้องบ้างคาดว่าคงเป็นลมแน่ เขาจึงหยิบเงินสดที่เคยยัดไว้ที่ด้านข้างคนขับขึ้นมาให้คนที่ยืนอยู่นอกรถ "เร็ว ๆ ปล่อยให้ไอ้เจรอนานเดี๋ยวมันโดนผู้หญิงคนอื่นขอถ่ายรูปจนช้ำไปหมดไม่รู้ด้วยนะ ผัวเจ้ยิ่งหล่อ ๆ อยู่วันนี้อ่ะ" "กรี้ด ! จริงเหรอ" เธอตาโตเมื่อได้ยินคำว่าผู้หญิงคนอื่น ปกติแฟนเธอก็หล่อจนสาวเหลียวอยู่แล้วแต่วันนี้เจโรถือธงให้คณะแพทย์คงจะเป็นที่สนใจมากกว่าเดิม คิดแบบนั้นก็รีบคว้าแบงก์สีเทาในมือนธีไปก่อนจะรีบค้นในกระเป๋าสะพายตัวเอง จนได้ลิปแท่งใหม่ที่ยังอยู่ในกล่อง ก่อนที่จะส่งให้ก็ไม่วายกระซิบน้ำเสียงมีเลศนัยไปให้สายตาก็มองไปที่คนตัวเล็ก "ลิปนี้หวานมาก จูบกันทีไรเจขอต่อทุกที ต้องลองนะคะหนุ่มน้อย" "..." "ไปล่ะ เดี๋ยวแฟนโดนชะนีลากไป" พูดแค่นั้นเธอก็ขยิบตาก่อนจะวิ่งไปทางตึกที่รวมตัวของตัวแทนกิจกรรม ปล่อยให้ร่างสูงย่นคิ้วถอนหายใจเอือมระอาให้กับผู้หญิงรุ่นพี่ที่มีนิสัยทะลึ่งตึงตังขัดกับใบหน้าสวยแพง ไม่รู้ว่าไอ้เจโรติดใจอะไรนักหนากับท่าทางทะเล้นขนาดนี้ คนสวย ๆ นี่แปลกทุกคนเลยมั้ยวะ? ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมากับเหตุการณ์เมื่อครู่ หลุบสายตาลงไปที่กล่องลิปสติกในมือแล้วพรูลมหายใจออกทางปากกับสิ่งที่เพิ่งโดนยัดข้อมูลใส่สมอง ก่อนที่ร่างสูงหลังพวงมาลัยจะกระสับกระส่ายบังคับสายตาตัวเองให้มองไปยังนอกกระจกไม่กล้าหันกลับไปมองคนที่นอนอยู่ด้านข้างของตัวเองเลย คิ้วเข้มขมวดอย่างหงุดหงิด อยากฆ่าเมียเพื่อนนี่ผิดไหมวะ แม่ง ! เมื่อถึงเวลาต้องเข้าไปรวมกันที่ถนนซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น น้ำอิงที่ได้นอนบนรถของนธีไปแป๊บหนึ่งก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น แต่พอได้กินอาหารเช้าก็ยิ้มออกและเริ่มมีแรงจากที่ก่อนหน้านี้เธอเหมือนศพเดินได้ บรรยากาศในวันของพิธีการเปิดกิจกรรมนั้นค่อนข้างจะอบอ้าวแต่ยังดีที่เมฆครึ้มทำให้ไม่มีแดด ส่วนลำดับการเดินจะเริ่มด้วย ป้ายมหาวิทยาลัย ธงมหาวิทยาลัย ป้ายคณะ ธงคณะ หลีดคณะ ป้ายสาขา ธงสาขา และเหล่านักกีฬาบางส่วน ทยอยกันเดินเข้าสู่สนามโดยที่มีโฆษกพิธีกรพูดแนะนำและเพลงมหาวิทยาลัยบรรเลงอยู่ตลอด ตอนแรกน้ำอิงไม่ได้รู้สึกอะไรกับการเป็นตัวแทนกิจกรรม แต่ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าสู่สนามกลับรู้สึกขนลุกขึ้นมาดื้อ ๆ อาจจะเพราะบรรยากาศและความขลังของพิธี ผู้ชมรอบข้างบนอัฒจันทร์หลายพันคู่ที่มองลงมาอย่างภาคภูมิใจทำให้การเป็นตัวแทนรู้สึกเป็นเกียรติขึ้นมาเสียอย่างนั้น มหาวิทยาลัยนี้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศดังนั้นศิษย์ใหม่และศิษย์เก่าจึงเยอะมากและทุกคนก็มาเพื่อเป็นกำลังใจนิสิตรุ่นต่อไปซึ่งเหมือนเป็นการยินดีต้อนรับผ่านกิจกรรมประจำปีของมหาวิทยาลัย หลังจากการทุกคนเดินเข้าสู่สนามมหาวิทยาลัยอย่างยิ่งใหญ่ก็มีการพูดเปิดของคณบดีสูงสุด คนตัวเล็กที่ใส่ส้นสูงก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคเรื่องการทรงตัวเท่าไหร่ แต่มันมีปัญหาคือรองเท้าของพี่ออยมันเริ่มจะกัดส้นเท้าของเธอแล้ว ใบหน้าสวยก็หันหลังไปหาคนที่เดินตามเธออยู่ตลอดแล้วเบะปากเมื่อรู้สึกเจ็บ นธีที่กำลังมองนู่นมองนี่รอเวลาปล่อยแถว พอรับรู้ถึงสายตาที่มองมาจากทางด้านหน้าพร้อมกับน้ำอิงที่กำลังทำหน้ามุ่ยแล้วยกเท้าขวาให้ดูก่อนขยับปากพูด "รอง เท้า กัด" สิ่งที่ได้รับไม่ได้ทำให้นธีแปลกใจเท่าไหร่เพราะคาดไว้ตั้งแต่แรกว่าคนที่มักจะมีปัญหากับสิ่งรอบตัวแบบน้ำอิง คงจะมีปัญหากับรองเท้าแน่ ก็เลยฝากเพื่อนอย่างมาร์ชซื้อแผ่นแปะตอนที่มันแวะซื้ออาหารเช้ามาให้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แล้วเธอก็ไม่เคยทำให้ร่างสูงผิดหวัง ปัญหามีไว้ให้น้ำอิงพุ่งชน ส่วนคนแก้ปัญหาคือนธี เป็นแบบนี้ตลอดตั้งแต่รู้จักกันมาจนกระทั่งตอนนี้ "ทนหน่อย เดี๋ยวก็ปล่อยแล้ว" ปากเล็กยู่เข้าหากันก่อนพยักหน้าแล้วหันกลับไปด้านหน้าเหมือนเดิม ร่างสูงโปร่งที่ยืนถือธงอยู่ด้านหลังหลุดยิ้มกับคนตรงหน้าที่ชอบทำหน้าแปลก ๆ มางอแงเหมือนเมื่อซักครู่ ไม่รู้ว่าเธอทำเพราะรู้อยู่แล้วหรือเปล่าว่ามันน่ารักก็เลยมักจะทำมันออกมาบ่อย ๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาแพ้อะไรกับท่าทางแบบนั้นนัก เพราะรู้ตัวอีกทีก็เอ็นดูจนไม่รู้จะเอ็นดูยังไง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม