บทที่ 15 : เดี๋ยวทำให้ดูว่าโอนไวของจริงเขาทำกันยังไง

1921 คำ
“ค่า...อิงรู้ค่า พี่เหนืออิงโตจนเข้ามหา’ลัยแล้วนะคะ แค่เลี้ยงแมวตัวเดียว อิงไม่ทำตายหรอกน่า” แกร๊ก ! เจ้าของห้องหันไปตามเสียงประตูขณะที่มือก็ยังยกโทรศัพท์แนบหูคุยกับพี่ชายไปด้วย ร่างสูงโปร่งคุ้นตาที่เปิดประตูห้องเข้ามาสองมือเต็มไปด้วยอาหารเย็นสำหรับสองคน และของทานเล่นของเจ้าขนปุยสีส้มที่บัดนี้ได้อิสระออกมาวิ่งเล่นอยู่ด้านนอก ‘คุยกับพี่อยู่’ นิ้วชี้ทาบไว้ที่ปากก่อนจะขยับพูดไร้เสียง เตือนให้คนที่ปกติจะเอ่ยปากทักทายลูกชายของเขาเสียงดัง นธีที่เห็นแบบนั้นก็วางของลงที่โต๊ะหน้าโซฟา แล้วก้มลงไปอุ้มนีโม่ที่มาคลอเคลียอยู่ที่ปลายเท้า ไม่ได้ทำเสียงดังจนคนที่กำลังคุยกับพี่ชายที่แสนจะหวงเธอได้ตะขิดตะขวงใจว่ามีผู้ชายอีกคนกำลังใช้อากาศร่วมอยู่ภายในห้องเดียวกันกับน้องสาวของเขาในตอนนี้ [แล้วเงินพอเลี้ยงเหรอคะ...อย่าอดข้าวแล้วเลี้ยงแมวหมดนะเบบี๋] น้ำอิงถึงกับหลุดหัวเราะด้วยความเอ็นดูพี่ชายที่เป็นห่วงไม่เข้าเรื่อง แต่ก็จะว่าเขาไม่ได้ เพราะเธอไม่ได้บอกความจริงว่ามีใครอีกคนที่ออกค่าใช้จ่ายให้โดยที่เธอไม่ได้ลำบากตัวเองเลยแม้แต่น้อย คิดได้แบบนั้นแผนการตีหน้าซื่อล่อลวงเงินพี่ชายก็เริ่มต้นขึ้นทันทีทันใด ได้เวลาหาเงินไปซื้อการ์ตูนเพิ่มแล้ว ! “แต่อิงจะประหยัดค่ะ เงินที่พ่อให้ก็พออยู่ค่ะ แต่ก็อาจจะไม่ได้ซื้อของที่อยากกินเหมือนแต่ก่อน” น้ำเสียงเศร้าสร้อยถูกส่งผ่านโทรศัพท์จนพี่ชายที่อยู่คนละจังหวัดเพิ่งถึงบ้านหมาด ๆ ถึงกับยกมือขึ้นมาทาบอกอย่างสงสาร หลังจากน้ำอิงสารภาพว่าตัวเองนั้นเก็บแมวจรมาเลี้ยงเพราะมันโดนทิ้งอยู่ตัวเดียว น้องสาวที่แสนจิตใจดี... แต่วันนี้เพราะโดนตัวป่วนอย่างพี่นับก้าวคอยขู่กรรโชก ทำให้เขาต้องรีบกลับทั้งที่ได้ใช้เวลากับน้องสาวตัวเองเพียงแค่นิดเดียวเอง รูปซักใบก็ไม่ได้ถ่ายคู่ โชคดีที่เขานั้นถ่ายตอนที่น้ำอิงเดินในสนามอยู่บ้างร่วมห้าร้อยรูป ไม่อย่างนั้นคงไม่มีอวดชาวบ้านให้เห็นถึงความน่ารักของน้องสาวตัวเอง ยัยอสรพิษนั่น ! แต่ถ้าอยู่นานกว่านั้นเขาอาจจะได้เจอคนที่ไม่อยากเจอก็เป็นได้... [งั้นเดี๋ยวพี่โอนให้นะ อย่าให้พี่รู้ว่าอดข้าวนะ] ใบหน้าสวยลอบยิ้มกับโทรศัพท์ ก่อนจะชายตามองไปยังนธีที่นั่งอยู่ที่โซฟามือหนาคอยลูบหัวแมวน้อยลูกรักของเขาไม่ห่าง แต่ว่าสายตาที่จับจ้องเธอนั้นออกแววรู้ทันปนล้อเลียนกับสิ่งที่เธอนั้นได้เอ่ยกับพี่ชายตัวเองก็รู้สึกเขินขึ้นมา นธีส่ายหน้าให้กับคนตัวเล็กที่ไม่รู้จะเรียกคุยแบบครอบครัว หรือแบบมิจฉาชีพกันแน่ถ้าบอกว่าเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์เขาก็คงเชื่อ ดูแล้วคงจะอ้อนขอเงินพี่ชายด้วยวิธีหน้าซื่อแบบนี้บ่อยอยู่ล่ะสิ ไม่รู้ว่าพี่ชายของเธอนั้นไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโดนหลอก หรือว่าหลับหูหลับตาให้เพื่อความสบายใจของตัวเองกันแน่ แต่เมื่อมองไปที่คนซึ่งช่างพูด ช่างอ้อนก็หลุดยิ้ม เข้าใจพี่ชายเธออยู่...เป็นเขาก็คงให้เหมือนกัน “รักพี่เหนือที่สุดเลยค่ะ ไม่มีพี่เหนือน้องสาวคนนี้จะอยู่ยังไงนะ ฮือ” [ตั้งใจเรียน แล้วถ้าเงินหมดก็บอกพี่นะคะเด็กดี แค่นี้ก่อนพี่ต้องเข้าอู่ไปดูรถเข้าใหม่] “รับทราบครับผม” หลังจากวางสายคนตัวเล็กก็เดินไปหยิบจาน ชาม และช้อนเพื่อมาใส่อาหารที่นธีซื้อมาด้วยความอารมณ์ดีหลังจากที่ภารกิจของตัวเองสำเร็จลุล่วง “เข้าใจพูดดีนะ ประหยัดบ้างล่ะ ไม่ได้ซื้อของที่อยากกินบ้างล่ะ น่าสงสารจังครับ” น้ำอิงยู่ปากก่อนจะมองค้อนคนที่เอ่ยล้อทันทีที่เธอถือจานออกมาจากครัว “แล้วโกหกตรงไหน ก็ประหยัดจริง ไม่ได้ซื้ออะไรจริง ๆ นี่นา” “ก็ใช่ เพราะมีคนซื้อให้หมด” “เพราะงั้นก็เลยถือว่าไม่โกหก” “ตัวแสบ” คนตัวเล็กยิ้มรับคำนั้นหน้าระรื่น แล้วเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าเขาเพื่อหยิบเหล่าอาหารที่นธีมักจะซื้อมาให้เป็นประจำ เพราะกว่าเขาจะกลับบ้านนั้นก็ต้องมีเล่นกับนีโม่จนถึงสองทุ่มเกือบทุกวัน เขาก็เลยเป็นคนซื้อข้าวเย็น และเจ้าของห้องก็เลยพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย เมื่อเริ่มแกะอาหารเธอก็ตาโตที่นึกอะไรออกถึงเรื่องราวตลกเมื่อตอนเดินเปิดพิธีระหว่างพี่ชายตัวเองกับพี่นับเก้า จึงหันไปคุยกับนธีที่ทำตัวเป็นเบาะนอนให้แมวน้อย “อิงไปเค้นพี่เหนือมาแล้วเรื่องพี่นับเก้า โลกกลมมากเลยที่พี่เหนือดันเคยไปจีบเพื่อนพี่เขา แถมพอเรียนจบก็ดันไปหักอกเขาอีก ! น่าตีไหมล่ะ...ตอนพ่อบอกให้มาเรียนกรุงเทพฯ ตอนม.ปลายทำงอแงเป็นไม่อยากมา บอกอยากอยู่กับน้องสาว แต่ดันมาแอบมีแฟนเฉยเลย” พี่เหนือนะพี่เหนือ...ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะกล้าหักอกผู้หญิง “แล้วแปลกหรือไง ม.ปลายก็โตแล้ว ไม่มีคนที่ชอบเลยสิแปลก” “แต่พี่เหนือสัญญากับอิงว่าจะไม่มีแฟน แถมเป็นคนพูดเองด้วย” นธีมองคนที่หน้าบูด ๆ แกะอาหารไปด้วยก็รู้สึกหวั่นใจหน่อย ๆ แบบนี้คงแสดงว่าพี่น้องคู่นี้น่าจะหวงกันเองพอดู “พี่เขาโตแล้วหนิ สักวันเขาก็ต้องมีแฟนอยู่ดี” “นั่นสินะ เศร้าเลย” คนตัวเล็กถอนหายใจ เมื่อคิดว่าพี่ชายของตัวเองจะมีคนที่เขาต้องสนใจและใส่ใจมากกว่าตัวเอง คนที่เคยเป็นที่หนึ่งก็อดเศร้าไม่ได้ “ทำไมต้องทำหน้าเสียใจขนาดนั้นด้วยเนี่ย” “ก็มันเศร้านี่ แบบนี้ก็เหมือนโดนพี่เหนือทิ้งรึเปล่า เหมือนจะโดนรักน้อยลงยังไงก็ไม่รู้” คนที่มีน้องสาวแต่ไม่ปล่อยตามมีตามเกิดได้ฟังก็งงไปครู่ใหญ่ แต่เห็นท่าทางเหมือนโลกจะสลายของน้ำอิงก็คิดว่ามันน่าจะร้ายแรงสำหรับเธอ “ถ้ากลัวได้น้อยลงอิงก็ต้องหาเพิ่ม” “หมายถึงหาพี่ชายเพิ่มเหรอ?” นธีถึงกับเหม่อไปกับประโยคคำถามเมื่อครู่ มองไม่ออกว่าน้ำอิงเล่นมุกหรือคิดจริงกันแน่ “หมายถึงให้ชิงมีแฟนก่อน อิงจะได้ไม่ต้องกลัวไง” นธีให้คำปรึกษาคนตัวเล็กที่ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่เหมือนหาทางออกให้เธอเท่าไหร่ เหมือนหาทางออกให้ตัวเองมีทางรอดเสียมากกว่า นิสัยไม่ดีจริง ๆ เลยกู “อิงไม่มี” “เดี๋ยวก็มี” น้ำอิงถึงกับถอนหายใจปลงตกกับตัวเอง เพราะวิถีชีวิตของเธอช่างเรียบง่าย และน่าเบื่อ ไปเรียน กลับหอมาเลี้ยงแมว เป็นแบบนี้วนไปซ้ำ ๆ เป็นวงจร จะได้ไปเจอใครจริง ๆ น่ะเหรอ “ชาติไหนจะเจอเนี่ย” ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วมุ่นกับคำพูดอ่อนอกอ่อนใจ รีบลุกขึ้นพานีโม่ไปไว้ในคอกเรียบร้อย แล้วเดินไปยังโต๊ะอาหารในครัวเพื่อคุยกับเธอ และให้เธอเห็นหน้าชัด ๆ อีกครั้ง เห็นยังล่ะ... “ยังไม่เจออีกเหรอ? ธีว่าน่าจะเจอแล้วนะ” สิ้นคำที่เสียงเข้มเอ่ยเธอก็ชะงัก ก่อนจะช้อนมามองใบหน้าของอีกฝ่ายที่เลิกคิ้วถามอย่างมีนัยยะแอบแฝง จนคนที่กล้า ๆ กลัว ๆ ก็เกิดอาการทำตัวไม่ถูกขึ้นดื้อ ๆ แล้วก่อนที่จะเงียบให้ได้ประหม่ากันไปมากกว่านี้เธอก็เปลี่ยนเรื่องหนีทันที “เจอไม่เจอก็เอาไว้ทีหลัง อิงหิวแล้ว~” น้ำอิงเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลงหน้าจานข้าวตัวเอง ทำหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราว คนที่เห็นอีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องเก่งถึงกับเซ็งไปเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามหน้าจานข้าวของตัวเองบ้าง ตอนนี้ได้แค่นี้เขาก็รู้สึกพอใจมากแล้วล่ะ นั่งคุยกันเรื่องสัพเพเหระรวมทั้งเรื่องเรียนอยู่ครู่หนึ่งขณะที่นั่งกินข้าวเย็นตรงหน้า แจ้งเตือนในโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจนเรียกสายตาของน้ำอิงไปดูที่หน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนที่ใบหน้าสวยจะเปลี่ยนเป็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มือน้อยกุมหัวใจก่อนที่จะท่าเหมือนโดนศรรักปักอกก็ไม่ปาน “อะไรอีกล่ะเนี่ย” เห็นออร่ามีความสุขแผ่กระจายออกมาจากตัวเธอก็อดถามไม่ได้ว่าแจ้งเตือนที่ทำให้เธอมีความสุขถึงขั้นนี้คืออะไร “ตกหลุมรักพี่ตัวเอง...ฮือ ใครจะหล่อ สปอร์ต โอนไว ใจดี ใส่ใจน้ำอิงเท่าพี่เหนือไม่มีอีกแล้ว หลงรักเลย...” เธอว่างั้นก่อนจะสอดส่องสายตาไปที่เจ้าตัวเล็กที่วิ่งเล่นอยู่ในพื้นที่ตัวเอง อ้างนีโม่ไปแบบนั้นก็ไม่คิดว่าจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำขนาดนี้ เดี๋ยวจะซื้อขนม ซื้อของเล่นให้เยอะ ๆ เลยนะไอ้หนูนำโชค นธีย่นคิ้วไม่พอใจแค่เงินเข้าต้องทำหน้าทำตาประทับใจขนาดนั้นเลยหรือไง แล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ ว่าจะไปรู้สึกอิจฉาพี่ชายของเธอให้ได้อะไรขึ้นมา มือหนาที่ใช้ถือช้อนและส้อมวางลงจนเกิดเสียง แล้วหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาพลางหันไปถามน้ำอิงด้วยใบหน้าจริงจังไม่มีแววล้อเล่น “หล่อ ใจดีนี่ธีพอจะยกให้พี่อิงได้อยู่ แต่เรื่องอื่นนี่อาจต้องคิดใหม่ อยากเห็นไหม? เดี๋ยวจะทำให้ดูว่าโอนไวของจริงนี่เขาทำกันยังไง” น้ำอิงที่มองดูคนที่จู่ ๆ ก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ซักครู่ก็หลุดหัวเราะให้กับใบหน้าแสนจริงจังของเขา แถมประโยคอวยตัวเองเมื่อกี้ก็โคตรน่าหมั่นไส้ “รวยนักเหรอ ฮึ?” “ก็ไม่ได้รวยมาก แต่ถ้าความรักของคนแถวนี้วัดกันที่หล่อ สปอร์ต โอนไว ใจดี ธีคงต้องเสียใจกับพี่ชายอิงด้วยเพราะเขากำลังจะโดนธีเขี่ยตกกระป๋อง” “ไม่เชื่อหรอกจนกว่าจะได้เห็น” “ก็ถึงบอกให้เอาเลขบัญชีมา” “ธีนี่มัน...คำพูดคำจาน่าโดนผู้หญิงหลอกให้หมดตัวซักทีจริง ๆ” เธอส่ายหน้าอย่างหมั่นไส้ เบื่อนักผู้ชายนิสัยรวย “ผู้หญิงที่ไหนจะมาหลอก วัน ๆ อยู่แต่กับอิง” “แล้วไม่คิดว่าอิงจะหลอกบ้างหรือไง” “งั้นก็ไม่เรียกว่าโดนหลอก ต้องเรียกว่าเต็มใจให้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม