บทที่2-3 ไปคุยกันหน่อยไหม

1077 คำ
‘อาจจะไม่ใช่คนเดียวกันก็ได้’ แพทย์หนุ่มคิดแบบนั้น หากแต่ดวงตาคู่คมไม่ได้ละสายตาไปจากดวงหน้าเนียนใสของพร้อมรักที่กำลังฉายแววตื่นตระหนกเลย “เอ่อคือ…” จู่ๆ พร้อมรักก็รู้สึกว่าลำคอของตนแห้งผากขึ้นมา และท่าทีอึกอักของหญิงสาวก็ขัดใจวินธัย จนคนที่รอคำตอบต้องถามอีกครั้ง หากแต่เป็นคำถามที่ทำให้หัวใจดวงน้อยต้องเต้นถี่รัวยากเกินจะควบคุม “ว่าไงล่ะ คุณชื่อพร้อมรักหรือเปล่า” คราวนี้ชื่อจริงของเธอก็มาด้วย เพราะเธอใช้รูปยืนหันหลังเป็นรูปโปรไฟล์เขาจึงไม่รู้ว่าเป็นเธอนี่แหละที่ทักเขาไป เป็นเธอนี่แหละที่ถูกบล็อคภายในไม่กี่ประโยคที่สนทนากันผ่านข้อความ ‘ฮืออออ ทำไงดี’ โดนทักโต้งๆ แบบนี้พร้อมรักก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ก่อนหน้านี้พร้อมรักคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ใจกล้าคนหนึ่ง แต่พออยู่ต่อหน้าแพทย์หนุ่มแบบนี้เธอกลับทำอะไรไม่ถูกเสียอย่างนั้น ประหม่าไปหมดจนไม่รู้ว่าจะรับมือคนตรงหน้าได้อย่างไร “โอ๊ย นึกขึ้นได้พอดีเลยค่ะว่านัดเพื่อนเอาไว้ ขอตัวก่อนนะคะ” มือเล็กรีบยัดหนังสือเอาไว้ที่เดิม ก่อนจะซอยเท้าถี่ๆ หนีวินธัยไปเสียดื้อๆ แพทย์หนุ่มก็ไม่ได้รั้งเอาไว้ เขาทำหน้าเนือยพลางสั่นศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจหนังสือในมือตามเดิม “เฮ้ออออ” พร้อมรักพรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ดีที่อีกฝ่ายไม่ได้ตามมาหญิงสาวจึงมีโอกาสได้หายใจหายคออย่างสะดวก ไอ้ที่เคยคุยโวกับธนดลว่าจะดับเครื่องชนนั้นพังไม่เป็นท่าเพียงแค่ได้สบสายตาคมเข้มคู่นั้นของวินธัย แบบนี้สินะที่เรียกว่าแพ้ราบคาบ แพ้ตั้งแต่หน้าประตู พร้อมรักคิดว่าเธอคงต้องการเวลาเตรียมตัวรับมือกับการพบหน้าวินธัยให้มากกว่านี้อีกสักหน่อย ต่อว่าตัวเองในใจ ไม่น่าหุนหันพลันแล่นพาตัวเองไปอยู่ใกล้อีกฝ่ายแบบไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนั้น พอเจอสวนกลับเบาๆ ก็ไปไม่เป็นเสียแล้ว สรุปก็คือวันนี้พร้อมรักไม่ได้หนังสืออย่างที่ต้องการ แต่ไม่เป็นไรไว้วันหลังค่อยมาซื้อก็ได้ ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องทำก็คือกลับไปตั้งหลักก่อน พร้อมปลดล็อครถด้วยกุญแจรีโมต มือบางแตะที่ประตูแต่ไม่ทันได้เปิดออก จู่ๆ เสียงดังตุบคล้ายกับมีบางสิ่งร่วงลงกับพื้นดังขึ้นก่อนที่เสียงหวีดร้องของผู้หญิงจะดังตามมา “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วยยย มีคนเป็นลม” เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงวัยกลางคนทำให้พร้อมรักรีบขยับเท้าไปยังบริเวณดังกล่าว มีคนสี่ห้าคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าแตกตื่น แต่ไม่มีใครที่เข้าไปช่วยผู้ชายวัยกลางคนที่กำลังนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น พร้อมรักรีบเข้าไปดู กระเป๋าสะพายของหญิงสาวถูกวางลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้นคะ” พร้อมรักแหงนหน้าขึ้นถามผู้หญิงที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น อีกฝ่ายรีบให้คำตอบด้วยเสียงสั่น “เรากำลังจะเดินไปขึ้นรถค่ะ แต่จู่ๆ สามีของป้าก็ล้มตึงไปเลย หนูช่วยสามีป้าด้วยนะ” “คุณลุงมีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่าคะ” พร้อมรักถามในขณะที่พยายามพลิกตัวของคนหมดสติ แต่เพราะอีกฝ่ายตัวใหญ่มาก จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ผู้หญิงร่างเล็กจะทำแบบนั้นได้สำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว ดวงหน้าเรียวแหงนขึ้นอีกครั้ง กำลังจะขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่จังหวะนั้นวินธัยก็เข้ามาพอดี พร้อมรักตกใจพอสมควร แต่ละทิ้งความรู้สึกนั้นไปก่อนเพราะต้องช่วยคน และก่อนหน้านี้วินธัยก็โทร.ตามรถพยาบาลเรียบร้อยแล้ว “เดี๋ยวผมจัดการ” ไม่ถึงครึ่งนาทีวินธัยก็พลิกตัวคนหมดสติให้นอนหงายได้สำเร็จ ระหว่างนั้นพร้อมรักก็ทวงคำตอบจากภรรยาของคนหมดสติอีกครั้ง “ตกลงคุณลุงมีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่าคะ” “เป็นโรคความดันเลือดสูงจ้ะ” คนเป็นภรรยารีบให้คำตอบอย่างลนลาน ระหว่างนั้นวินธัยก็จัดการประเมินอาการของชายที่หมดสติ แพทย์หนุ่มลองเรียกอีกฝ่าย ตรววจลมหายใจและจับชีพจรแถวต้นคอ และทุกอย่างไร้การตอบสนอง “เราต้องซีพีอาร์ คุณไปเอาเครื่องเออีดีมา มีอยู่ตรงประชาสัมพันธ์ ผมจะปั๊มหัวใจก่อน” “ได้ค่ะ” *AED(เออีดี) คือ เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ ชื่อเต็ม Automated External Defibrillator วินธัยพูดแล้วทำทันที ส่วนพร้อมรักรับคำแล้วก็รีบวิ่งไปหยิบเครื่องเออีดีอย่างรวดเร็ว หญิงสาววิ่งกระหืดกระหอบกลับมา จัดการเปิดเครื่อง ส่วนวินธัยรีบหยิบกรรไกรที่อยู่ในกล่องมาตัดเสื้อคนหมดสติออก จากนั้นก็ช่วยกันติดแผ่นนำไฟฟ้าเข้ากับหน้าอกชายคนดังกล่าว ติดแผ่นนำไฟฟ้าเรียบร้อยทั้งคู่ก็ถอยออกมาระหว่างที่รอเครื่องวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดยวินธัยจัดการกดปุ่มเมื่อเครื่องสั่งให้กดปุ่มช็อก “คุณถอย ผมถอย” วินธัยร้องบอกก่อนที่จะทำการกดปุ่มเพราะต้องไม่มีใครสัมผัสถูกตัวของผู้ป่วยระหว่างที่เครื่องทำการช็อกเพราะจะเป็นอันตรายสำหรับคนปกติ ช็อกเสร็จวินธัยก็จัดการกดหน้าอกต่อ โดยมีพร้อมรักเตรียมพร้อมสับเปลี่ยนหากแพทย์หนุ่มแรงตก แต่ดูเหมือนว่าแพทย์หนุ่มแรงดีมากเพราะเขายังกดหน้าอกคนไข้ได้จนกระทั่งความช่วยเหลือจากทีมกู้ชีพมาถึง คนไข้ถูกเคลื่อนย้ายขึ้นไปบนรถเข็นนอน ก่อนจะถูกพาขึ้นรถพยาบาลแล้วขับออกไปพร้อมกับภรรยาของคนป่วย โดยทั้งคู่และคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์มองตามไปอย่างโล่งอก พร้อมรักยกมือขึ้นปาดเหงื่อเม็ดเล็กที่ผุดขึ้นตามกรอบหน้า ไม่ทันได้ขยับเท้าไปไหน วินธัยก็หันมาบอกหญิงสาว “ไปคุยกันหน่อยไหม” “...” “พร้อมรัก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม