หมอภัทร ทีมทนายของพ่อคุณมีใครว่างไหม ติดต่อให้ผมหน่อย
เดี๋ยวนะ นายจะเอาทนายไปทำไม
วินธัยที่กดส่งข้อความเข้าไปในแช็ตกลุ่มเพื่อนสนิทที่มีสมาชิกทั้งหมดสามคน ซึ่งก็คือตัวของแพทย์หนุ่มเอง วีรภัทรและสหทรรศ
ผมจะฟ้องร้องครับ
นายจะฟ้องใคร
คนถามไม่ใช่วีรภัทร หากแต่เป็นสหทรรศที่เข้ามาอ่านข้อความแล้วอดสงสัยไม่ได้ เพียงเห็นข้อความเขาก็สัมผัสได้ว่าวินธัยน่าจะกำลังหัวร้อน
มีใครก็ไม่รู้เอาไอดีไลน์ผมไปปล่อย วันนี้มีคนทักผมมา แบบนี้ผมไม่โอเค ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลชัดๆ อย่างนี้ต้องฟ้องร้องให้เข็ด
วีรภัทรเห็นข้อความนั้นก็ตาเบิกกว้าง มือของเขาสั่นเทาน้อยๆ ตอนพิมพ์ข้อความส่งไป
เฮ้ย! หมอวิน ฉันว่านายอย่าเพิ่งงู่วาทดีหส่า
พิมพ์อะไรของคุณน่ะหมอภัทร ผมไม่เข้าใจ นิ่วเบียดหรือไงครับ
วินธัยขมวดคิ้วน้อยๆ ตอนที่อ่านข้อความนั้น สหทรรศเองก็สงสัยเช่นกัน
นั่นน่ะสิหมอภัทร นายพิมพ์อะไรของนาย
คือฉันจะบอกว่าอย่าเพิ่งวู่วามดีกว่า โทษที แป้นรวน
แน่ใจนะครับว่าแป้นรัว คนถามคือวินธัย
เออสิ วีรภัทรพิมพ์ตอบพลางเป่าปาก หากแต่หัวใจของเขากลับเต้นถี่รัวเพราะกลัวถูกจับได้
แล้วตกลงทีมทนายของพ่อคุณมีใครว่างบ้างหรือเปล่า
ไม่มีเลย ช่วงนี้งานแน่น และน่าจะยาวไปจนถึงสิ้นปี
คุณดูลนๆ นะครับหมอภัทร
นั่นสิ สหทรรศเสริม
อะไรของพวกนาย ลนเลินอะไรกัน อย่ามากล่าวหากันสิ
เอาละ ตอนนี้ผมว่าผมเจอคนล่กแล้วหนึ่งอัตรา หมอเท็นคุณมีความเห็นในเรื่องนี้ยังไงครับ
ฉันว่าหมอภัทรต้องมีเรื่องปิดบังพวกเราแน่นอน
อ่านข้อความแล้ววีรภัทรก็มีสีหน้าแตกตื่น รีบพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกตอบกลับไป
ไม่มี ฉันไม่ได้ปิดบังปะไนเลย
ฮึ
นอกจากพิมพ์ข้อความส่งกลับไปแล้ว วินธัยก็กระตุกยิ้มด้วย เขารู้ได้ในทันทีว่าวีรภัทรต้องมีอะไรปิดบังพวกเขาอยู่แน่ๆ
ผมกำลังเดินไปหาคุณที่ห้องพักแพทย์ คุณรอผมอยู่ตรงนั้นเลยนะครับ
โอ๊ย นายจะมาทำไม ฮันไม่ว่าว แบะไม่ไก้อยู้ห้องพักแพทน์
หมอภัทร นายอย่าพยายามอีกเลย ฉันขอละ สหทรรศกลั้นขำไม่ไหวเพราะวีรภัทรพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกจนน่าขัน ก่อนที่เขาจะพิมพ์ข้อความส่งไปว่า หมอวินได้เรื่องยังไงบอกฉันด้วยนะ ไปดูคนไข้ก่อน
ได้ครับ
วินธัยตอบกลับข้อความของสหทรรศในทันที และไม่ลืมที่จะกดส่งข้อความไปให้วีรภัทรที่ยังคงมีสีหน้าแตกตื่นอย่างมีพิรุธ
อีกห้านาทีเจอกับนะครับหมอภัทร ถ้าผมไม่เจอคุณที่ห้องพักแพทย์แล้วละก็ ผมจะให้ประชาสัมพันธ์ประกาศตามให้ดังลั่นทั้งโรงพยาบาลเลยคอยดูสิ
ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่วินธัยจะมาหาวีรภัทรได้อย่างรวดเร็วเพราะทั้งคู่อยู่โรงพยาบาลเดียวกัน ส่วนสหรรศนั้นอยู่ต่างโรงพยาบาล เสียงบานประตูถูกผลักเข้ามาพร้อมร่างของวินธัยที่ก้าวเข้ามาด้านในทำให้วีรภัทรที่นั่งดูดกาแฟจากแก้วเก็บความเย็นแทบสำลัก
“ยังไม่ถึงห้านาทีเลย นี่นายเดินหรือนายหายตัวมากันแน่”
วีรภัทรวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะกระจกทรงสี่เหลี่ยมหน้าโซฟา ไม่ทันได้ขยับตัวมากไปกว่านั้นวินธัยก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เขา
“จะเดินหรือหายตัวก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าคุณมีอะไรปิดบังพวกผมนะครับ”
“พูดอะไรของนายน่ะ”
วีรภัทรแสร้งตีหน้าขรึม พยายามไม่แสดงท่าทางพิรุธออกไป แต่ยิ่งเขาพยายาม อาการก็ยิ่งแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเขากำลังมีพิรุธ
“จะบอกดีๆ หรือว่าจะให้ผมใช้กำลังบีบบังคับครับ”
น้ำเสียงดูสุภาพหากแววตาของแพทย์หนุ่มกำลังกดดันวีรภัทร และจ้องเขม็งจนคนมีความผิดติดตัวอย่างวีรภัทรเกิดลำคอแห้งขึ้นมา เจ้าตัวเสหยิบกาแฟขึ้นมาดูด ก่อนจะรีบวางแก้วลงเมื่อวินธัยพูดขึ้นว่า
“น้องพายน์รู้หรือยังนะว่าวันก่อนมีคนไข้สาวๆ มาขอเบอร์คุณ”
“นายก็อย่าเพิ่งวู่วามสิ ฉันกำลังจะเล่าอยู่นี่ไง”
วีรภัทรที่อิดออดในคราแรกกระตือรือร้นขึ้นมาทันทีเมื่อถูกวินธัยข่มขู่แบบนั้น ใครให้เอาเรื่องจริงมาล้อเล่นแบบนั้นกันเล่า เขาไม่ได้กลัวภรรยาหรืออะไรหรอกนะ
ก็แค่เกรงใจภรรยาเท่านั้นนั่นแหละ
“ก็คือว่าฉันเองนี่แหละที่เอาไอดีไลน์นายไปให้เพื่อนรุ่นพี่ของพายน์น่ะ เขาเป็นพยาบาล”
“เป็นคุณนี่เองที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ทั้งๆ ที่มีพ่อเป็นทนายแท้ๆ และนี่คือกฏหมายพื้นฐานที่ผมคิดว่าคุณรู้แต่คุณไม่ตระหนัก”
“หมอวินพอเถอะ ฉันสำนึกผิดแล้วเนี่ย หน้าชาไปหมดแล้ว”
นี่แหละคือสิ่งที่วีรภัทรลังเลในตอนแรกก่อนจะใหไอดีไลน์ของวินธัยกับภัคร์พิมล ท่าทางสุภาพแต่ฝีปากจัดจ้านไม่เป็นสองรองใครของวินธัยทำให้เขาขยาด ไร้ถ้อยคำหยาบคายในเนื้อหาที่ต่อว่าออกมาก็จริง แต่ความหมายทำเอาจุกราวกับโดนหมัดหนักๆ ฮุกใส่จนหน้าหงาย
“ดีครับ ผมก็ต้องการให้คุณรู้สึกแบบนั้น”
วินธัยไม่คิดจะผ่อนปรนถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเพื่อนสนิท วีรภัทรแอบแยกเขี้ยว แต่พอเห็นสายตานิ่งๆ เจ้าตัวก็แสร้งยิ้มเผล่
“ว่าแต่ เธอไม่น่ารักหรอกเหรอ นายถึงหงุดหงิดขนาดนี้”
วินธัยชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อวีรภัทรถามแบบนั้น ก่อนที่เขาจะตอบออกไปว่า
“ผมไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เพราะผมบล็อคไปแล้ว”
“ใจคอของนายช่างโหดเหี้ยมจริงๆ ถึงกับต้องบล็อคกันเลยงั้นเหรอ”
วินธัยที่ยังคงจับจ้องสายตาอยู่ที่ใบหน้าของวีรภัทรเผยยิ้มบางๆ แต่นั่นกลับทำให้วีรภัทรรู้สึกขนลุกอย่างน่าประหลาดกับรอยยิ้มเช่นนั้นของวินธัย
“ถ้าเขาอยากคุยกับผม ก็ให้มาขอไอดีไลน์กับผมโดยตรง ผมไม่นิยมคุยกับคนที่ไม่เคยเจอกันซึ่งหน้ามาก่อน ถ้าเธอกล้าพอก็ให้เดินเข้ามาหาผมสิ แล้วผมจะลองพิจารณาอีกที”