บทที่3-3ชอบผมเหรอ

939 คำ
พร้อมรักตอบอย่างใจกล้าทั้งที่ก้อนเนื้อในอกซ้ายกำลังเต้นกระหน่ำรัวอย่างรุนแรง ยอมรับว่าประหม่าอยู่ไม่น้อย แต่หญิงสาวก็ไม่คิดจะปล่อยโอกาสที่ลอยอยู่ตรงนี้ให้หลุดลอยไป “ขนาดนั้นเลยเหรอ” “ขนาดนั้นแหละค่ะ” ภายใต้สีหน้าเรียบนิ่งของวินธัย หากแต่แววตาของเขากลับเจือด้วยความเอ็นดูกับคำตอบของหญิงสาว ดวงตาคมเข้มยังคงจับจ้องที่ดวงหน้าเรียวสวยก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณเคยทำความรู้จักใครแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า ผมหมายถึงกับคนที่คุณชอบ” “ไม่เคยค่ะ หมออาจจะไม่เชื่อ แต่นั่นคือเรื่องจริงค่ะ พร้อมไม่เคยชอบใคร และหมอคือคนแรก” พร้อมรักตอบแล้วยิ้มร่า ส่วนวินธัยนั้นยังคงสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเดิมหากแต่แววตาของเขาเจือความขบขันยามที่มองเห็นรอยยิ้มของหญิงสาวเอาไว้ด้วย “คุณนอนเถอะ ผมก็จะไปนอนแล้วเหมือนกัน” “ค่ะ” พร้อมรักรอให้วินธัยเดินกลับไปก่อน พอแผ่นหลังกว้างหายไปจากระยะสายตาแล้ว หญิงสาวก็จัดการปิดประตู เท้าเล็กขยับมาที่เก้าอี้สตูลหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ยกชาคาโมมายล์ขึ้นจิบด้วยท่าทางร่าเริง และคืนนี้เธอต้องหลับสบายอย่างที่อีกฝ่ายบอกอย่างแน่นอน รุ่งเช้า พร้อมรักถือวิสาสะใช้ครัวของวินธัยในการทำอาหารเช้าง่ายๆ นั่นก็คือข้าวต้มหมูสับทรงเครื่อง หญิงสาวใช้ทัพพีตักข้าวต้มที่กำลังส่งกลิ่นหอมฉุยใส่ชาม ก่อนจะยกไปวางที่โต๊ะกินข้าว หลังจากนั้นเจ้าตัวก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมรักในชุดพยาบาลนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว ดวงตากลมโตชะเง้อไปที่ประตูห้องของวินธัยที่ยังคงปิดสนิท มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตั้งใจจะกดข้อความหาอีกฝ่าย แต่แพทย์หนุ่มออกมาจากห้องพอดี พร้อมรักจึงวางมือถือไว้ที่เดิม “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” “อรุณสวัสดิ์” วินธัยบอกพร้อมกับขยับเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงฝั่งตรงกันข้ามกับพร้อมรัก ดวงหน้าเนียนใสยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งอีกฝ่ายนั่งเรียบร้อยแล้ว “พร้อมถือวิสาสะใช้ครัวของหมอ ต้องขอโทษด้วยนะคะ” “ไม่เป็นไร ขอบคุณสำหรับมื้อเช้า” วินธัยไม่ถือสา ชายหนุ่มหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวต้มเข้าปาก พร้อมรักจึงจัดการข้าวต้มตรงหน้าตัวเองบ้าง ถึงแม้จะไร้บทสนทนาระหว่างกัน แต่บรรยากาศโดยรอบก็ไม่ได้อึดอัดอะไร จนกระทั่งทั้งคู่ต่างจัดการข้าวต้มจนเกลี้ยงชาม “อร่อยดี” “ขอบคุณค่ะ” พร้อมรักยิ้มร่าที่อีกฝ่ายถูกใจรสชาติข้าวต้มหมูสับทรงเครื่องฝีมือเธอ หญิงสาวลุกจากเก้าอี้ ยกชามข้าวต้มไปที่อ่างล้างจาน วินธัยเองก็ทำเช่นเดียวกัน “เดี๋ยวผมจัดการเอง” “ไม่เป็นไรค่ะ” ท้ายประโยคเสียงแผ่วลงเมื่อถูกสายตาคมกริบคู่นั้นที่มองมาดูเข้มขึ้น พร้อมรักจึงยอมถอยออกมาอย่างว่าง่าย หญิงสาวนั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว ยกมือข้างหนึ่งขึ้นเท้าคาง ระหว่างนั้นสายตาก็จับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังกว้างของวินธัยที่จัดการล้างจานอย่างคล่องแคล่ว ‘พ่อของลูก อย่างอาจารย์หมอต้องเป็นพ่อของลูกเราเท่านั้น’ พร้อมรักคิดอย่างมุ่งมั่นและเปลือกตาสีมุกก็ปิดลง ใบหน้ายิ้มแย้มราวกับตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน จนวินธัยที่จัดการล้างจานเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ เท้ามือทั้งสองลงตรงหน้า พร้อมรักก็ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกสายตาคมปลาบจับจ้อง และใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังโน้มต่ำลงมาก็อยู่ห่างจากดวงหน้ารูปไข่เพียงแค่คืบ “รู้ว่าชอบ แต่ไม่คิดว่าคุณจะคลั่งรักผมขนาดนี้” “อุ๊ยหมอ ตกใจหมดเลยค่ะ” เปลือกตาสีมุกเปิดขึ้นพร้อมกับเจ้าของร่างที่สะดุ้งโหยง พร้อมรักเบียดหลังเข้ากับพนักเก้าอี้โดยใช้มือจับที่ขอบโต๊ะเอาไว้อย่างต้องการหนีตามสัญชาตญาณ เพราะไม่รู้ว่าเขามาอยู่ใกล้เธอมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน ท่าทางประหม่าดูเงอะงะจนวินธัยนึกขัน หากแต่แพทย์หนุ่มเพียงแสดงออกมาด้วยการยิ้มในหน้า หัวใจของพร้อมรักสั่นไหว ยิ่งได้เห็นดวงตาคมกริบฉายแววล้อเลียนอยู่ในทีหญิงสาวก็ยิ่งประหม่า ลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาทำให้รู้สึกขนลุกซู่อย่างน่าประหลาด ดวงตาคู่สวยไหวระริก เรียวปากสีชมพูเรื่อเม้มสลับคลายอย่างคนที่ทำตัวไม่ถูก และยิ่งตอนที่ใบหน้าหล่อเหลาโน้มต่ำลงมาอีกราวกับว่าจงใจจะกลั่นแกล้งกัน หัวใจของพร้อมรักก็ยิ่งเต้นถี่รัวแทบไม่เป็นจังหวะ กลีบปากนุ่มเม้มเหยียดเป็นเส้นตรง ขนตาเป็นแพงอนงามกระพริบถี่ๆ อย่างตื่นเต้น หากแต่สุดท้ายใบหน้าหล่อเหลาก็เคลื่อนถอยกลับไปก่อนที่แพทย์หนุ่มจะยืดตัวขึ้นเต็มความสูง “ผมจะไปทำงานละ” “อะอ๋อค่ะ” พร้อมรักกระวีกระวาดหยิบสัมภาระที่วางเอาไว้บนเก้าอี้ตัวติดกัน พลางผุดตัวลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางกระตือรือร้นจนเกินควร รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นตรงมุมปากของวินธัย ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายขยับเท้าเดินนำออกไปก่อน จากนั้นพร้อมรักก็เดินตามอีกฝ่ายไปด้วยท่าทางเก้อเขิน และหัวใจดวงน้อยที่ลิงโลด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม