พร้อมรักเดินออกจากวอร์ดด้วยท่าทางร่าเริง วันนี้หญิงสาวอารมณ์ดีจนเพื่อนร่วมงานเอ่ยปากแซว แต่พร้อมรักก็ไม่ได้อธิบายอะไร ทำเพียงแค่ยิ้มรับเท่านั้น
ใช้เวลาเพียงไม่นานหญิงสาวก็มาถึงอาคารจอดรถ ปลดล็อครถแล้วแต่ยังไม่ทันได้ก้าวขึ้นไปนั่ง เสียงโหวกแหวกโวยวายดังขึ้นมาเสียก่อน ทำให้เท้าเล็กต้องชะงักอยู่ที่เดิม
“เดี๋ยวก่อนเจ้!”
“อ้าวดอลลี่ มีอะไรอะ”
“วันนี้วันเกิดอาจารย์หมอสหทรรศ พี่แยมเขาชวนดอลลี่ไปด้วย งานนี้อาจารย์หมอวินธัยก็ไปด้วยนะ”
ธนดลกล่าวถึงภวิกาภรรยาของสหทรรศซึ่งเป็นพยาบาลประจำวอร์ดผู้ป่วยเด็กของโรงพยาบาลวรกุลอินเตอร์เนชันนอล
“แต่เจ้ไม่ได้สนิทกับแยมนะ เจ้ไปได้เหรอ”
“ไปได้ ดอลลี่ถามแล้ว และดอลลี่ก็บอกพี่แยมไปว่าเจ้กำลังตามจีบอาจารย์หมอวินธัยอยู่ พี่แยมบอกว่าจะช่วยด้วยแหละ”
“จริงเหรอ” พร้อมรักถามเสียงตื่นเต้น
“จริงสิ จะบอกว่าพี่แยมน่ะสนิทกับอาจารย์หมอวินธัยพอสมควรเลยแหละ สนิทมากกว่าพายน์อีกนะ เพราะพายน์เพิ่งจะมาสนิททีหลัง”
“ฮือ งั้นดีเลย เจ้ไปด้วย เดี๋ยวเจ้รีบกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ว่าแต่งานเริ่มกี่ทุ่มอะเจ้จะได้รีบไปซื้อของขวัญ”
“สองทุ่ม เจ้ไม่ต้องเตรียมของขวัญไปหรอก เจ้าของวันเกิดเขาไม่เอา และก็เป็นงานเลี้ยงแบบสบายๆ ไม่ใช่งานใหญ่โตอะไร มีแค่คนสนิทกัน”
“มันจะไม่น่าเกลียดเหรอดอลลี่”
“ไม่หรอก เพราะพี่แยมบอกมาแบบนั้น”
“งั้นก็โอเค ดอลลี่ไปกับเจ้นะเดี๋ยวเจ้ไปรับ”
“หัดทำตัวเป็นสตรีที่อ่อนแอหน่อยก็ได้ไหมล่ะ”
“ยังไงอะดอลลี่ เจ้งง”
“เดี๋ยวไปรถดอลลี่ เผื่อขากลับเจ้อยากจะติดรถอาจารย์หมอวินธัยกลับบ้านอะไรงี้”
“โอ้โหดอลลี่ น้องรหัสผู้น่ารักของเจ้”
“นี่เห็นแก่ความคลั่งรักของเจ้หรอกนะ ดอลลี่ถึงได้ช่วย”
“ขอบคุณจ้าน้องรัก”
“เป็นน้องรักขึ้นมาทันทีเลยนะ”
“คิกๆ” พร้อมรักหัวเราะเบาๆ
“งั้นก็จบแยก ทุ่มยี่สิบเจ้ลงมารอดอลลี่ใต้คอนโดฯ ได้เลย”
“โอเค บ๊ายบาย”
ทั้งคู่โบกมือลากัน ธนดลเดินไปที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ในขณะที่พร้อมรักก้าวขึ้นรถก่อนที่ต่างคนต่างขับออกไป
พร้อมรักลงมารอธนดลที่ใต้คอนโดฯ ตอนทุ่มสิบห้า ทุ่มยี่สิบรถของธนดลก็เลี้ยวเข้ามาจอดตรงหน้าล็อบบี้คอนโดฯ พร้อมรักขยับยิ้มก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถของธนดล ก้าวขึ้นไปนั่งแล้วดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาด
“ออกรถได้”
“สั่งเป็นแท็กซี่เลยนะพี่มึง”
ธนดลเบะปากว่าอย่างไม่จริงจังนัก พร้อมรักแสร้งไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ นั่นเป็นเหตุให้ธนดลแค่นเสียง ‘ฮึ’ ขึ้นจมูกก่อนที่จะเคลื่อนรถออกไป
พร้อมรักในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นโอเวอร์ไซซ์ลายทางสีชมพูพาสเทลกับกระโปรงเอวสูงสีขาวความยาวไม่ถึงเข่า แต่ไม่ได้ดูเปิดเผยผิวเนียนละเอียดแถวต้นขานักเพราะหญิงสาวเป็นคนตัวเล็ก รองเท้าที่สวมใส่เป็นรองเท้าผ้าใบแฟชั่นคู่โปรดหยิงสาวเดินเข้ามาในคริสตัลไนต์คลับพร้อมกับธนดล ทั้งคู่เดินแหวกผู้คนที่กำลังวาดลวดลายอยู่ตรงฟลอร์เต้นรำตามจังหวะเพลงที่ชวนให้ออกสเต็ปแดนซ์ เดินผ่านขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองซึ่งเป็นห้องวีไอพีที่เจ้าของงานวันเกิดจองไว้
“แป๊บนึงดอลลี่ เจ้ดูดีหรือยังอะ”
พร้อมรักรั้งให้ธนดลหยุดเท้าก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องวีไอพีสองซึ่งเป็นห้องที่สหทรรศจองเอาไว้กินเลี้ยงงานวันเกิด ธนดลยอมหยุดเท้า ดวงตาของเขากวาดมองรุ่นพี่สาวอย่างสำรวจตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า ไล่สายตาขึ้นมาหยุดที่ดวงหน้าเรียวรูปไข่ ก่อนจะยกนิ้วหัวแม่มือให้
“ปังมากพี่นัท”
“ให้จริง ไม่ใช่มาหลอกให้เจ้ดีใจหรอกนะ”
“เอาหัวเจ้เป็นประกันเลย”
“เออ อย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย เดี๋ยวนะดอลลี่”
“ฮาๆ”
ธนดลหัวเราะร่าที่แกล้งรุ่นพี่สาวได้ พร้อมรักทำจมูกย่นใส่อีกฝ่ายอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนที่เจ้าตัวจะร้องโวยวาย
“ต้องเอาหัวดอลลี่เป็นประกันสิ จะเอาหัวเจ้เป็นประกันได้ไงเล่า”
“ไม่รู้ไม่ชี้”
ธนดลลอยหน้าลอยตาตอบก่อนจะเป็นฝ่ายผลักประตูแล้วพยักเพยิดหน้าให้พร้อมรักที่หน้ามุ่ยเดินเข้าไปด้านในก่อน
พื้นที่สำหรับนั่งเป็นโซฟารูปตัวยู ตรงกลางเป็นโต๊ะวางของที่ตอนนี้มีทั้งอาหารกับเครื่องดื่มอยู่เต็มโต๊ะ และมีทีวีจอพลาสมาขนาดใหญ่พร้อมลำโพงขนาบข้าง ไฟในห้องถูกปรับเป็นไฟสลัวที่เหมาะกับการสังสรรค์ในยามค่ำคืน
พร้อมรักกับธนดลยกมือขึ้นไหว้สหทรรศกับวีรภัทร ก่อนจะโบกมือทักทายภวิกากับภัคร์พิมลที่นั่งด้วยกัน พร้อมรักขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อไม่เห็นวินธัย แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ยอมหย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆ ธนดลซึ่งนั่งถัดจากภัคร์พิมล ราวกับว่าพวกเขากำลังแบ่งฝั่งสุภาพบุรุษกับฝั่งสุภาพสตรี และแน่นอนว่าธนดลอยู่ฝั่งสุภาพสตรีไปโดยปริยาย
“รอหมอวินก่อนก็แล้วกัน เมื่อกี้ไลน์มาบอกว่าใกล้จะถึงแล้ว”
สหทรรศพูดขึ้น ทุกคนในห้องต่างพยักหน้าเห็นด้วย ส่วนพร้อมรักนั้นรอคอยการมาของอีกฝ่ายอย่างใจจดใจจ่อ เพียงแค่ได้ยินชื่อของแพทย์หนุ่ม หัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นราวกับว่าเขามาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว
‘ใจเย็นน่าพร้อมรักอย่าล่ก’ พร้อมรักย้ำเตือนตัวเอง
ระหว่างที่รอวินธัย เจ้าของงานวันเกิดอย่างสหทรรศก็หยิบรีโมทขึ้นมาเปิดเพลงจากสมาร์ททีวี เป็นแนวเพลงฟังเพราะๆ ฟังสบายๆ และปล่อยให้เพลงรันไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ในห้องตกอยู่ในความเงียบ
“ฉันน่ะนะเกือบโดนหมอวินฟ้องร้องโทษฐานละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแล้ว ใจร้ายชะมัด”
วีรภัทรเปิดบทสนทนากับสหทรรศโดยใช้เสียงที่แน่ใจว่ากลุ่มสาวๆ และอีกหนึ่งหนุ่มที่ใจสาวจะไม่ได้ยินเรื่องราวที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน
“ทีหลังก็อย่าหาทำ” สหทรรศว่ายิ้มๆ
“ก็ไม่ได้อยากทำ แต่เจอเมียอ้อน ฉันปฏิเสธได้งั้นเหรอ”
“ฮึ”
สหทรรศกระตุกยิ้มมุมปาก และคิดต่อว่าหากเป็นเขาจะทำอย่างไร และครู่ต่อมาเจ้าตัวก็ได้คำตอบว่าสำหรับเขาน่ะ ‘ไม่’ ไม่เหลือเหมือนกัน ถ้าเมียอ้อนใครจะไปใจแข็งได้ล่ะ
บทสนทนาของสองหนุ่มสิ้นสุดลงตรงนั้นเมื่อบานประตูถูกผลักเข้ามา พร้อมรักที่กำลังพูดคุยกับกลุ่มสาวๆ อย่างออกรสออกชาติก็ชะงักกึกราวกับถูกกดปุ่มสต็อปบนรีโมท หญิงสาวไม่แน่ใจว่าการรับกลิ่นของจมูกของเธอดีเกินไปหรือเปล่า เพราะสิ่งที่เธอรับรู้ได้เป็นอันดับแรกนั่นก็คือกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของวินธัย และครู่ต่อมาหัวใจดวงน้อยก็สั่นไหวเมื่อใบหน้าหล่อเหลาที่ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงอยู่ในระยะสายตา
อาจารย์หมอวินธัยในวัยสามสิบปีในชุดเสื้อยืดคอวีสีขาวสวมเสื้อแจ็กเก็ตหนังทับกับกางเกงยีนส์ที่รอยกรีดขาดตรงช่วงเข่าตามแฟชั่น เท้าหนาถูกสวมด้วยรองเท้าผ้าใบแบรนด์ดัง โดยเฉพาะใบหน้าคมคายในค่ำคืนนี้ที่ปราศจากแว่นสายตา แพทย์หนุ่มช่างดูหล่อเหลามากจริงๆ
และพร้อมรักก็ไม่สามารถอนสายตาออกมาจากภาพตรงหน้าได้เลย จนกระทั่งเสียงกระซิบใกล้ใบหูดังขึ้นนั่นแหละ พร้อมรักจึงได้หลุดออกจากภวังค์
“พี่มึงใจเย็น อาจารย์หมอวินธัยกินไม่ได้นะ เอ๊ะ หรือว่ากินได้”
ธนดลกระซิบพลางหัวเราะเบาๆ อย่างล้อเลียนตอนที่ดึงใบหน้ากลับไป พร้อมรักหันไปแยกเขี้ยวใส่รุ่นน้อง ก่อนจะชกเข้าที่ต้นแขนของอีกฝ่ายเบาๆ ไปหนึ่งที ซึ่งธนดลเองก็ไม่ได้ถือสาอะไร
“ว้าว วันนี้หมอวินไม่พกแว่นแฮะ”
วีรภัทรเอ่ยทักทายตอนที่วินธัยหย่อนสะโพกลงนั่งข้างๆ วินธัยยังคงสีหน้าเรียบเฉย คิ้วหนาข้างหนึ่งที่พาดเหนือดวงตาเรียวรียกขึ้นสูง ดวงตาคู่คมมองไปที่วีรภัทร
“ผมอยากหล่อบ้างไม่ได้หรือไง”
“ว้าว!”
วีรภัทรกับสหทรรศถึงกับร้องอุทานออกมาพร้อมกัน บนใบหน้าของพวกเขาปรากฏรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย แก๊งสาวๆ นั้นต่างก็กำลังอมยิ้ม ส่วนพร้อมรักนั้นก็กำลังกลั้นยิ้มจนแก้มป่อง
‘หมอไม่ต้องพยายามหรอกค่ะ อยู่เฉยๆ หมอก็หล่อมากอยู่แล้ว’