“ฉะ…ฉันทำอย่างที่คุณพูดก็จริง ตะ…แต่รูปภาพที่ฉันเอามาใช้ ฉันก็ให้เครดิตทุกรูปเลยนะ”
วันวิสาตอบเสียงอ้อมแอ้มเพราะเกรงสายตาคมเข้มที่จ้องมองมายกเว้นภาพหน้าปกนิยายนั่นละที่เธอละเมิดลิขสิทธิ์จริงๆ แต่เธอก็ไม่ได้ตั้งใจนะ เป็นเพราะไอ้พี่ป๋องบ้านั่นต่างหากที่หลอกเธออีกที
“คุณคิดว่าทำเพียงแค่นั้นมันพอแล้วเหรอ”
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงเล่า”
อะไรกัน เธอก็เคยเห็นนักเขียนคนอื่นเอาอิมเมจและรูปภาพมาประกอบนิยายตอนลงเว็บแล้วก็ให้เครดิตเจ้าของภาพ ก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหาเลยนี่
“ฮึ แล้วรูปของผมที่คุณเอาไปทำเป็นปกนิยายวางขายตามร้านหนังสือนั่นล่ะ”
“เอ่อ..เรื่องนั้นฉันอธิบายได้” ปากเล็กกำลังจะขยับบอกว่าเธอซื้อภาพของเขามาจากคนรู้จัก แต่ชายหนุ่มไม่ให้โอกาสเธอได้อธิบาย
“คุณต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ผม ก็ไม่เท่าไรหรอก สิบล้านบาทเท่านั้นเอง”
“อะไรนะ!” วันวิสาแทบลมจับ อย่าว่าแต่สิบล้านบาทเลย หมื่นเดียวก็ว่ายากแล้ว
“ตะ…แต่ว่าตามกฎหมายแล้วการละเมิดลิขสิทธิ์โทษปรับตั้งแต่ห้าหมื่นแต่ไม่เกินสี่แสนบาทไม่ใช่หรือคะ”
วันวิสาพอจะรู้ข้อกฎหมายคร่าวๆ หลักหมื่นหลักแสนพอจะผ่อนไหว หลักล้านบาทอีกสามชาติเธอก็คงไม่มีปัญญาหามาให้ได้หรอก
เทอร์รี่ยิ้มมุมปากราวกับยิ้มเยาะ พลางคิดในใจ
‘ฉลาดเหมือนกันนี่’
“คุณก็รู้ว่านักแสดงชื่อดังระดับผมค่าตัวขั้นต่ำก็เจ็ดหลักขึ้นไป ดังนั้นค่าลิขสิทธิ์ที่ผมจะเรียกร้องจากคุณมันก็ต้องสูงขึ้นไปด้วย”
เทอร์รี่แสร้งข่มขู่เมื่อเห็นสีหน้าไร้สีเลือดของอีกฝ่าย อันที่จริงถ้าเกิดมีการฟ้องร้องขึ้นมาจริงๆ เขาก็อาจจะได้แค่หลักหมื่นหลักแสนเท่านั้นแต่เขาอยากจะแกล้ง ใครจะทำไม “และที่สำคัญบางทีโทษอาจจะทั้งจำและทั้งปรับด้วยก็ได้”
“ละ…แล้วคุณจะเอาอย่างไรล่ะ”
“เห็นแก่หน้าตาบ้านๆ แบบคุณ” เทอร์รี่ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินวนรอบๆ วันวิสา มองเธออย่างประเมินด้วยสายตาเหยียดๆ “ผมมีทางเลือกให้คุณสองทาง” ทางเลือกที่เขาเพิ่งคิดขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ
“อะไรล่ะ” ถึงนาทีนี้วันวิสาคงต้องยอมรับสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้
“ข้อหนึ่งหาเงินสิบล้านมาให้ผมในวันพรุ่งนี้”
“จะบ้าเหรอคุณ” วันวิสาร้องโวยวาย แต่ต้องหุบปากฉันเมื่อเจอกับสายตาคมเข้มที่กำลังมองมา “ละ…แล้วข้อสองล่ะคะ”
“มาเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของผมหนึ่งปีแล้วผมจะปล่อยคุณไป” เทอร์รี่ยิ้มเหยียดอย่างผู้ที่กำลังเหนือกว่า
“แล้วถ้าฉันปฏิเสธล่ะ”
“ไม่เกินสองวัน คุณเตรียมตัวเก็บข้าวของเข้าซังเตได้เลย”
“ขอเวลาให้ฉันคิดดูก่อนได้ไหม” วันวิสาขอต่อรอง ทั้งที่เธอไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะทำแบบนั้นได้
“ไม่ได้!” นั่นคือคำประกาศิตที่เธอต้องตัดสินใจว่าจะยอมเป็นทาสหรือจะยอมขึ้นศาลที่สุดท้ายแล้วเธอต้องเป็นผู้แพ้อยู่ดี
“ว่ายังไง” เสียงทุ้มเร่งเร้าจะเอาคำตอบให้ได้เดี๋ยวนั้น ทั้งๆ ที่ปล่อยให้เธอได้ไตร่ตรองไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ
“กะ…ก็ได้ ฉันยินยอมเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของคุณหนึ่งปีก็ได้”
วันวิสาตอบรับอย่างไม่เต็มใจ เธอไม่มีทางเลือก เงินเป็นสิบๆ ล้านเธอจะไปหามาจากไหนได้แล้วถ้าต้องขึ้นศาลประวัติของเธอก็ต้องเสีย ไหนจะครอบครัวของเธออีก
“ดี”
เทอร์รี่พูดแค่นั้น ก่อนจะเดินกลับไปนั่งเก้าอี้ เธอเห็นเขาง่วนพิมพ์อะไรบางอย่างที่หน้าแล็ปท็อปหลังจากนั้นเขาก็สั่งพิมพ์เอกสารออกมาสองแผ่น
“เซ็นซะ” เขายื่นเอกสารตรงหน้ามาให้เธอสองแผ่น เมื่อเห็นสีหน้างุนงงของอีกฝ่าย เขาจึงต้องอธิบายเพิ่มเติม “สัญญาว่าคุณจะทำตามที่เราตกลงกันไว้ ถ้าคุณเกิดเบี้ยวผมจะได้มีหลักฐานโยนคุณเข้าซังเตยังไงล่ะ”
วันวิสาเบ้ปากมองเขา ก่อนจะจรดปากกาเซ็นชื่อลงไปบนกระดาษสองแผ่นนั่นโดยที่ยังไม่ทันได้อ่านรายละเอียด ด้วยเกรงว่าเขาอาจจะเปลี่ยนใจฟ้องร้องเธอแทน และเธอก็เรียกสัญญาฉบับนั้นว่า
“สัญญาตัวร้าย”
เทอร์รี่เก็บไว้หนึ่งฉบับและให้เธอเก็บไว้หนึ่งฉบับ วันวิสาคว้ามันมายัดใส่กระเป๋าสะพายอย่างไม่เต็มใจนัก
“ฉันกลับได้แล้วใช่ไหมคะ” วันวิสาบอกแค่นั้นก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยไม่รอให้เขาเอ่ยอนุญาต แต่ก่อนที่เท้าเล็กจะออกก้าวเดินก็ต้องชะงักอยู่กับที่เสียก่อน
“เดี๋ยวก่อน”
“คะ”
“คุณยังไม่ได้อ่านรายละเอียดในสัญญานั่นใช่ไหม” ใบหน้าหล่อเหลาเหยียดยิ้มอย่างมีเลศนัย
วันวิสาทำหน้างุนงง ก่อนจะล้วงสัญญาตัวร้ายที่เธอยัดใส่กระเป๋าแล้วออกมาอ่าน
เธอต้องอยู่รับใช้เขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอย่างนั้นหรือ
“ตะ…แต่ว่าฉันมีงานประจำที่ต้องทำนะคะ” วันวิสาร้องเสียงหลงเมื่อเพิ่งจะเห็นสัญญาอย่างรายละเอียด
“คุณทำงานอะไร” เสียงทุ้มถามเสียงเรียบ
“ฉันทำงานที่กองโบราณคดีค่ะ”
“เป็นนักโบราณคดีงั้นเหรอ”
“ก็ประมาณนั้น”
“คุณได้เงินเดือนเท่าไร”
คิ้วสวยขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างแปลกใจ เขาจะถามเรื่องเงินเดือนของเธอไปทำไมกัน เพราะยังไงซะ มันก็ไม่พอจ่ายค่าลิขสิทธิ์ของเขาหรอก แต่ก็ยอมตอบออกไปแต่โดยดี
“ก็ประมาณหนึ่งหมื่นแปดพันบาทค่ะ”
“ไปลาออกจากงานซะ”
“อะ…อะไรนะคะ” วันวิสาร้องออกมาอย่างตกใจ คนบ้า จู่ๆ จะให้เธอลาออกจากงานที่เธอรัก แถมยังเป็นงานเลี้ยงชีพของเธออีกด้วย เธอไม่ยอมหรอก
“ไม่เอาหรอก” เธอปฏิเสธพร้อมใบหน้าเรียวสวยที่สะบัดไปมาจนคนมองเริ่มจะเวียนศีรษะ
“เลือกเอาแล้วกันระหว่างที่คุณอาจจะมีโอกาสได้ขุดหาของเก่าหลังจากที่อยู่รับใช้ผมจนครบปีแล้วหรือ…” เทอร์รี่เว้นจังหวะการพูดเล็กน้อย พอให้คนฟังได้ลุ้นระทึกแบบใจหายใจคว่ำ “คุณจะไปหาของเก่า…ในซังเต”