ตอนที่ 15 เป็นของพี่ NC
“พี่วาตะจะทำอะไรคะ” หนูยิ้มเอ่ยถามด้วยความตกใจเมื่ออยู่ ๆ วาตะก็อุ้มเธอขึ้นมาจากโซฟาด้วยท่าเจ้าสาว แถมยังพาเธอเดินเข้าไปในห้องนอนและพื้นที่ส่วนตัวของวาตะ
“ก็เธอเป็นคนเสนอตัวให้ฉันเอง ทำไมฉันจะสนองให้เธอไม่ได้” วาตะพูดพร้อมกับโยนตัวหนูยิ้มลงไปบนเตียงนอนนุ่ม
แม้ว่าตอนนี้หนูยิ้มจะทั้งตกใจทั้งกลัวในท่าทีของวาตะ แต่หนูยิ้มก็ไม่กล้าขยับตัวเองหนีไปไหนเพราะกลัวว่าวาตะจะโกรธมากกว่าเดิม อีกอย่างเพราะทุกสิ่งที่หนูยิ้มเลือกนั้นเธอคิดมาก่อนแล้วว่าจะต้องเป็นวาตะเท่านั้นที่จะได้ครั้งแรกของเธอ ‘ต้องเป็นพี่วาตะเท่านั้น’
วาตะถอดเสื้อเชิ้ตที่ตัวเองใส่ออก เขาโยนมันทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะพาตัวเองขึ้นมาบนเตียงนอน มือหนาเอื้อมไปจับลงที่ท้ายทอยของหนูยิ้ม
วาตะแนบลงบนริมฝีปากเรียวบาง เขาบดขยี้จูบที่เร่าร้อนและรุนแรงไปพร้อม ๆ กับมือที่เอื้อมไปสัมผัสลงบนอกอวบอิ่มคู่นั้น การบีบขย้ำของเขาทำให้หนูยิ้มขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะความเจ็บ วาตะตั้งใจทำแรงต่อหนูยิ้มเพื่อรออีกฝ่ายขัดขืนเขา
“เธอเนี่ยมันจืดชืดชะมัดเลย” วาตะพูดด้วยเสียงที่แหบพร่า ในขณะที่เขากำลังถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกทั้งหมด
ใบหน้าขาวอมชมพูตอนนี้แดงระเรื่อขึ้นมาอย่างปกปิดไม่ได้เพราะความเขินอาย แต่วาตะไม่ได้ใส่ใจใบหน้างามของหญิงสาว เพราะเขาสนใจเรือนร่างเปื่อยเปล่าของเธอในตอนนี้มากกว่า หนูยิ้มขาวนวลทั้งตัว หน้าอกคู่สวยรับกับเอวคอด สะโพกที่ผายพอดีตัว เนินสาวที่ดูอวบอูมปิดสนิท ทำให้เขาเผลอยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“หึ…ซ่อนรูปใช้ได้เลยนิ” วาตะเอ่ยชมออกมาอย่างหลงไหลและลืมตัว
หนูยิ้มระบายยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อวาตะเอ่ยชื่นชมเธอ ถึงแม้นจะมีความอายมากแค่ไหนแต่หนูยิ้มพร้อมสำหรับวาตะ ทั้งชีวิตนี้เธอไม่เคยเผื่อใจให้ใครเลย
ในตอนนี้ยิ่งวาตะมองชื่นชมอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ความต้องการในตัวก็ยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม วาตะปลดกางเกงสแล็คของตัวเองออก ก่อนจะดันให้หนูยิ้มนอนราบไปกับเตียงนอน ก่อนจะหยิบเครื่องป้องกันสวมเข้าตัวตนของเขา
ชายหนุ่มพาตัวเองไปอยู่ระหว่างกลางลำตัวของหนูยิ้ม จับเรียวขาสวยแยกออกจากกัน ก่อนใบหน้าคมจะก้มลงไปจูบริมฝีปากเรียวอีกครั้ง ซึ่งในขณะนั้นหนูยิ้มกลับรู้สึกเหมือนมีบางอย่างสัมผัสไปกับร่องสาวของตัวเอง เธอได้แต่ข่มความตื่นเต้นเอาไว้ และแล้วแก่นกายของวาตะก็แทรกเข้ามาถึงกลีบที่ปิดสนิทสวยนั้น
“อืมม์ หนูเจ็บ...ฮึก เจ็บ...” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างพร้อมมือเรียวพยายามผลักอีกฝ่ายให้ห่างตัว ตอนนี้หนูยิ้มพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของอีกฝ่าย เนื่องจากความเจ็บที่ได้รับมามันเกินจินตนาการที่เธอเคยนึกเอาไว้ ร่างของเธอแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ทุกอย่างเธอตกใจไม่น้อยที่อยู่ ๆ วาตะก็ดันแก่นกายของตัวเองเข้ามาภายในตัวเองของเธอ ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะเล้าโลมเธอมากกว่านี้
“อย่าดิ้น รัดเป็นบ้าเลย” วาตะเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์เพราะความคับแน่นที่บีบรัดตัวเขาอยู่ ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เขาเพิ่งดันตัวตนเข้ามาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
วาตะที่เห็นน้ำตาของหนูยิ้มเขาหยุดนิ่งและแช่ตัวตนของตัวเองไว้ ส่งนิ้วหนาลูบวนเม็ดทับทิมจุดอ่อนไหวเพื่อกระตุ้นเร้าอารมณ์หนูยิ้ม มือหนาอีกข้างได้บีบเคล้นอกของหนูยิ้มอย่างต้องการเบี่ยงเบนความสนใจ
เขาส่งริมฝีปากร้อนก้มลงดูดเลียวนรอบยอดอกสลับข้างไปมา สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้คนใต้ร่างอย่างไม่เคยมาก่อน และเหมือนมันจะได้ผลเมื่อหนูยิ้มผ่อนคลายตัวเองลง
“อืม ...พี่วาตะ” หนูยิ้มครางชื่อเขาออกมาอย่างลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อวาตะสังเกตว่าหนูยิ้มกำลังเคลิบเคลิ้มแล้ว ชายหนุ่มเริ่มขยับสะโพกเข้าออกร่องสาวอย่างเนิบนาบ
“เจ็บ พี่วาตะหนูยิ้มเจ็บ อย่าเพิ่งขยับได้ไหมคะ” หนูยิ้มเอ่ยด้วยเสียงที่สั่นเคลือ ดวงตาเธอสั่นไหวไปด้วยหยาดน้ำสีสวย มือเรียวสวยกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นราวกับกำลังระบายอารมณ์ของตัวเอง
“แค่นี้ก็ทนไม่ได้ งั้นหยุดไหม….”
“ไม่หยุดค่ะ ขยับเข้ามาเลยก็ได้หนูยิ้มไม่เจ็บ” หนูยิ้มเอ่ยพร้อมเอื้อมมือไปโอบร่างของวาตะที่ทำเหมือนกำลังจะขยับตัวถอยห่างเธอ ด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายจะละห่างเธอไป เธอจึงอดทนกลั้นความเจ็บที่มีในขณะนี้ไว้
“หึ..ดี” วาตะยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนจะขยับสะโพกของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งการขยับของเขาในแต่ละครั้งทำเอาเจ้าของใบหน้าสวยอ้าปากค้างเล็กน้อยเพราะความเจ็บที่วิ่งเข้าเล่นงานเธออยู่
ตอนนี้หนูยิ้มรู้สึกเหมือนร่างกายของเธอจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจ ความรู้สึกของเยื่อบางพรหมจรรย์ที่ถูกฉีกขาดจจนวาตะรับรู้ได้ทันที
“ซี้ด แน่นเป็นบ้าเลย” วาตะขยับตัวเองถอยห่างตัวของหนูยิ้มเล็กน้อย สองขาเรียวถูกวาตะจับพาดเข้าที่เอวของเขา ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกของตัวเองเข้าและออกอย่างเป็นจังหวะที่หนักหน่วง อย่างไม่สนใจว่าหนูยิ้มจะรู้สึกเจ็บหรือเปล่า
“อ๊ะ อ๊ะ..อื้อ ”เสียงครางหวานของหนูยิ้มเริ่มดังออกมาจากความรู้สึกที่ผสมความเจ็บความเสียวซ่านที่ก่อตัวขึ้น
สายตาคู่คมมองลงมายังจุดเชื่อมระหว่างชายและหญิง ซึ่งมันทำให้คนที่เห็นว่ามีเลือดอาบอยู่บนแก่นกายของตัวเอง วาตะก็ยิ่งโมโหขึ้นมากกว่าเดิม เพราะนั่นเท่ากับว่าหนูยิ้มจงใจร่วมมือกับพ่อแม่ของตัวเองใส่ร้ายเขาเมื่อก่อนนั้น แสดงว่าเขากับหนูยิ้มไม่ได้มีอะไรกันมาก่อนเลย
“อ้ะ พี่วาตะเบาหน่อย หนูยิ้มจุก” หนูยิ้มส่งเสียงออกมาเล็กน้อย เมื่ออยู่ ๆ วาตะก็เพิ่มแรงการขยับสะโพกของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม
“อ้า อืม…” หางตาของหนูยิ้มมีหยดน้ำตาสีใสไหลออกมา เมื่ออยู่ ๆ วาตะก็กัดลงบนเนินอกของเธอ
แต่ยิ่งวาตะพยายามทำร่องรอยต่าง ๆ บนเรือนร่างของหนูยิ้มมากแค่ไหน หญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกดีมากเท่านั้น แถมความรู้สึกเจ็บในตอนแรกก็แปรเปลี่ยนเป็นความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
“พี่วาตะ หนู..อะ หนูยิ้มจะไม่ไหวแล้ว ” วาตะไม่เอ่ยอะไรออกมาเพียงแต่สอบสะโพกเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เป็นจังหวะที่หนักหน่วงและเร็วยิ่งขึ้น
“อ๊ะ อ๊ะ ” หนูยิ้มไปอาจทนต่อการกระแทกของวาตะในแต่ละครั้งได้ ได้แต่ปลดปล่อยเสียงออกมาแทน
“ซี้ด เสียวเป็นบ้า... ไม่ไหวแล้วเหรอ” วาตะยังมีการขยับสะโพกของตัวเองอย่างต่อเนื่อง และเพียงไม่นานเท่านั้น หนูยิ้มก็กระตุกเกร็งเป็นสัญญานว่าเธอเข้าใกล้ปลายทางมากขึ้นกว่าเดิม
“พี่วาตะ เบาหน่อยได้ไหมคะ อื้อ ”
“เสียวฉิบหาย อาส์”
“พี่คะ หนูจะ...อ๊ะ อ๊ะ อาส์”เป็นหนูยิ้มที่กระตุกเกร็งตัวปลดปล่อยน้ำหวานออกมา เธอถึงจุดหมายปลายทางนำไปก่อน
“เสร็จแล้วสินะ ซี้ดส์ อาส์”
การสอบสะโพกของร่างหนาเกิดขึ้นอีกเพียงไม่นานเท่านั้น วาตะก็พาตัวเองไปยังปลายทางเช่นกัน น้ำขาวขุ่นที่ปลดปล่อยออกมาจนเต็มเครื่องป้องกันและถูกถอดออกไปสายตาของวาตะมองร่างระหงที่นอนหายใจถี่หอบอยู่สักพัก จนลมหายใจของหนูยิ้มเริ่มหายใจสม่ำเสมอดีขึ้น
“ยิ้มอะไรของเธอ” วาตะถามหนูยิ้มที่ยิ้มออกมาทั้งน้ำตาในขณะที่กำลังพยุงตัวเองลุกขึ้นมานั่ง
“หนูยิ้มดีใจค่ะ”
“เรื่อง” วาตะมองใบหน้าของหนูยิ้มอย่างไม่เข้าใจ แต่เขาก็มองเธอได้เพียงไม่นานเท่านั้น เมื่อสายตาของเขาดันไปจ้องมองยังอกคู่สวยที่มีรอยช้ำออกมาเล็กน้อย ซึ่งทำให้ตอนนี้วาตะอยากสานต่อกิจกรรมที่เพิ่งสุขสมไปก่อนหน้านี้อีกครั้ง
“ก็หนูยิ้มได้เป็นของพี่ ได้เป็นเมียพี่วาตะแล้วยังไงคะ” หนูยิ้มเอ่ยออกมาทั้ง ๆ ที่สายตาของเธอยังคงมองมายังวาตะด้วยรอยยิ้ม หนูยิ้มตะแคงข้างเข้าสวมกอดวาตะอย่างสุดรัก
“หึ…ผู้หญิงที่นอนกับฉัน เอาเสร็จก็จบ ฉันไม่มีสถานะให้ รวมถึงเธอด้วย” วาตะพูดจบก็โน้มใบหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากเรียวอีกครั้ง ไฟปรารถนาของวาตะกำลังถูกจุดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งหนูยิ้มก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธแต่ครั้งนี้หนูยิ้มต้องตกใจเมื่อวาตะดันตัวเองพิงหัวเตียงแล้วจัดให้เธอนอนคว่ำหน้าที่หว่างกลางของเขา
ตัวตนของเขาที่ตอนนี้อ่อนตัวลงเล็กน้อยหลังจากที่เพิ่งปลดปล่อยไป วาตะมองลงมาที่หนูยิ้มและเธอก็เงยหน้าขึ้นสบสายตาเขา
“จูบมันสิ”
“หนูยิ้มทำไม่เป็น”
“ก็จะสอนอยู่นี่ไง จับขึ้น อมแล้วอย่าให้โดนฟัน”
หนูยิ้มค่อยๆจับแก่นกายขึ้นอย่างเบามือ ก่อนจะเปิดปากรับแก่นกายของวาตะ ลิ้นเล็กของเธอเลียวนรอบหัวอวบหยักอย่างไร้ประสบการณ์แต่เต็มไปด้วยความเต็มใจและตั้งใจ
"อื้อ... หนูยิ้ม...อาส์" วาตะคราง ขณะที่ความร้อนจากปากของหนูยิ้มเข้าครอบกลืนห่อหุ้มแก่นกายของเขา
"ปากเธอโคตรนุ่ม อาส์" วาตะยิ้มพึงพอใจกับภาพตรงหน้าเมื่อหนูยิ้มก้มๆเงยๆกลืนลำกายของเขา
"อื้อ..." หนูยิ้มครางในลำคอขณะที่ปากของเธอยังกลืนของวาตะอยู่
วาตะจับผมของหนูยิ้มไว้เบาๆ ควบคุมจังหวะการเคลื่อนไหวของเธอ เขาครางในลำคอเวลาปากของเธอกลืนแก่นกายของเขาอย่างลึกล้ำจนเขาแทบจะทนไม่ได้
“ขึ้นมา”
ทันใดนั้นเอง วาตะดึงให้ให้หนูยิ้มขึ้นมาคร่อมบนตัวเขาโดยที่เขาสวมเครื่องป้องกันที่มีสารหล่อลื่น เขากดเอวคอดของหนูยิ้มแนบลงตัวเขาแล้วคลึงสะโพกขาวนวล ทำให้หนูยิ้มส่งเสียงครางออกมา
"อื้อ อ๊ะ... "
"เจ็บไหม" วาตะกระซิบถามเสียงแหบพร่า
"หนูยิ้มไหวค่ะ อื้อ"
วาตะยิ้มกริ่ม เขาเริ่มจูบเธออย่างดูดดื่ม ลิ้นของเขาแทรกเข้ามาในปากของเธออย่างเร่าร้อน ในขณะที่หนูยิ้มโอบกอดเข้าที่ต้นคอ มือของวาตะคล้องอยู่ที่เอวคอดของหนูยิ้ม
"ผ่อนคลายนะ..." วาตะกระซิบ ก่อนจะค่อยๆ ดันแก่นกายของเขาเข้าสู่ร่องสาวของหนูยิ้ม
"อ๊า อื้อ " หนูยิ้มร้องออกมาด้วยความรู้สึกแปลกใหม่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ร่างของเธอเกร็งขึ้นทันที
"ผ่อนคลาย...ครับ" วาตะกระซิบซ้ำ มือของเขาลูบไล้แผ่นหลังของเธออย่างนุ่มนวล พยายามให้เธอรู้สึกสบายขึ้น
วาตะยังคงจูบเธออย่างดูดดื่ม มือข้างนึงของวาตะบีบเคล้นหน้าอกคู่สวย ส่วนอีกข้างเคลื่อนลงมาสัมผัสเม็ดเสียวด้านหน้าของเธอ ปลายนิ้วนุ่มวนเวียนอยู่ตรงนั้น สร้างความเสียวซ่านให้หนูยิ้มเข้าไปอีก
"อื้อ... ซี๊ด..." หนูยิ้มครางผ่านริมฝีปากของวาตะ ร่างกายเธอค่อยๆ ผ่อนคลายลงเมื่อได้รับการปรนเปรอจากปลายนิ้วของวาตะ
หนูยิ้มค่อยๆ ขยับสะโพก บดลงตัวตนของเขาจนดันเข้าไปลึกสุด เขาครางเสียงต่ำด้วยความเสียดเสียวที่ได้รับ
"แน่นมาก เสียวฉิบหาย " วาตะครางอย่างสุขสม
“อื้อ อาส์”
หลังจากที่ร่างกายของหนูยิ้มก็เริ่มปรับตัวกับความรู้สึกแปลกใหม่นี้ ความเจ็บค่อยๆ จางหายไป เหลือเพียงความสุขสมที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เมื่อเห็นว่าหนูยิ้มเริ่มผ่อนคลายและรับความรู้สึกได้แล้ว วาตะก็ปล่อยริมฝีปากจากเธอและบอกสิ่งที่ต้องการออกไป
“ขย่มสิ บดตามใจของเธอ”
“อื้อ...” หนูยิ้มกดสะโพกโยกไปตามอารมณ์ของตัวเองที่ถูกปลุก
หนูยิ้มผละจูบของวาตะออกแล้วประคองเต้าอวบอิ่มป้อนเข้าปากวาตะ เขาขบเม้มเต้าสองเต้าสลับไปมาและมีหนูยิ้มควบสะโพกผาย แรงกดกระแทกของเธอทำให้วาตะแทบจะอดทนไม่ไหว
“หนูยิ้มรักพี่วาตะ อื้อ”
“หนูยิ้ม ขย่มแรงๆ อาส์”
วาตะเลื่อนมือลงไปสัมผัสจุดอ่อนไหวด้านหน้าของหนูยิ้ม นิ้วของเขาวนเวียนรอบติ่งเนื้อที่ไวต่อความรู้สึก ขณะที่แก่นกายของเขายังคงเคลื่อนเข้าออกในจังหวะที่เร่งเร้า
"อ๊ะ... พี่วาตะ... อื้อ..." หนูยิ้มเริ่มรู้สึกถึงความสุขสมที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ รูร่องสีสวยภายในของเธอเริ่มบีบรัดรอบแก่นกายของเขา
"ขย่มเร็วๆอื้อ" วาตะเร่ง สายตาของเขาจ้องมองใบหน้าของเธออย่างหลงใหล
"หนูกำลังจะ... อ๊ะ... อื้อ!"
" ขย่มแรงๆ อื้อ เสียวสุดๆ"
คลื่นความสุขสมซัดผ่านร่างของหนูยิ้ม ร่องคับแคบของเธอบีบรัดแก่นกายของวาตะอย่างแรง ร่างกายของเธอสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านที่พุ่งสูงถึงขีดสุด
“หนูยิ้มไม่ไหวแล้ว อาส์ อาส์”
"ปล่อยมา ซี้ดส์...เสร็จพร้อมกัน " เขาครางเสียงต่ำและจับล็อกเอวคอดของหนูยิ้มแล้วกระแทกสวนขึ้นเป็นจังหวะเร็วและแรงจนร่างเล็กที่คร่อมเขาอยู่ได้แต่จิกเล็บบนไหล่แกร่ง
“อ๊ะ อ๊ะ อาส์” หนูยิ้มครางเสียงหวานพร้อมกระตุกกายสุขสม
"อาส์" เขากระแทกกายเข้าหาหนูยิ้มอย่างแรงอีกสองสามครั้ง ก่อนที่จะปลดปล่อยน้ำแห่งความปรารถนาที่มีเครื่องป้องกันกั้นไว้
หนูยิ้มหมดแรงในอ้อมกอดของวาตะ หายใจเหนื่อยหอบ ชายหนุ่มกอดเธอไว้สักครู่ก่อนจะพลิกตัวเธอลงนอนบนที่นอน วาตะถอดเครื่องป้องกันทิ้ง พลางหันมามองหญิงสาวที่หลับอยู่ข้างๆโดยที่ตัวเขาเองมั่นใจว่าจะไม่มีสถานะให้แก่เธอ หากจะมีคนเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน
“ทำไมต้องอดทนขนาดนี้ด้วยนะ”