ตอนที่ 15
กรุ่นกำจาย
“อยากซุกข้าขนาดนี้เลยรึ!”
เสียงนุ่มทุ้มต่ำนั้น ทำให้ ธารทิพย์ สะดุ้งโหยง และเงยหน้าจากหมอนมาสบตากับหน้าหล่อเข้มที่ยืนมองอยู่แล้ว
“นายฮ้อย! ฉันขอโทษที่ละลาบละล้วงมาตรงที่นอน คือฉันเอาดอกเกศมาวางไว้ใต้หมอนให้ นายฮ้อยจะได้หลับสบาย”
หญิงสาวผุดกายนั่งอย่างรวดเร็ว และเตรียมจะเหยียดกายลุกขึ้น ทว่าร่างหนาสาวเท้ามาใกล้และกดบ่าลาดเธอลงเช่นเดิมก่อนจะย่อกายนั่งลงตรงพื้นเพิงที่ปูเสื่อตรงข้ามกับเธอ
“ประเดี๋ยวค่อยไป อย่าเพิ่งออกไปตอนนี้”
ธารทิพย์สังเกตเห็นว่า นายฮ้อยเพลิง วางหนังสติ๊กพร้อมก้อนหินเล็กๆไว้ยังพื้นเรือน เธอจึงมองด้วยความฉงนด้วยนึกถึงคำพูดเขาว่าจะไม่ใช้ปืนพร่ำเพรื่อเพราะกระสุนแพง
เช่นนั้นอาวุธหลักของนายฮ้อยคือหนังสติ๊กรึนี่?
“นายฮ้อยไปล่ามาดอกรึ?”
พอจะทราบมาว่า เวลาพักแรมนายฮ้อยกับคนงานอาจไปล่าหนูนา กะปอม นกต่างๆมาไว้ทำกิน หากที่พักใกล้ป่าและแหล่งอุดมสมบูรณ์ก็จะมีสิ่งเหล่านี้เป็นอาหาร และการล่าส่วนใหญ่ในสมัยก่อนจะใช้อาวุธที่เกิดเสียงน้อยที่สุด
อาวุธที่ง่าย ประหยัดและทุ่นแรงที่สุดคือหนังสติ๊ก
แต่การใช้หนังสติ๊กเพื่อการล่านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ต้องมีทักษะค่อนข้างสูงในการเล็ง และสายตาที่เฉียบคม ว่ากันว่าคนที่จะมาร่วมทัพควายได้นั่น อันดับแรกในการคัดเลือกคน
คือ ต้องมีสายตาดี ไม่สั้นและพร่ามัว
เพราะสมัยก่อนยังไม่มีแว่นตา คนที่จะร่วมทัพต้องมีสายตาปกติมองเห็นได้ไกล และใช้อาวุธทุกอย่างทั้งมีด หอก ของมีคมและหนังสติ๊กได้อย่างคล่องแคล่ว
“อืม ข้าไปล่ามา”
มือหนาปลดผ้าขาวม้าที่มัดอยู่ช่วงเอวออกวางไว้กับพื้นเรือน ก่อนจะหันมามองหน้าของหญิงสาวตรงหน้าที่อาบน้ำแล้ว เรือนผมสลวยของเธอคล้ายจะเปียกหมาดๆที่เพิ่งสระเสร็จใหม่ๆ และมีดอกเกศปักทับไว้ตรงข้างหู
ใยดอกการะเกดที่นี่จึงหอมนัก
“งั้นฉันกลับเพิงดีกว่าจ้ะ นายฮ้อยจะได้พักผ่อนเดินทางเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
เธอเบี่ยงตัวเล็กน้อย เมื่อรู้สึกได้ว่าความอุ่นร้อนจากร่างหนาจะเข้ามาชิดใกล้มาเกินไป จนเริ่มรู้สึกว่าขนอ่อนในกายเริ่มจะลุกชูชันไปทั่วร่าง
“บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวค่อยออกไป ข้างนอกกำลังดักกะปอมกันอยู่ เดี๋ยวจะแตกตื่นเสียก่อน”
ดักกะปอม!! แล้วเกี่ยวอะไรกับการที่เธอจะเดินยังเพิงพักที่อยู่ห่างแค่นิดเดียว
“งั้นฉันขยับไปนั่งตรงเตาไฟก็ได้จ้ะ”
เธอยิ้มละไม แต่นั่นกลับทำให้แววตาของนายฮ้อยคล้ายจะดำมืดลง เมื่อหน้าสวยขยับกายและกลิ่นหอมจากกายสาวผสานกับดอกการะเกดโชยมาแตะจมูก
“นั่งใกล้ๆข้านี่แหละ ข้าอยากดมกลิ่นดอกเกด”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย มือหนาคว้าเอวคอดไว้เพียงเท่านี้ร่างบางก็เซถลาลงบนตักแกร่งของเขาอย่างง่ายดาย ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดยังหลังคอของเธอ หัวใจของธารทิพย์เริ่มเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ
“ฉะ..ฉันวางไว้ตรงหีบผ้าใต้หมอนและปักแจกันไว้แล้วจ้ะ” เธอเอ่ยบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่สั่นระริก และชี้นิ้วไปยังดอกเกศช่อใหญ่ที่ปักไว้แต่ละมุม
“หือ ข้าอยากดมดอกที่อยู่ในตัวเอ็งมากกว่า”
เขากระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูเล็ก ก่อนที่สันจมูกโด่งจะกดยังซอกคอขาวของเธอ สูดดมกลิ่นหอมรัญจวนชวนหลงไหลเข้าไปจนเต็มปอด
ธารทิพย์อึ้งไปชั่วขณะ ไม่คาดว่าเขาจะจู่โจมเธออีกครั้ง
มือหนาของนายฮ้อยเลื่อนยังท้ายทอยของเธอตรึงใบหน้าไว้ไม่ให้ขยับ ขณะที่ริมผีปากหนาเย็นไล้กดยังปรางแก้มเนียน ธารทิพย์พยายามดันกายเขาให้ออกห่าง
ทว่าไม่เป็นผล
เขากดริมผีปากยังกลีบปากอ่อนนุ่มของเธอและขบเม้มเบาๆลากไล้ปลายลิ้นอย่างอ้อยอิ่งเนิบนาบ ก่อนจะถอดถอนออก
“ดอกเกดในตัวเอ็งชั่งหอมละมุนเสียจริง”
น้ำเสียงเขาแหบพร่า จนปรางแก้มเธอร้อนผ่าว และเริ่มจะเกลียดร่างกายตัวเองที่โอนไหวกับกับสิ่งเร้านี้อย่างง่ายดาย โดยไม่แน่ใจว่าสองมือตัวเองไปโอบรอบท้าทอยของเขาตั้งแต่ตอนไหนกัน
“นายฮ้อย!”
“หือ”
เขาโน้มหน้าลงมาใกล้และกดจูบอีกครั้ง ธารทิพย์หลับตาแน่นเมื่อได้กลิ่นบุรุษผสานกับกลิ่นยาสูบจางๆจากตัวเขา จิตใจเธอแม้จะปั่นป่วนร้อนรุ่มเพียงใด แต่กลิ่นและสัมผัสของเขาในตอนนี้กลับทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นอย่างประหลาด
“อื้อ..”
นายฮ้อยขบเม้มริมผีปากเธอเบาๆ ไม่รุกไล่ดั่งเช่นตอนแรก รอให้เธอเผยอกลีบปากอิ่มออก ลิ้นสากร้อนจึงรุกแทรกเข้ามาในโพรงปากนุ่ม ก่อนที่จะตั้งตัวปลายลิ้นเล็กของเธอก็ถูกดูดดุนอย่างดูดดื่มจนหญิงสาวรู้สึกเสียววาบไปทั่วท้องน้อย
“อืม”
เขาคำรามต่ำในลำคอ ขณะบดจูบเนิบนาบหนักหน่วงขึ้นทีละนิด เรียวลิ้นสากร้อนดูดดุนรุกไล่ลิ้นเล็ก มือหนาไล้ยังแนวแผ่นหลังของเธอ และไล้เข้ายังสาบเสื้อด้านล่าง
สัมผัสจากอุ้งมือหนายังผิวเนื้อบริเวณช่วงเอวทำให้ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย และรีบผละหน้าออกห่าง
“นะ..นายฮ้อย”
“ข้าขออีกนิด”
เขาเอ่ยเสียงเว้าวอนลูบแก้มเธอเบาๆ ทว่ามืออีกข้างยังคงล้วงเข้าในชายเสื้อเธอ และลูบไล้ผิวเนื้อนวลเนียนละเอียดอย่างย่ามใจ นัยน์ตาคู่สีน้ำตาลของเธอวาววับ เมื่อสบตาที่ปรือเชื่อมของเขา
“ฉัน อื้อ..”
เขากลับมาจูบเธออีกครั้งด้วยความหนักหน่วงเร่าร้อนยิ่งกว่าเดิม หัวใจของธารทิพย์เริ่มเต้นระส่ำดังมีกลองหลายร้อยใบมาตีระรัวอยู่ด้านใน ทว่าก็แฝงด้วยความวาบหวามระคนกัน อุ้งมือหนาไล่เลื่อนมายังด้านหน้าบีบคลำทรวงอกอวบอิ่มของเธอ
“นายฮ้อย!”
เธอขยุ้มอกเสื้อของเขาไว้แน่น ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำข้างใบหู เมื่อเขาเลื่อนริมผีปากกระซิบข้างแก้ม
“เอ็งหอมละมุนนัก ..ข้าอยากจะดอมดมทั้งคืนเลย”
******************