ตอนที่ 14
กลิ่นการะเกด
“ทำเสียงเช่นนี้ ...เอ็งห่วงข้าอย่างนั้นรึ?”
มือหนาของ นายฮ้อยเพลิง ดึงเอวคอดมาแนบชิด แต่ธารทิพย์ จำต้องดันร่างผละออกห่างอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นคะนิ้งกับรำพึงเดินมาใกล้ และมองตนกับนายฮ้อยด้วยสายตาปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ทิพย์รีบกินมื้อเย็นเร็วเข้า เดี๋ยวข้าจะพาไปเก็บดอกเกด”
คำบอกของคะนิ้ง ทำให้คิ้วเรียวสวยของธารทิพย์ขมวดเข้าหากัน ก่อนจะหันมามองนายฮ้อยคล้ายฉงนยิ่งนัก
“หือ มองหน้าข้าทำไมรึ?”
เขามองเธอด้วยแววตาปรือเชื่อม นั่นทำให้หญิงสาวเบี่ยงหน้าและหันไปมองสองสาวคนสวยที่เดินมาใกล้
“ดอกเกดไงอยู่ทางมุมโน้นมีหลายต้นเลย”
คะนิ้งบอกอย่างตื่นเต้น และจูงมือของเธอมาใกล้ก่อนจะยื่นพวงดอกไม้สีขาวมาให้จนชิดจมูกของเธอ กลิ่นหอมเย็นแสนรัญจวนนั้นทำให้ธารทิพย์ถึงกับตาลุกวาวทันที
“หอมมาก ดอกไม้อะไรกันหอมเหมือนมีดอกไม้มาทั้งสวนเลย”
เคยได้ยินมาว่าคนสมัยก่อนจะนำดอกการะเกดมาทำน้ำหอม ด้วยการนิยมนำมาอบไว้ในเสื้อผ้าหมอนและที่นอน เพื่ออบให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมและเวลานอนทับกลิ่นนั้นจะติดตามเส้นผมและผิว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไม่ต่างจากฉีดน้ำหอมเลยทีเดียว
แต่เธอเพิ่งจะเคยเห็นดอกการะเกดพวงช่อใหญ่เช่นนี้
“ข้าเก็บมาได้นิดเดียว เห็นพี่บากบอกว่ามุมทางโน้นมีต้นใหญ่หลายต้นเลย เดี๋ยวพวกเราไปเก็บมาใส่หีบเสื้อผ้ากันและจะได้เอาไปปักที่เพิงนอนของนายฮ้อยด้วย”
สิ้นเสียงรำพึง ธารทิพย์ก็ดึงแขนของทั้งคู่ทันที
“งั้นไปเก็บกันก่อนมันมืดแล้ว เดี๋ยวค่อยกลับมากิน”
“อ้าวทิพย์ ใยใจร้อนเช่นนี้”
นายฮ้อยเพลิง ได้แต่ยินมองทั้งสามสาวเดินห่างออกไปยังแนวตลิ่งน้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อจะเก็บดอกการะเกดตามต้นที่ทอดแนวยาวและส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่ว และเขาก็ยืนมองภาพเหล่านั้นอยู่นานพอควร
ผู้หญิงแห่งลำน้ำมูลกับดอกการะเกด..
“ข่อยสั่งให้คนงานวางเพลิงไว้รอบด้าน แต่ละจุดของฝูงเรียบร้อยแล้วละนายฮ้อย”
พรานสิงห์เอ่ยเบาๆ ด้านหลัง นั่นทำให้หน้าหล่อเข้มจำต้องละสายตาจากความสวยงามเพลิดเพลินริมต้นการะเกด หันกลับมามอง
“ดีมาก เอาลืมที่บอกเอาควายตัวที่อ่อนแอที่สุดไปไว้มุมนอกสุด เฝ้ายามตรงนั้นแค่คนสองคนพอ ถ้าพวกมันอยากกินเหล้ายาปลาปิ้งก็ให้ไอ้บากยกไปให้มันด้วย”
คำบอกของนายฮ้อย ทำให้พรานสิงห์ทำหน้าฉงนนัก
“มุมนั้นสุ่มเสี่ยงยิ่ง ข่อยว่าให้คนเฝ้ายามงดเหล้าซิดีกว่า”
“มิเป็นไรดอก พวกมันเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันเห็นว่าสาโทที่หมักไว้ผ่าน้ำเมื่อตอนหัวค่ำแล้วไม่ใช่รึ? ยกไปมันทั้งสองสักไหสองไหจะเป็นไรไป”
เอ่ยเสร็จร่างหนาของนายฮ้อยก็เดินกลับไปยังเพิงพัก ทิ้งให้ พรานสิงห์มองตามอย่างฉงน และมองหน้าของไอ้บากที่เดินถือสำรับเพื่อจะเอามาให้นายฮ้อย
“มีอะไรรึท่านพราน?”
“นายฮ้อยบอกว่าให้มึงยกใหสาโทไปให้ไอ้สองคนที่เฝ้ามุมด้านท้ายด้วย”
แม้จะไม่เข้าใจความคิดของนายฮ้อยเพลิงเท่าใดนัก ด้วยเมื่อเช้าพวกตนเพิ่งจะเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญเช่นนั้น และตอนนี้พรานสิงห์ยังไม่วางใจต่อสิ่งใดนัก
แต่เมื่อนายสั่งก็ต้องทำตามนั้น!
.
ธารทิพย์ใช้เวลานานพอสมควรกับการเก็บดอกการะเกดพวงใหญ่ๆ ใส่ในกระด้งหวายเล็กๆจนเต็มทุกอันอย่างเพลิดเพลิน
กลิ่นหอมเย็นสดชื่นของมันนั้น ขวนรัญจวนใจเป็นอย่างยิ่งจนทำให้หญิงสาวอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา เขาว่ากันว่ากลิ่นหอมนั้นจะช่วยบำบัดจิตใจและความรู้สึกของคนเราได้
ตอนนี้เธอก็รู้สึกเช่นนั้น
“แสดงว่าพื้นที่นี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์นะ ต้นการะเกดถึงได้ขึ้นเยอะเช่นนี้ ดีเลยได้มาอบผ้าและได้ลูกมันมาด้วยไว้จิ้มพริกเกลือกินอร่อยดีนัก”
รำพึงดูจะดีใจเป็นพิเศษ ทั้งสามช่วยกันลำเลียงทั้งดอกและผลของการะเกดมาไว้ยังเพิงพักของตน และนำดอกวางไว้ในหีบผ้า และซุกไว้ใต้หมอนและผ้าห่มเพื่อให้กลิ่นนั้นกำจายไปทั่วบริเวณ เพื่อที่จะได้นอนหลับสบาย
ดูแล้วก็เหมือนอโรมาเธอราพี เป็นเพิงสปาบำบัด
“กินเสร็จเอ็งเอาดอกพวงนี้ไปวางในเพิงของนายฮ้อยด้วยนะ และอีกหนึ่งวางไว้ใต้หมอน”
คะนิ้งเอ่ยบอกเธอ
ขณะที่ทั้งสามกำลังจัดการกับสำรับเย็น ธารทิพย์มองไปทางเพิงสลัวเห็นแสงจากตะเกียงโคมไหวระริก คาดว่าเขาคงกินมื้อเย็นและอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้ว
“อีกสักหน่อยก็ได้ ให้นายฮ้อยคุยงานเสร็จก่อน”
ธารทิพย์บอกเบาๆ ด้วยคาดว่านายฮ้อยน่าจะกำลังคุยปรึกษาหารือกับเหล่าคณะผู้ช่วยคนสำคัญสามสี่คนของเขาอยู่ เพราะเธอได้ยินเสียงพรานสิงห์และหมอสรวงอยู่ในนั้นด้วย
“ยังไงข้าฝากด้วยละกัน นายฮ้อยสั่งข้าไว้แต่ตอนนี้ข้าเริ่มจะง่วงนอนแล้ว” คะนิ้งอ้าปากหาวหวอดๆเมื่อกินอิ่มแล้ว
ส่วนรำพึงง่วนอยู่กับการจัดดอกการะเกดวางไว้แต่มุมและในหีบหับ ธารทิพย์จึงพยักหน้ารับ ด้วยวันนี้เธอนอนมาในเกวียนทั้งวันแล้วแค่แวะเอาดอกไม้กลิ่นหอมละมุนนี้ไปให้นายฮ้อยคงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอันใด
.แต่แม้จะรับปากเช่นนั้นกว่าเธอจะช่วยรำพึงพับดอกไม้ใส่แต่ละจุดก็กินเวลาพอควร และเมื่อเงี่ยหูฟังแล้วเห็นว่าเพิงของนายฮ้อยเริ่มจะเงียบสงบ คาดว่าการคุยงานน่าจะจบแล้ว
เธอจึงถือกระด้งใส่ดอกการะเกดปรี่มายังเพิงพักของนายฮ้อย และตะโกนเรียกชื่อเพื่ออนุญาตเบาๆ
“นายฮ้อยอยู่มั้ยจ้ะ ฉันจะเอาดอกการะเกดมาใส่หมอน”
แสงตะเกียงด้านในไหววูบเล็กน้อย เมื่อไม่มีคนตอบเธอจึงลังเลอยู่เพียงครู่ ใจนึงคาดว่านายฮ้อยอาจจะหลับไปแล้ว ไม่อยากจะรบกวน แต่ใจนึงก็ได้รับมอบหมายว่ายังไงต้องเอาดอกไม้มาใส่เพิงของนายฮ้อย เธอเลยถือวิสาละเปิดผ้ากั้นเพื่อจะเข้าไปด้านในอย่างระมัดระวัง
ด้านในมีเพียงความว่างเปล่า
นายฮ้อยเพลิงไม่ได้อยู่ในนั้น รวมทั้งผู้ช่วยของเขาด้วย
“หรือว่าออกไปตรวจตราด้านนอก”
หญิงสาววางกระด้งลง และหยิบดอกการะเกดพวงใหญ่ ปรี่ไปยังที่ฟูกนอนที่ปูไว้บนพื้นเพิง หยิบหมอนขึ้นและเอาผ้าขาวบางห่อดอกการะเกดตามที่รำพึงบอกวางไว้ใต้หมอน ก่อนจะเอาหมอนทับไว้ดังเดิม
หน้าสวยครุ่นคิดเล็กน้อย ด้วยอยากรู้ว่ากลิ่นของการะเกดจะโชยขึ้นมาผ่านหมอนรึไม่ จึงก้มหน้ากับหมอนและซุกจมูกสูดดมเข้าไปเต็มปอด
พรึ่บ!!
เสียงตวัดชายผ้าม่านดังเบาๆ ก่อนที่ร่างหนาของเจ้าของเพิงจะเดินเข้ามาขณะที่หน้าของเธอซุกอยู่กับหมอน
ฉิบหายละ!!!
คิ้วหนาของนายฮ้อยเพลิงเลิกขึ้นสูงเล็กน้อย
“อยากซุกข้าขนาดนี้เลยรึ!”