ย่ำรุ่งนางได้ยินเสียงสะอื้นเบา ๆ ของจื่อฝูจึงลืมตาขึ้นแม้ว่าร่างกายจะเจ็บปวดเพียงใด แต่ทว่าก็เป็นห่วงผู้ที่เป็นดั่งพี่สาวของตนเช่นกัน แต่ไรมานางก็ไม่เคยถือว่าจื่อฝูต้อยต่ำเป็นเพียงบ่าวรับใช้แม้แต่น้อย นางระลึกเสมอว่าสาวใช้ผู้นี้เป็นดั่งพี่สาวร่วมเป็นร่วมตาย “จื่อฝู ผู้ใดรังแกเจ้า” เงาของร่างหนึ่งนั่งกอดเข่าสะอื้นไห้อย่างน่าสงสารอยู่ข้างเตียง ทำให้คนที่เพิ่งตื่นคิดไปถึงคำพูดเมื่อคืนของชายใจทมิฬผู้นั้น มิใช่ว่าเขาสั่งโบยนางหรอกนะ “ฮูหยิน...ท่านตื่นเสียที” “มีเรื่องอันใด...รีบพูดมา” “ท่านโหว...ฮึก...ท่านโหวให้คนมาขนข้าวของที่ท่านกุนซือกับเสี่ยวหมิงซื้อหามาให้ เข้าไปเก็บในโรงครัวแล้ว ยามนี้ให้ฮูหยินรับเพียงอาหารจากโรงครัวของจวนเท่านั้น” จื่อฝูกล่าวน้ำเสียงปนสะอื้น เสียงนายหญิงของตนร่ำร้องขอให้บุรุษผู้นั้นปรานีเมื่อคืนยังแจ่มชัดอยู่ในหู แต่เมื่อตื่นขึ้นกลับสั่งให้คนขนอาหารออกไปจนหมด