บทที่ 6 ถ้ำมอง 2/2

1203 คำ
“เพิ่งสร่างไข้” “เจ้าอยากได้สิ่งใด บอกข้านะข้าจะแอบเอามาให้” ต่อให้เป็นคำสั่งท่านโหว แต่สั่งคนในจวนไม่ได้สั่งห้ามตน ให้ฮูหยินลำบากอยู่ในเรือนก็ใช่เรื่อง “แต่ว่าท่านโหว...” “เชื่อฝีมือข้า” เสี่ยวหมิงเป็นคนมีน้ำใจเมื่อเห็นคนลำบากก็อยากจะช่วยเหลือ “หากท่านอยากช่วยก็เอาของไปวางที่กำแพงด้านหลังเถิด ข้าจะหาวิธีปีนออกไปเอา” “ได้ข้าไปแล้ว...ไว้ข้าจะเอาข้าวสารไปวางไว้ให้เจ้า หากได้ยินเสียงก็ออกมาเถิด” เสี่ยวหมิงพูดแค่นั้นก็จากไป ท่านโหวอยากทิ้งเขาไว้ที่นี่ เช่นนั้นเขาก็หักหลังผู้เป็นนายช่วยฮูหยินสักครั้งก็แล้วกัน เสี่ยวหมิงเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำอย่างเร่งร้อน แล้วก็เจอโหยงเยี่ยนที่นอนแผ่หลาเต็มเตียงจึงใช้เท้าเขี่ยให้ลุกขึ้น “นี่...ท่าน...นี่” เรื่องสนุกเช่นนี้ เขาจะทำคนเดียวได้อย่างไร หากต้องมีแพะเขาก็ต้องร่วมหาแพะเป็นท่านกุนซือ อีกคนก็แล้วกัน “อื้อ...ข้าไม่ได้นอนมาทั้งคืนนะ เจ้าเรียกข้าทำไม” “นอนแล้วจะมีเรื่องอันใดสนุก มิสู้ไปตลาดชื้อข้าวของให้ฮูหยิน แล้วให้ท่านโหวขาดใจตายดีหรือไม่” ดวงตาที่ง่วงงุนเบิกกว้างขึ้นมาทันที หลังได้ยินเรื่องสนุกที่เสี่ยวหมิงว่า “เจ้าว่าอันใดนะ” แล้วเสี่ยวหมิงก็ป้องปากกระซิบกับโหยงเยี่ยนเพียงครู่ก็พากันออกจากจวนโหวไปตลาด “เสี่ยวหมิงเจ้าว่าข้าเหมาไปหมดนี่ลงบัญชีท่านโหวดีหรือไม่” “ท่านโหวก็รู้นะสิเป็นท่าน” ทำเสี่ยงตีน...เอ้ยเสี่ยงตายขนาดนี้ จะให้ท่านโหวรู้ได้อย่างไรว่าเป็นพวกเรา “แล้วเจ้าจะเอาไปไว้เรือนหลังได้ยังไง” “ด้านหลังเป็นป่า มีกำแพงก็จริง แต่ฝีมือระดับท่านใช้วิชาตัวเบาไม่ได้ก็ไปเป็นทหารกองเสบียงเถิด” “เจ้า!” โหยงเยี่ยนอยากจะอัดก้นมันนัก นับวันยิ่งฝีปากกล้า แล้วทั้งอาหารแห้ง เมล็ดพันธุ์ผัก เกลือ น้ำตาลที่มีค่าดั่งทอง มีเพียงสกุลชั้นสูงถึงได้ลิ้มลองต่างก็เรียงรายเข้ามาในป่าด้านหลังเรือนดอกท้อ ฮะ...ฮึบ! โหยงเยี่ยนและเสี่ยวหมิงจัดการเอาไปไว้ในห้องครัว เสร็จแล้วเข้าไปทักทายฮูหยินพร้อมห่อยาสมุนไพรในมือ “คารวะฮูหยิน ข้าโหยงเยี่ยนมาเยี่ยมท่าน” โหยงเยี่ยนที่เห็นฮูหยินนั่งดื่มชาอยู่ในห้องก็เข้ามาทักทาย “พวกท่าน” “ใช่ข้าแอบท่านโหวมา อาหารแห้งต่าง ๆ อยู่ในครัวแล้ว ท่านอยู่ที่นี่ให้สำราญใจเถิด ขาดเหลือสิ่งใดข้าจะเอามาส่งให้ นี่ยาต้มท่านให้จื่อฝูจัดการเถิด เดี๋ยวไข้จะไม่หาย” โหยงเยี่ยนเลือกข้างเรียบร้อย แน่นอนว่าคนละฝั่งกับท่านโหว “ท่านโหวทราบหรือไม่” “แน่นอนว่าไม่ทราบ ข้าแอบทำ” เสี่ยวหมิงกล่าว “แล้วพวกท่านจะไม่เดือดร้อนหรอกหรือ” “ท่านอย่ากังวลใจ เพียงท่านอยู่ในเรือนแห่งนี้อย่างสบายใจเท่าไหร่ ท่านก็เหมือนได้ล้างแค้นชายใจหยาบผู้นั้นแล้ว ข้าไปละ” เมื่อชี้แนะหนทางเอาคืนเสร็จ เขาทั้งสองก็เร้นกายหายไปทันที กลัวว่ามีคนจับได้แล้วตัวเองจะโดนสั่งห้ามเข้าจวนนิ่งอันโหว เมื่อเขาไปแล้ว คนที่คิดกังวลเรื่องที่อยู่ที่กินก็คลายใจ นับว่าสหายกับองครักษ์ของเขานั้นมีน้ำใจไม่น้อย ผิดกับสามีใจดำยิ่งกว่าถ่านในโรงครัวผู้นั้น เวลาผ่านไปจวบจนวันที่สอง ท่านโหวไม่ทานสิ่งใดเลยจนแม่นมจี้ฉงต้องเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง “ท่านโหวไม่เจริญอาหาร มีสิ่งใดอยากรับเป็นพิเศษหรือไม่” หากเป็นเรื่องของท่านโหว นางย่อมกังวลใจ เพราะสุขภาพท่านโหวนั้นสำคัญ “ข้าเพียงแต่ไม่หิวเท่านั้นท่านอย่ากังวลใจไป” “เรื่องฮูหยินใช่หรือไม่” จี้ฉงให้คนไปสืบเรื่องขององค์หญิงผู้นั้น เสียงเล่าลือกันว่าเป็นสตรีกาลกิณีของแคว้นอ่านฮุ่ย หรือท่านโหวกังวล “เห้อ...” เขาเพียงถอนหายใจไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา “หากสตรีผู้นั้นท่านโหวอยากกำจัดข้า...” “ไม่ต้อง...ไม่ต้องยุ่งกับนาง ข้าให้ขังนางอยู่เรือนหลังแล้ว ห้ามผู้ใดเข้าใกล้ บ่าวรับใช้ท่านก็กำชับให้ดี” จี้ฉงไม่เข้าใจ เพียงแค่นางออกหน้า ท่านโหวก็มิต้องเปลืองแรง แล้วเช่นนี้หัวใจท่านโหวคิดเช่นไรกับสตรีผู้นั้นกัน หรือว่าแท้ที่จริงแล้วมีใจให้อยู่ก่อน “เจ้าค่ะท่านโหว” เมื่อผู้เป็นนายสั่งห้าม นางหรือจะกล้าขัดคำสั่ง ได้แต่ล่าถอยมองอาหารบนโต๊ะอย่างหนักใจ นิ่งอันโหวเดินออกมาจากเรือนพักของตน หมายต้องการเดินเล่นให้ผ่อนคลาย แต่ไม่รู้ทำไมดันเดินมายังเรือนหลังโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อมาถึงแล้วเขากลับได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิกที่ด้านในนั้น มีความสุขใด...ข้าทรมานเจ้าเพียงนี้! ร่างสูงเดินให้เข้าใกล้ประตูอีกนิดเพื่อฟังเสียง แต่ก็ยังไม่ชัด จึงเดินเข้าไปเรื่อย ๆ “ฮั่นแน่...ท่านโหวคิดถึงฮูหยินใช่หรือไม่” โหยงเยี่ยนกับเสี่ยวหมิงที่นอนไขว่ห้างอยู่บนต้นไม้ด้านบนส่งเสียงเรียก แล้วก็คนที่มีพิรุธสะดุ้งสุดตัวเมื่อโดนจับได้ “ใคร...ใครคิดถึงนาง...ข้าเกลียดนางต่างหาก” ดวงตาแข็งกร้าวมองไปยังด้านบนต้นไม้ ที่เจ้าสองตัวนี่มันนอนกันอย่างสบายอารมณ์ เขาไม่เห็นมันมาสองวัน เอาเชือกมาถักเปลนอนอยู่ด้านบนนี่เอง “อืม...โกหกตกนรกใต้ดินเคยได้ยินหรือไม่” “โหยงเยี่ยน!” เสียงคำรามต่ำบอกให้รู้ว่าไม่พอใจ แต่เขาก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าเมื่อเจ้าสองตัวนี่มันถ้ำมองสตรีของเขา “ฮูหยินนี่งดงามจังเลย มองเพลินราวกับบุปผาต้องลมโบกสะบัดไปมา ท่านว่าหรือไม่ท่านกุนซือ” “ใช่ข้ามองมาสองวันแล้ว งามกว่าสตรีใดในเมืองหลวงเสียจริง น่าสงสารได้เป็นฮูหยินจวนนิ่งอันโหว” “ใช่” “พวกเจ้า...ลงมาเดี๋ยวนี้!” เขาเหาะขึ้นไปลากคอเจ้าพวกถ้ำมองสตรีของเขาให้ลงมา ใครจะมองนางไม่ได้นอกจากเขา สองบุรุษอมยิ้มให้กันแล้วก็เดินลับไป แต่คนที่อยู่ตรงหน้าประตูเรือนดอกท้อหันซ้ายแลขวาไม่พบผู้ใด จึงเหาะขึ้นไปมองนางบ้างว่าเป็นเช่นไร ไม่ได้พบหน้ามาสองวันแล้วสุขสบายดีหรือไม่ แต่แล้วเขาก็ต้องตะลึงเมื่อนางฟ้อนระบำอ่านฮุ่ยอย่างมีความสุข ท้วงท่าเคลื่อนไหวนั้นราวหงส์กระพือปีกช่างแสนเพลิดเพลินยิ่งนัก “เจ้ามีความสุขเพียงนี้...ข้าต้องหาวิธีใหม่เสียแล้ว” เมื่อไม่พบหน้านางมีความสุข เช่นนั้นเขาก็หาวิธีแก้แค้นที่มันดีกว่านี้ก็แล้วกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม