บทที่ 9

1397 คำ
สิบนาทีต่อมา... "จุนแม่ฮับ โปดปวดขา ฮึก" "ปราณก็ปวดค่ะ เพราะเราไม่มีเงินเหรอคะ คุณลุงถึงไม่ให้เราเข้าบ้าน" "จุนยุงดุจุนแม่ด้วย โปดเกลียดเยย" "ไม่เอาค่ะ ไม่เกลียดคุณลุงนะคะ เมื่อก่อนคุณแม่ทำไม่ดีกับคุณลุงไว้เยอะคุณลุงก็เลยโกรธ โปรดกับปราณช่วยแม่ง้อคุณลุงนะคะ ถ้าคุณลุงหายโกรธ แม่จะให้คุณลุงพาไปขี่พี่ม้ากับๆ" "โปดอยากขี่พี่ม้า" "แต่พี่ไม่อยากขี่หรอกม้านิสัยไม่ดีน่ะ" "ทำไมปี้ปันรู้ล๊าว่ามันนิฉัยเฉียน่ะ" "เพราะเจ้าของมันนิสัยไม่ดียังไงล่ะ" "อ๋ออออ งั้น...งั้นโปดก้อไม่อยากขี่แล้วฮับคุณแม่" "เฮ้อ ตัวแค่นี้ก็เจ้าคิดเจ้าแค้นกันเป็นแล้วเหรอเนี่ย" เปรี้ยง!! ทันใดนั้นฝนก็เทลงมาห่าใหญ่พร้อมเสียงท้องฟ้าร้องคำรามดังสนั่นหวั่นไหว ปั้นรักและแป้งร่ำตกใจร้องไห้จ้า เพียงฝันต้องรีบดึงเด็กๆ เข้ามากอด สอดสายตาหาที่หลบฝันไปด้วย แต่ด้วยทางที่เดินกันมาเป็นโซนไร่ชายาวสุดลูกหูลูกตา มันเลยไม่มีตรงไหนที่เธอจะพาลูกไปหลบฝนได้ จะหลบใต้ต้นไม้ก็กลัวฟ้าผ่า เพียงฝันจึงพาลูกมาหลบในไร่ชาแล้วใช้กายกำบังเม็ดฝน นับครึ่งชั่วโมงที่สามแม่ลูกตากฝนกันอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งมีรถกระบะคันหนึ่งขับผ่านมา เพียงฝันหยีตาเพราะไฟหน้าของรถกระบะส่องเข้าหน้าเต็มๆ พยัคฆ์เห็นแม่และเด็กกำลังหลบฝนสภาพน่าเวทนาก็รีบเปิดประตูรถลงมาช่วย ตอนแรกเขาคิดว่าเธอคงเป็นคนงานในไร่ชา แต่กลับไม่ใช่ "เพียงฝัน!" "พี่เสือ!" เพียงฝันเองก็ตกใจเหมือนกันที่คนขับเป็นพยัคฆ์ "มาอยู่ที่นี่ได้ไง" "ฝัน..." "ช่างเถอะ ไว้ค่อยคุยกันทีหลังก็ได้ ตอนนี้พาเด็กๆ ขึ้นรถกันก่อนดีกว่า" พยัคฆ์ช่วยเพียงฝันอุ้มเด็กๆ ขึ้นรถ "เอ่อ พี่เสือพอจะรู้จักโรงแรมราคาถูกๆ มั้ยคะ" เพียงฝันเอ่ยถามเมื่อเข้ามานั่งในรถแล้ว "ห้องว่างที่บ้านก็มีตั้งหลายห้อง จะไปนอนโรงแรมให้เปลืองเงินทำไม" "..." "เป็นเพราะไอ้รามสินะ" เพียงฝันคงไปหาน้องชายเขาแล้วถูกไล่ตะเพิดออกมา "..." "ไม่ต้องกลัว ถ้าพี่อยู่ด้วยไอ้รามมันไม่กล้าทำอะไรฝันหรอก" "ขอบคุณมากนะคะที่พี่เสือเมตตาฝันกับเด็กๆ" พยัคฆ์ยังคงใจดีเสมอต้นเสมอปลาย แต่กับอีกคนเพียงฝันก็ได้รับรู้ว่าความรู้สึกที่เขามีให้เธอนั้นมันเลยคำว่าเกลียดไปหลายขุม เพราะกลับมาถึงบ้านก็เจอรามสูรกำลังนั่งจิบไวน์ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่กำลังจะทำให้เธอกับลูกหนาวตายทั้งเป็น "ทำไมกลับเร็ว" แวบแรกรามสูรยังไม่เห็นว่าพี่ชายพาใครมาด้วย "ถ้ากูกลับช้ากว่านี้ มีหวังน้องฝันกับลูกได้ถูกฟ้าผ่าตายห่ากันพอดี กูล่ะนับถือมึงจริงๆ ที่ไล่ผู้หญิงกับเด็กตัวเท่าเมี่ยงลง" "บ้านกูไม่ใช่สถานสงเคราะห์" พอเห็นว่าเพียงฝันมาด้วย รามสูรก็มีสีหน้าถมึงทึงขึ้นมาทันที "ถ้าไม่ติดว่ากูอุ้มเด็กอยู่นะ กูจะเตะมึงสักป้าบ" "เอ่อ พี่เสือคะ ฝันขอพาเด็กๆ ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้มั้ยคะ ฝันกลัวว่าพวกแกจะไม่สบาย" ตอนนี้เด็กๆ เริ่มตัวร้อนกันแล้ว "อุ้มไหวเหรอสองคน" "ไหวค่ะ" "แต่พี่ว่าพี่อุ้มน้องโปรดไปส่งดีกว่า คืนนี้ฝันกับลูกนอนห้องพี่ก่อนนะ ห้องพักแขกแม่บ้านน่าจะยังไม่ได้ทำความสะอาด" ห้องของพยัคฆ์ แม่บ้านจะทำความสะอาดไว้เสมอ เพราะเขาไปๆ มาๆ "แล้วพี่เสือจะไปนอนที่ไหนคะ ถ้าห้องรับแขกยังไม่ทำความสะอาด" "นอนห้องไอ้รามมัน" "ฝันเกรงใจจัง" "ถ้าเกรงใจจริง ก็ไม่น่าดั้นด้นมาถึงที่นี่ตั้งแต่แรกนะ มารยาน่ะหัดใช้มันให้น้อยๆ หน่อย คนที่นี่เขากินข้าวไม่ได้กินหญ้า" รามสูรไม่วายจะแขวะเพียงฝันทุกครั้งที่มีโอกาส "..." พยัคฆ์ส่ายหัวเอือมๆ ให้กับความปากหมาของน้องชาย ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป แต่พอเพียงฝันจะขึ้นตามไปบ้าง รามสูรก็เอาตัวมาขวางตรงบันไดขั้นที่หนึ่ง พ่อเลี้ยงหนุ่มสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร เพียงฝันที่มีความสูงแค่หนึ่งร้อยหกสิบสามจึงไม่ต่างอะไรกับลูกแมวตัวเล็กๆ ที่กำลังเผชิญหน้ากับราชสีห์ "ขอทางหน่อยค่ะ" "..." "คุณราม" "..." "จะยอมหลีกดีๆ มั้ยคะ" "ถ้าฉันไม่หลีกแล้วเธอจะทำไม" "ก็ทำแบบนี้ไงคะ" "โอ้ย!" คนตัวเล็กกระทืบเท้ารามสูรเต็มๆ แล้ว แล้วฉวยโอกาสจังหวะที่เขากำลังร้องโอดโอยสาวเท้าขึ้นบันไดอย่างไว ถ้าเป็นเวลาปกติบอกตามตรงว่าเธอไม่กล้าทำกับเขาอย่างนี้หรอก แต่นี่ลูกชายลูกสาวเธอกำลังจะไม่สบาย ทั้งที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลกันมาได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ เพียงฝันวางลูกบนเตียงคิงไซซ์อย่างเบามือก่อนรีบจัดการเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกน้อยทั้งสอง โดยมีพยัคฆ์คอยช่วยอย่างเก้ๆ กังๆ อยู่ห่างๆ เช็ดตัวเด็กๆ กันอยู่สองชั่วโมงไข้ถึงลด "โล่งอกไปทีนะ นึกว่าต้องพาไปส่งพยาบาลซะแล้ว" "ฝันขอบคุณนะคะพี่เสือมากนะคะที่ไม่รังเกียจพวกเราสามแม่ลูกแล้วก็ขอโทษด้วยที่มารบกวน แต่ฝันไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ ฝันกลัวพวกมันจะตามมาทำร้ายเด็กๆ" "พวกมัน? ใคร?" "เจ้าพ่อปล่อยเงินกู้นอกระบบค่ะ แม่กับพี่เพลินไปกู้มาสามล้าน" "ไม่ได้หนีมาเพราะอายที่เป็นข่าวหรอกเหรอ" "ถ้าเรื่องแค่นั้น ฝันไม่หนีหรอกค่ะ ลูกๆ ไม่ใช่สิ่งน่าอายเลยสำหรับฝัน" "ยืมพี่ก่อนมั้ยล่ะ ไม่คิดดอก ไว้มีเมื่อไหร่ก็ค่อยมาคืน" "ถึงพี่เสือไม่คิดดอก ฝันก็ไม่มีปัญญาคืนหรอกค่ะ" เงินเป็นล้านเธอจะไปหาจากไหนมาคืนเขา "ถ้างั้นพี่ขอเป็นเลขเด็ดหกตัวจากเด็กๆ ก็พอ" "สองตัวยังยากเลยค่ะ ฝันซื้อตามยังไม่เคยถูกสักครั้ง...พี่เสือยิ้มอะไรคะ หน้าฝันมีอะไรติดเหรอ" "เปล่า แค่เห็นฝันยิ้มแล้วพี่ก็นึกถึงสมัยก่อนน่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กผู้หญิงตัวกะเปี๊ยกคนนั้นที่ชอบตามพ่อมาทำงานในไร่ชา วันนี้จะโตจนเป็นแม่คนแล้ว" ไม่ใช่แค่พยัคฆ์ รามสูรเองก็เห็นเพียงฝันมาตั้งแต่เล็กๆ เหมือนกัน เพียงแต่น้องชายเขาไม่เคยเห็นหญิงสาวอยู่ในสายตา ไม่เหมือนเพลินตาที่รามสูรหลงรักหัวปักหัวปำจนถึงขั้นขอหญิงสาวแต่งงานทันทีที่เรียนจบมหาวิทยาลัย ปีนั้นงานแต่งของลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงเทวาถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แทบจะเชิญคนมาทั้งจังหวัดได้ ทว่าสุดท้ายงานแต่งก็ล่มไม่เป็นท่า เมื่อเจ้าสาวเชิดสินสอดทองหมั้นหลายล้านหนีหายเข้ากลีบเมฆไปกับผู้ชายคนใหม่ ทิ้งให้รามสูรอับอายขายขี้หน้าคนทั้งจังหวัด เป็นเหตุผลว่าทำไมรามสูรถึงได้จงเกลียดจงชังเธอนักหนา เพราะเขาคิดว่าเธอกับพ่อก็รู้เห็นเป็นใจ ทั้งที่ความจริงแล้วมีแค่แม่เธอคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเพลินตาจะหนีงานแต่ง และเพราะเหตุนี้เองเพียงฝันกับพ่อจึงไม่มีหน้าที่จะอยู่ที่ไร่ชาล้อมตะวันอีกต่อไป "แล้วตอนนี้ลุงผาเป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย" "พ่อถูกรถชนเสียไปได้สามปีแล้วค่ะ" "...ฉันเสียใจด้วยนะ" "ค่ะ" "แล้ว..." พยัคฆ์พูดแล้วก็เงียบไปราวกับกำลังจะชั่งใจว่าจะถามออกไปดีหรือไม่ "พี่เสือถามมาได้เลยค่ะ ฝันยินดีตอบทุกคำถาม" "ปราณกับโปรดเป็นลูกไอ้รามใช่มั้ย"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม