@โรงพยาบาลในเช้าวันต่อมา อาการของสองแฝดเริ่มดีขึ้น เพียงฝันกำลังใช้ความพยายามอย่างยิ่งป้อนข้าวลูกชายตัวน้อย
"กินอีกคำนะครับ"
"โปดม่ายอยากกิง โปดอยากกลับบ้านฮับคุณแม่" เด็กชายตัวกลมแก้มป่องส่ายหน้าไม่ยอมกินข้าวต้มแสนจืดชืดที่โรงพยาบาลเตรียมไว้ให้
"อาหมอบอกแล้วไงว่าต้องดูอาการก่อน หนูไม่สงสารพี่พุงเหรอ ร้องหิวๆ แล้วเนี่ย" เพียงฝันกล่อม จ่อปลายช้อนที่ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้ม แต่เด็กชายโปรดเม้มปากแน่นแล้วกอดอกหันหน้าหนีไปอีกทาง
"โปรดอย่าดื้อ คุณแม่จะเหนื่อย" เด็กหญิงปราณส่งสายตาพิฆาตให้น้องชาย
"มันไม่หย่อย โปดมะชอบเยยปี้ปัน" น้องโปรดเบะปาก เจ้าตัวเล็กใกล้จะห้าขวบแล้ว แต่ก็ยังมีหลายคำที่พูดไม่ชัด ผิดกับน้องปราณที่พูดชัดถ้อยถัดคำตั้งแต่อายุสามขวบ
"กินๆ ไปเถอะ ช่วยแม่ประหยัด ขนาดพี่ยังกินจนหมดถ้วยเลย ต้องกินให้คุ้มนะรู้มั้ย กินเสร็จแล้วก็มาช่วยพี่เก็บของ"
"ของไย...ของเล่นเหยอ" เด็กชายโปรดตาวาว นานแล้วที่แม่ไม่ได้ซื้อของเล่นให้
"นั่นไง"
"เฮ้อ กิงก็ได้" ก่อนจะทำหน้าเหม็นเบื่อ ถอนหายใจยาวเป็นคนแก่ในนาทีต่อมา เมื่อพี่สาวคนดุชี้ไปที่ขวดน้ำเปล่า นมและน้ำผลไม้กล่องที่โรงพยาบาลมีให้สำหรับห้องพักพิเศษ กระนั้นก็ยอมอ้าปากรับข้าวต้มเข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆ แต่โดยดี
เพียงฝันกลั้นยิ้มจนปวดแก้มไปหมด สองเด็กน่ารักจนเธอใจเจ็บ มีอย่างที่ไหนไม่กลัวแม่แต่กลัวพี่สาวที่เกิดก่อนแค่สองนาทีจนหัวหดแบบนี้
ป้อนข้าวเสร็จ เพียงฝันก็จับลูกชายตัวน้อยป้อนยาต่อ ในขณะที่ลูกสาวกินยาเองได้แล้ว เธอจึงได้แต่นั่งมองยิ้มๆ ลูบกระหม่อมเล็กเบาๆ แล้วชมเชย
"เก่งมากลูกสาวคุณแม่"
น้องปราณยิ้มหวานแล้วโผเข้ากอดเพียงฝันแน่น หนูน้อยคิดถึงแม่มาก แต่ก็ต้องทำเป็นเข้มแข็ง
"น้องปราณรักคุณแม่นะคะ"
"แม่ก็รักน้องปราณมากนะคะเด็กดี"
ลูกสาวเธอค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่เกินตัว รู้ความเกินเด็ก แรกๆ เพียงฝันกังวลอยู่เหมือนกันว่าลูกจะมีความผิดปกติทางจิตเวชหรือสมองหรือเปล่า ครั้นพอพาไปปรึกษาจิตแพทย์เด็ก และทำการวัดไอคิวและอีคิวก็พบว่าน้องปราณมีไอคิวสูงกว่าเด็กทั่วไป จึงเป็นธรรมดาที่จะมีความเป็นผู้ใหญ่เกินตัว
สิบนาทีต่อมา...
ฤทธิ์ยาแก้แพ้ทำให้เด็กๆ ผล็อยหลับตามกันไปติดๆ เพียงฝันกระชับผ้าห่มคลุมเหนือแผ่นอกให้แฝด ก่อนหยิบแบงก์ยี่สิบออกจากกระเป๋าตังค์ ตั้งใจจะลงไปซื้อกาแฟกินแก้ง่วงสักแก้ว เพราะเมื่อคืนเธอต้องเฝ้าลูกๆ ทั้งคืนเลยยังไม่ได้นอน
แกร็ก~
"พี่ดีดี้มาได้ยังไงคะ!" จังหวะที่เพียงฝันกำลังจะหมุนลูกบิดประตู ดีดี้ก็เปิดประตูพรวดเข้ามาก่อน
"เกิดเรื่องใหญ่แล้วฝัน"
"เรื่องอะไรเหรอคะ" จากสีหน้าดีดี้เพียงฝันก็พอเดาได้ว่าคงเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร จากที่ง่วงๆ ก็เลยหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
"พี่เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้ระวังเรื่องเด็กๆ อย่าแทนตัวเองว่าแม่ให้ใครเห็น"
"ฝันก็ไม่ได้..."
"ไม่ได้อะไร ดูนี่! ว่อนโซเชียลเลย" ดีดี้ส่งโทรศัพท์ให้เพียงฝันดู