บทที่ 01 เด็กซน

1170 คำ
เพล้ง! คนมาใหม่ยืนนิ่งทันทีที่เปิดประตูเข้ามาแล้วพบกับแจกันราคาห้าหลักได้ถูกขว้างผ่านเฉียดจมูกตั้งโด่งเพียงนิดเดียว ข้าวของภายในห้องกระจัดกระจายไร้ซึ่งทิศทาง แฟ้มเอกสารที่เคยเป็นระเบียบตอนนี้ได้ถูกรื้ออกมาเต็มพื้นเหตุเกิดจากฝีมือของคนคนเดียวที่ยืนตระหง่านกลางห้องทำงาน "แด๊ด…" เจ้าของการกระทำพึมพำเสียงเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน เขาจดจ้องคนเป็นพ่อที่ยืนมองตาเขม็งก่อนที่จะรีบหลบสายตาด้วยความหวั่นกลัวที่เริ่มก่อขึ้นในใจ "ลงมาจากโต๊ะแด๊ดไคเรน..." เสียงทุ้มนุ่มลึกราวกับสายน้ำที่นิ่งสนิทแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัวของมวลคลื่นใต้ผืนน้ำที่สั่นกระเพื่อมพร้อมจะก่อคลื่นยักษ์ซัดทุกอย่างที่ขวางหน้า แน่นอนว่าความน่ากลัวที่สัมผัสได้นั้นทำให้คนที่ดื้อรั้นค่อย ๆ ปีนลงจากโต๊ะทำงานตามคำสั่งอย่างไม่มีข้อถกเถียง "คุณไคโรคะ…" ผู้ช่วยสาวที่อยู่ในเหตุการณ์กลืนน้ำลายอย่างลำบาก เธอกุมมือทั้งสองไว้แน่นแล้วรีบเดินปรี่มายืนก้มหน้าหงุดตรงหน้าท่านประธานใหญ่ของเคลวานกรุ๊ป บริษัทอันดับหนึ่งในด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์สินค้าต่าง ๆ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำและเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในเวลาไม่กี่ปี หวังจะรายงานเหตุการณ์ที่เกิดทั้งหมดก่อนหน้า ทว่ามือหนาที่ยกขึ้นห้ามทำให้เธอเงียบเสียงแทบไม่ทัน "ออกไปก่อน" ไคโรตอบรับเพียงเท่านั้น ปรายสายตามองเด็กชายวัยสี่ขวบที่กำลังจะย่างเข้าห้าขวบในไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้เอาแต่ใจตัวเองจนคนที่เวลาเป็นเงินเป็นทองอย่างเขาต้องพักการประชุมสำคัญก่อนเวลาและเข้ามาจัดการตัวปัญหาด้วยตัวเอง "ที่นี่คือที่ไหนไคเรน" เขาหลุบสายตาถามลูกชายตรงหน้า น้ำเสียงเย็นยะเยือกเป็นเสียงเดียวที่จะเอาลูกชายวัยซนให้อยู่หมัด "ทะ ที่ทำงานแด๊ดครับ" ว่าแล้วเด็กชายก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองคนถามแต่เมื่อสายตาที่ยะเยือกยังไม่ผละไปจากเขา ดวงตากลมโตจึงหันหนีอีกรอบหวังว่าการทำเช่นนี้จะหลีกหนีความผิดได้ "ก็รู้? แล้วลูกทำอะไรลงไป?" "ผมเบื่อ ผมอยากหาอะไรเล่น" "โดยการทำลายเอกสารสำคัญของแด๊ด?" แผ่นเอกสารยังปลิวว่อนรอบห้องราวกับเศษกระดาษรีไซเคิล แน่นอนว่าเขาไม่มีอะไรจะปฏิเสธเพราะหลักฐานมันยังคงทนโท่ตรงหน้า "เธอไม่ยอมให้ผมออกไป" เขาตอบพร้อมเสียงหงอย พูดถึงผู้ช่วยเลขาที่เขาฝากให้เธอดูแลขณะเข้าประชุมกับผู้ถือหุ้น แค่จะขอออกไปวิ่งเล่นนอกห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ แต่เธอกลับไม่ยอม ดักไปทุกหนทาง เขาจึงจำเป็นต้องอาละวาดและโวยวายเผื่อว่าเธอจะยอมขึ้นมา แต่ก็เปล่าเลย...เธอเล่นแจ้นส่งคนไปฟ้องพ่อของเขา เหตุการณ์ในตอนนี้จึงต่างจากความคิดของเขาอยู่มาก "แด๊ดเป็นคนสั่งเอง" "ทำไมแด๊ดต้องห้ามผม" "จำเป็นต้องถามอีกหรือไงไคเรน ลองคิดดูว่าตั้งแต่โตมาลูกทำใครเขาลำบากมากี่คน เขาลาออกกันนับไม่ถ้วน และตอนนี้ลูกกำลังจะทำให้ผู้ช่วยแด๊ดเป็นรายต่อไป" ไคเรนเงยหน้ามองคนเป็นพ่อตาละห้อย ตั้งแต่โตมาเขาผ่านพี่เลี้ยงแทบนับคนไม่ได้ ทุกคนล้วนลาออกเพราะไม่มีใครสามารถทนกับความเอาแต่ใจและนิสัยรั้นของเขาได้ และที่ต้องพยายามกักบริเวณก็เพราะไม่อยากให้อีกหลายชีวิตข้างนอกต้องมาเผชิญกับชะตากรรมเดียวกันกับพี่เลี้ยงพวกนั้น "ผมไม่ได้ตั้งใจ" ไคเรนว่าจบก็ทำหน้าเศร้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด เท่านั้นก็ทำให้ไคโรรู้สึกผิดที่อาจจะพูดแรงไปสำหรับเด็กสี่ขวบแบบเขา ก็อก ๆ การสนทนาระหว่างสองพ่อลูกยุติลงชั่วคราว ไคโรหันไปมองคนเคาะมาใหม่ที่เปิดประตูได้ก็พูดขึ้นมา "ขอโทษค่ะท่านประธาน ตอนนี้ผู้ถือหุ้นเข้ามารอครบทุกคนแล้วค่ะ" "อืม เรียกธันวาเข้ามา" ขณะที่เขาตอบกลับเสียงเรียบ สายตาก็ยังไม่ได้ละจากลูกชายตัวดีที่ยังจัดการไม่เสร็จ เลขาสาวจึงพยักหน้าแล้วเดินออกไปทำตามคำสั่ง ประตูห้องทำงานถูกเปิดอีกครั้ง คราวนี้เป็นธันวาบอดี้การ์ดมือหนึ่งที่ได้รับการไว้วางใจจากเขามากที่สุด ยืนโค้งหัวคำนับรอคำสั่งจากเจ้านายหน้าเข้ม "พาไคเรนไปส่งบ้านสวน แล้วตอนเย็นแด๊ดจะไปรับ" ประโยคแรกเขาออกคำสั่งกับลูกน้องมือดี จากนั้นก็หันไปว่าประโยคที่สองกดเสียงเข้มบอกกับลูกชายอย่างออกคำสั่งไม่ต่างกัน "ผมเล่นที่นี่ไม่ได้เหรอ ผมอยากออกไปเล่นข้างนอก" ไคเรนชี้พ้นออกนอกประตูห้องทำงาน เขายังไม่พอใจที่จะสำรวจบริษัทพ่อตามประสาเด็กที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น แต่ก็ถูกกักบริเวณอยู่นั่น คนเอาแต่ใจจึงหงุดหงิดและไม่ยอมเสียที "ไม่ได้ ถ้าไม่ฟังคำสั่งแด๊ด ลูกอาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีก ธันวาพากลับไป" "ครับนาย" บอดี้การ์ดน้อมรับคำสั่งอย่างไม่รีรอ กำลังจะเอื้อมไปจับมือเจ้านายตัวน้อย แต่ก็ถูกบิดมือหนีอย่างไม่ยอม ไม่จบแค่นั้นเขายังกอดอกหันหน้าหนีแสดงอาการของเด็กที่ถูกตามใจจนเสียคนอีกด้วย "ถ้าไม่ยอมกลับกับธันวาดี ๆ แด๊ดจะยึดโมเดลตัวใหม่ล่าสุดแล้วเผาทิ้งซะ" ไคโรออกคำสั่งขั้นเด็ดขาด เพราะการตามใจของเขาสินะลูกชายถึงได้ดื้อรั้นเอาการขนาดนี้ ทั้งเอาแต่ใจ นิสัยอยากได้อะไรต้องได้และไม่ยอมฟังคำสั่งรวมอยู่ในคนคนเดียว ลูกชายเขาทั้งดื้อแสบซนอย่างไร้ที่ติไม่เกินจริง "ผมกลับก็ได้" แต่ท้ายที่สุดเมื่อคนถูกนำของรักมาขู่ จากที่ไม่อยากจะยอมก็คงต้องยอม มือน้อยเอื้อมไปจับมือธันวาด้วยความจำนน ก่อนที่จะเดินไปอย่างง่ายดายแต่กว่าจะยอมฟังก็เล่นคนเป็นพ่อส่ายหัวไม่หยุด ขนาดเขาที่ดุขนาดนี้ไคเรนยังไม่ค่อยจะฟังคำสั่งแต่ละครา แน่นอนว่าสำหรับพี่เลี้ยงมืออาชีพที่เขาจ้างมาก็อย่าไปพูดถึง ไม่มีใครทนได้ถึงสองเดือนเสียด้วยซ้ำ ทั้งหมดล้วนชิงหนีลาออกกันไปหมด ช่วงเวลาปิดเทอมแบบนี้เขาจึงจำเป็นต้องห้อยสอยมาที่บริษัทด้วยเพื่อไม่อยากเป็นการรบกวนพ่อตัวเองที่อาศัยสันโดษอยู่บ้านสวนแต่สุดท้ายก็ต้องพากลับไปที่เดิมเหมือนเดิม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม